2657.อาจารย์สักยันต์ หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ

หลวงพ่อสาครเคยเล่าให้ฟังว่าในสมัยที่ท่านอยู่วัดละหารไร่กับหลวงปู่ทิม ท่านได้น้ำมันเสือมาถวายหลวงปู่ทิม (น้ำมันเสือนี้เมื่อคราวไห้วครูปี พ.ศ. ๒๕๑๗ หมอหลาบเป็นผู้สักน้ำมันเสือที่หลังให้ลูกศิษย์หลวงปู่แล้วก็ให้หลวงปู่ทิมท่านเป่าหลังให้อีกครั้ง)

ตอนที่หลวงพ่อสาครยังหนุ่มชอบทางสักและมีฝีมือเรียกว่ากำลังร้อนวิชาเลยก็ว่าได้ จึงอยากลองใช้วิชาสักที่เคยเล่าเรียนมาบ้าง ท่านเคยแอบสักให้พระบ้าง เด็กวัยรุ่นบ้าง นักเรียนบ้าง โดยมีทั้งสักน้ำมันเสือ และสักหมึก

ยุคนั้นจะมีเป็นรูปเสือเชิญธง นกอินทรีบ้าง วันหนึ่งหลวงปู่ทิมเดินผ่านมาเห็นหลวงพ่อสาครกำลังสักให้ลูกศิษย์และมีเด็กวัยรุ่นที่เป็นนักเรียนมานั่งรอเพื่อขอสักยันต์ หลวงปู่ทิมท่านหยุดมองดูแต่ไม่ว่าอะไร แต่เมื่ออยู่กันตามลำพังแค่สองคนหลวงปู่ทิมก็ได้ถามหลวงพ่อสาครขึ้นว่า วันนั้นเขาลงโทษอะไรกัน

พอหลวงปู่ทิมท่านพูดเปรยมาแบบนี้กับท่าน หลวงพ่อสาครก็ทราบได้ทันทีว่าหลวงปู่ทิมท่านไม่สนับสนุนเรื่องการสักยันต์นัก หลังจากนั้นท่านก็หยุดเลิกสักยันต์เลย จนกระทั่งยายมาอยู่วัดหนองกรับก็มีคนพอรู้ข่าวว่าหลวงพ่อสาครท่านมีวิชาสักยันต์และลวดลายสักงดงาม ก็มาคะยั้นคะยอขอให้หลวงพ่อสักให้อีกครั้ง จนบอกเล่ากันปากต่อปาก

จึงมีผู้คนมาขอให้หลวงพ่อสาครสักให้ ยันต์ที่ขึ้นชื่อของหลวงพ่อคือยันต์เก้ายอด หนุมานเชิญธง ลิงลม โดยเฉพาะยันต์หมูทองแดง ค่อนข้างจะเป็นที่ปรารถนาของลูกศิษย์กันเลยทีเดียว ว่ากันว่าใครที่สักเสือพอท่านเป่าเสร็จก็กระโจนลงหน้าต่างเลย

ตามธรรมเนียมของการสักเสร็จแล้วก็ต้องลองของกันหน่อย มีดบ้าง ดาบบ้าง คมแฝกบ้าง ไม่มีเลือดสักหยดเวลาจะสักหลวงพ่อก็ต้องดูวันที่แข็ง ฤกษ์ยามดูทิศ ตั้งเครื่องบูชาครู มีหัวหมู บายศรีซ้ายขวาผ้าขาว ขันล้างหน้า กรวย ๕ คู่ เทียน ๕ เล่ม ดอกไม้ ๕ คู่ ขนมต้มแดงต้มขาว เงินขวัญข้าวค่าครู ๑๒ บาท บางวันสักกันตั้งแต่ ๙ โมงเช้าจนถึง ๓ ทุ่ม

มีคนมาขอให้ท่านสักมากมายขนาดเข้าคิวกันยาวเลย มีทั้งเด็กวัยรุ่น เด็กนักเรียน ถึงขนาดหนีเรียนมาสักเลยทีเดียว ต่อมาพวกเด็กวัยรุ่นที่ได้มาสักกับหลวงพ่อก็คึกคะนองไปตีรันฟันแทงต่อยตีกันจนเป็นเรื่องเป็นราวนำมาซึ่งความวุ่นวาย ท่านว่าหลังจากวันนั้นทำให้ท่านต้องมานั่งพิจารณาจนเห็นว่ามันจะเป็นโทษต่อวัยรุ่นที่กำลังศึกษา

จึงตัดสินใจเลิกสักยันต์นับแต่นั้นมา โดยโยนเข็มสัก ยาสัก น้ำมันสักต่างๆ ทิ้งลงหนองน้ำเลย(ปัจจุบันถมดินไปแล้ว) เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นราวๆ ปี พ.ศ.๒๕๓๐ ทางผู้ว่า..ในสมัยนั้นถึงขนาดต้องเดินทางมาขอให้ท่านเลิกสัก แต่พอมาถึงหน้ากุฏิหลวงพ่อก็เห็นป้ายที่หน้ากุฏิท่านว่า รู้แล้ว เห็นแล้ว เลิกแล้ว ไม่เอาแล้ว

Cr. หนังสือบูรพาไม่สิ้นแสง

หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: