3649. อภินิหารวิญญาณนายจัน หนวดเขี้ยวตอนที่ ๑

เรื่องเล่าลี้ลับของ คุณไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม
ตอนที่ ๑

เรื่องของจิตวิญญาณหรือโลกหลังความตายนั้นแสนลี้ลับและน่าสนใจ บทความต่อไปนี้เป็นเรื่องราวของจิตวิญญาณ และการเข้าทรงของดวงวิญญาณจากโลกหลังความตาย เรื่องเหล่านี้มีทั้งจริงและหลอกลวง แต่ปัจจุบันโดยมากเป็นเรื่องเล่นกลหลอกลวงเสียมาก บ้างเป็นการหลอกตัวเองหรือผู้มีปัญหาทางจิตก็เป็นไปได้ การเข้าทรงของจริงมีน้อยมากเหลือเกิน และยังแบ่งออกไปได้ว่าที่มาเข้าทรงเป็นภูตผีปีศาจ หรือเปรตที่มาแฝงแล้วแอบอ้างเป็นเจ้า เป็นเทพ หรือหลวงพ่อองค์นั้นองค์นี้ แต่ความจริงเป็นวิญญาณมาแฝง

หรือเพื่อหวังเครื่องเซ่นสังเวยหวังลาภผลโดยมิชอบ พวกนี้บอกตามตรงเลยว่ามีจริง พวกผีประเภทนี้แม้นมีฤทธิ์เสกทำวิชาได้ก็ตาม แต่มันก็มีฤทธิ์จำกัดในขอบเขต โดยมากจะรู้แต่เรื่องอดีตไม่รู้เรื่องอนาคต คือ ไม่มีฤทธิ์ล่วงรู้อนาคตได้เลย และพวกนี้หากเราพกของขลังประเภทมีดหมออาคม หรือเบี้ยแก้เบี้ยกันเข้าไปพบ เข้าจะหนีไม่ชอบไม่เข้าใกล้ บ้างออกปากบอกไม่ให้ผู้มีของขลังห้ามเข้าสำนักเขาเลยก็มี ให้รู้เลยพวกที่แสดงอาการแบบนี้ร้อยทั้งร้อย **ผีมาแฝง** พวกที่แสดงอาการเช่นนี้เราไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว

ไพฑูรย์เล่าว่าเมื่อคราวที่หลบไปที่บ้านโพธิ์เก้าต้น ตอนนั้นยังไม่มีอะไรให้เห็นว่าเป็นบ้านบางระจัน นอกจากบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่เชื่อกันสืบมาว่าเป็นสระน้ำกินน้ำใช้ และใช้ทำน้ำมนต์ที่ท่านพระอาจารย์ธรรมโชติได้เสกประพรม เพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่ชาวบ้านบางระจัน เพื่อต่อสู้กับพม่าข้าศึกจนตัวตายสิ้นทั้งค่าย โดยทุกปีในวันที่ค่ายแตก บรรดาลูกหลานที่สืบสายเลือดโดยตรงจะเลี้ยงพระใหญ่ หาบคอนอาหารมาถวายพระ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับปู่ย่าตาทวด พอตอนโพล้เพล้จะนำร่างทรงที่เป็นชายผู้สืบสายเลือดโดยตรง มาให้ดวงวิญญาณของปู่ย่าตาทวดได้ใช้ร่าง เพื่อเป็นตัวแทนออกมาพูดคุยกันเองระหว่างดวงวิญญาณและคุยกับลูกหลาน

ไพฑูรย์เล่าว่าภาษาที่ใช้เป็นภาษาที่ไม่คุ้นหู แต่สื่อสารความหมายได้ชัดเจน บางคำต้องมีฅนมาคอยแปลเสริมให้ ไพฑูรย์ว่าแทบไม่น่าเชื่อว่าร่างแต่ละร่างดื่มสุราเถื่อนต้มเองเป็นไห ๆ แต่ไม่เมา ไม่พับ ไม่ลุกไปเข้าห้องน้ำห้องท่า บรรดาลูกหลานมานั่งเฝ้าผุดลุกผุดนั่ง แต่ร่างทุกร่างนั่งดื่มสุราไม่ลุกไปไหนไม่มีใครเมา เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจว่า วิญญาณทุกดวงคุยกันอย่างสนุกสนานบานใจ คล้ายกับว่าปีหนึ่งได้กลับมาพบปะสังสรรค์กันอีกครา ไพฑูรย์แม้นไม่ใช่ฅนพื้นที่แต่รู้สึกสนใจเรื่องราวเหล่านี้มากเป็นพิเศษ ได้รับเมตตาจากพ่อเฒ่าหาญ อดีตผู้ใหญ่บ้านให้การต้อนรับ ผู้เฒ่าหาญผู้นี้เป็นผู้ที่สืบเชื้อสายตรงมาจากนายจันหนวดเขี้ยว บอกกับไพฑูรย์ว่า

**ทวดจันของเขาเป็นผู้ถูกยกย่องให้เป็นผู้นำค่ายบางระจัน เพราะเมื่อถึงงานเทศกาลอัญเชิญดวงวิญญาณประจำปี บรรดาผู้กล้าทุกดวงวิญญาณจะเรียกดวงวิญญาณทวดจันว่า *พี่จัน* ทุกฅน เพราะมีความอาวุโส และฝีมือการซุ่มโจมตีพม่าข้าศึกเอาชนะด้วยกำลังฅนที่เหนือกว่า แม้แต่ ขุนสรรค์, พันเรือง, นายทอง แสงใหญ่, นายทองเหม็น ล้วนให้ความเกรงใจ**

ผู้เฒ่าหาญผู้นี้เป็นอดีตผู้ใหญ่บ้าน ตำบลโพธิ์เก้าต้น ที่มีผลงานปราบปรามโจรผู้ร้ายมากมาย ตั้งแต่สมัยใช้หมวกกะโล่ติดตราราชสีห์ของกระทรงมหาดไทยมาจนเกษียณ เป็นผู้ฟื้นฟูเรื่องดวงวิญญาณของผู้นำชาวบ้าน โดยบวงสรวงขอความคุ้มครองเมื่อต้องไปปราบเสือเอิบ บ้านระหัด ที่เคยประกาศว่าวันใดเสือเอิบเข้ามาในเขตบ้านโพธิ์เก้าต้นเป็นไม่มีเงาหัว เสือเอิบพาสมุนมาลักพาตัว น.ส. กรอง บุตรสาวนายแม้นคหบดีบ้านโพธิ์เก้าต้น ทิ้งใบบอกว่าให้นำเงิน ๑๐๐ ชั่ง ( แปดพันบาท) ไปไถ่ตัวลูกสาวคืนที่จุดนัดพบที่บ้านชันสูตร หากไม่นำเงินไปไถ่ก็เตรียมรับศพกลับไปได้เลย ให้รอกำหนดวันนัดอีกทีหนึ่ง ผู้ใหญ่หาญหนวดกระดิกคำรามลั่นว่า

**ไอ้เอิบมันกำเริบถึงกับมาเหยียบจมูกกูถึงบ้านโพธิ์เก้าต้น มึงกับกูต้องตายกันไปข้าง กูจะไม่ให้โอกาสมึงได้มอบตัว**

เสือเอิบส่งกำหนดวันนัดและสถานที่มาถึงนายแม้น ผู้ใหญ่หาญมองดูแผนที่แล้วไม่ว่าอะไร บอกกับนายแม้นว่าถึงเวลาก็เดินทางไปตามกำหนด ไม่ต้องห่วง ผู้ใหญ่หาญเอาชีวิตเป็นประกันว่าได้ลูกสาวคืน เงินก็จะไม่ต้องเสีย โดยก่อนวันนัดสามวันผู้ใหญ่หาญระดมลูกบ้าน ที่เคยออกทำงานล่าเสือและควายที่ถูกปล้นไปด้วยกัน ล้วนเป็นลูกหลานบรรพชนบ้านบางระจัน ผู้ใหญ่หาญตักน้ำในสระวัดโพธิ์เก้าต้นขึ้นมาให้หลวงพ่อแป้น วัดบ้านไร่ มาทำน้ำมนต์ผสมน้ำอาบและพรมตัวเพื่อเตรียมออกศึก เหมือนเมื่อครั้งวีรชนบ้านบางระจันออกศึก ผิดกันว่าตอนนั้นมีพระอาจารย์ธรรมโชติเป็นปรานมิใช่หลวงพ่อแป้น วัดบ้านไร่

……….
เรียบเรียง โดย : ฅนขลัง คลังวิชา
……….
Cr. ข้อมูลและภาพประกอบบทความจาก
บทความของคุณไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม
เรียบเรียงถ่ายทอดโดย ส. องครักษ์ นิตยสารมหัศจรรย์

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : ฅนขลัง คลังวิชา
ขอขอบคุณรูปภาพสวยๆจาก : TNews
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: