2642.หลวงพ่อชา หลวงพ่อมุม

หลวงพ่อชา หลวงพ่อมุม

เสี่ยจิวเป็นผู้หนึ่งที่เคารพเลื่อมใสในหลวงพ่อมุม และหลวงพ่อชา ตัวเขาเองแขวนพระกริ่ง ศก.ของหลวงพ่อมุม ส่วนภรรยาแขวนล็อคเกตหลวงพ่อชาเขาบอกว่า“ผมศรัทธาหลวงพ่อมุมมานานแล้ว ตะกรุดเงินที่หลวงพ่อมุมจารด้วยมือท่านเองผมก็มี แต่ผมให้ภรรยาแขวนหลวงพ่อชา เพราะว่าเย็นสบายดีกว่า”

เข้าทำนองหลวงพ่อมุมรุ่มร้อน ส่วนหลวงพ่อชาเยือกเย็นจริงหรือไม่ก็ให้เป็นความเห็นของเสี่ยจิวจะเห็นไปเสี่ยจิวเป็นคนภาคกลาง จังหวัดไหนไม่ทราบ ไม่ได้ถาม มาทำอาชีพในศรีสะเกษ แล้วย้ายเข้าเมืองอุบลฯ ปัจจุบันอยู่ช่องเม็ก ประตูเมืองไทยลาวอยู่ตั้งแต่สมัยแรกที่เริ่มเปิดใหม่ ๆ เคยโดนลูกหลวงจากระเบิดเข้าหลังบ้าน ทุกอย่างพังพินาศหมดแปลกที่ถังแก๊สกลับไม่เป็นอะไร

ถ้าถังแก๊สระเบิดด้วยก็น่ากลัวยิ่งเขาว่าพระเขาดี เขาเชื่อพระมั่นคงมากเขาเล่าเรื่องความน่าอัศจรรย์ทางล่วงรู้วาระจิตหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วของหลวงพ่อชาไว้เรื่องหนึ่ง จะได้บันทึกไว้เสียตรงนี้เพื่อนของเขาเป็นชาวไทยเชื้อสายจีนเหมือนกันเป็นผู้ชอบทำบุญกับพระที่มีชื่อ เป็นมงคล เช่น ชื่อมี ชื่อมาก ชื่อมั่น ชื่อคง ชื่อเงิน อะไรทำนองนั้น พอถูกชวนไปทำบุญที่วัดหนองป่าพงกับหลวงพ่อชา เขาก็อ้างว่าวัดหนองป่าพงรวยแล้ว ไปทำกับวัดจน ๆ ดีกว่า แต่ขัดเพื่อนไม่ได้ต้องเดินทางมาวัดหนองป่าพงในที่สุด


หลวงพ่อชา-วัดหนองป่าพง

เมื่อเข้าประตูวัดไป เห็นหลวงพ่อชากำลังกวาดลานวัดอยู่พอดี ยังไม่ทันได้กล่าวอะไร หลวงพ่อชาก็พูดขึ้นก่อน “ไม่อยากมาแล้วมาทำไม” เพื่อนเสี่ยจิวถึงกับร้องครางในใจ เป็นอันว่าเกิดเลื่อมใสหลวงพ่อมาแต่นั้น พูดถึงชื่อที่เป็นมงคลดูเหมือนคนจีนจะชอบกันมากเป็นคตินิยมประจำเชื้อชาติก็ว่าได้แต่แท้จริงแล้วชื่อเป็นเพียงของสมมุติเท่านั้นมงคลไม่ได้อยู่ที่ชื่อเช่นว่าถ้าเราจะเรียกเหี้ยว่าพญามังกรทอง หรืออะไรก็สุดแต่จะเรียกให้ไพเราะแก่ใจตน เรียกไปแล้วมันก็คงเป็นเหี้ยอยู่เหมือนเก่านั่นแหละ

ถ้าผมเกิดมีอันได้บวชเป็นพระ และบวชได้จนตลอดชีวิต ก่อนบวชผมจะเปลี่ยนชื่อตัวเองเสียใหม่ อาจชื่อเฮงก็ได้ ลูกศิษย์ลูกหาจะได้เรียกว่าหลวงพ่อเฮง หลวงพ่อเซ็งลี้ฮ้อ ทำนองนั้น ผมคงได้ลูกศิษย์ที่ถือเอาชื่อเป็นมงคลมากมายก็นั่นแหละครับที่เรียกว่าความเห็น คนเราแต่ละคนเห็นอะไรไปตามแต่จะเห็น ไม่ว่ากันดูไปที่วัตถุมงคลที่ทุกวันนี้มีการสร้างอย่างมากมายหลายสำนัก

การตั้งชื่อวัตถุมงคลก็ล้วนแต่ตั้งเพื่อเอาใจผู้ศรัทธาประเภทนี้ เปิดหนังสือพิมพ์รายวันก็จะเห็น นี่เป็นเรื่องความเชื่อถือในชื่อที่เป็นมงคลจะได้เสริมให้ตนเองร่ำรวยและมีโชคลาภมาก ๆเชื่อผมเถิดครับ เรื่องโชควาสนาบารมีของคนเรานั้น ไม่มีทางเหมือนกัน ขนาดหลวงพ่อเจ๋งๆ บอกหวยตรงๆ คนไม่ถูกยังมี คนถูกก็มี คนถูกเยอะถูกน้อยอีกต่างหากไม่ได้เกี่ยวกับชื่อหรือเกี่ยวกับอะไรเลย ขึ้นอยู่กับตนเองทั้งนั้น

สมัยหนึ่งผมเป็นหนี้มากไม่รู้จะหาเงินใช้หนี้เขาอย่างไร กัดฟันแทงหวยสามตัวเป็นเงินก้อนใหญ่ คิดว่าถ้าถูกเป็นหมดหนี้แน่นอนหวยก็คิดเอาเองไม่มีอาจารย์บอกใบ้ เรียกว่าแทงส่งเดช ไม่ต้องดักหน้าดักหลัง กลับตัวหรือโต๊ด จนเจ้ามือตกใจ บอกให้ผมลดจำนวนเงินแทงลง ผมก็ไม่ยอมยังคงแทงตามจำนวนเงินเดิม และให้เจ้ามือไปหาที่ออกตัวเองเอง เขาก็รับ พอถึงวันหวยออก ทายสิครับว่าผมถูกไหม ไม่ถูก


หลวงพ่อคำพันธ์ โฆษปัญโญ

หลวงพ่อคำพันธ์ โฆษปัญโญ ได้บอกผมภายหลังที่ผมหมดตัวกับหวยว่า “เหมือนเราตีเช็คไป ถ้าไม่มีเงินฝากในธนาคารแล้วเช็คมันก็เด้ง หวยก็เหมือนกัน เราต้องทำบุญทำทานมาก ๆ”คุณพิบูลย์ เจ้าของท่าทรายในเมืองเชียงใหม่ เดี๋ยวนี้ร่ำรวยมาก แต่เดิมยากจนมาก่อน ได้ให้ข้อคิดแก่ผมว่า“ขณะนี้ในตระกูลของผม มีผมรวยที่สุด ทุกคนยังยากจนอยู่ ผมเอาน้องชาย เอาพี่ ๆ น้อง ๆ มาทำงานด้วย สิ่งแรกที่ผมสอนเขาคือสอนให้ทำบุญ พาเขาเข้าวัด ตั้งโรงทานแจกทาน และทำบุญไปเรื่อย ๆ เมื่อทำบุญเป็นแล้วผมจึงสอนธุรกิจให้ เชื่อผมเถิดครับ ทำบุญน่ะยิ่งทำยิ่งรวย ดูผมเป็นตัวอย่าง ผมไม่มีอะไรเลย แต่ผมทำบุญตลอดมา เดี๋ยวนี้ผมทำแบบใหม่ คือ 10 เปอร์เซ็นต์จากผลกำไร ผมเอาไปทำบุญหมด”

น่าคิดนะครับเวลานี้คุณพิบูลย์มีเงินกี่ร้อยล้าน ผมไม่กล้าคำนวณ แต่ตอนเริ่มต้นชีวิตของคุณพิบูลย์นั้นได้เงินเดือนแค่ 700 บาทคุณพี่ธนิต สโมสร สถาปนิกใหญ่ เป็นคนชอบทำบุญเช่นกัน นั่งรถไปด้วยกันเห็นคนแก่ท่าทางน่าสงสารเดินอยู่ข้างทาง สั่งรถให้จอดกึก วิ่งลงไปให้คนแก่ 300 บาท เพราะว่าสงสาร คิดว่าแกคงลำบาก คนแก่คนนั้นไม่รู้ว่าคิดอย่างไร แกพูดว่า“ตั้งแต่เดินออกจากบ้านมา นึกอยู่แล้วว่าวันนี้ต้องได้เงิน”คุณพี่ธนิตหัวเราะชอบใจใหญ่บางทีคนแก่คนนั้นอาจเป็นผู้ชอบทำบุญเหมือนกันก็ได้ เลยได้เงินตั้ง 300 ส่วนคุณพี่ธนิตผมเห็นท่านสุขสบายดี งานก็เยอะ เงินก็มาก ไม่ขาดมือนี่ผมลื่นไถลมาเรื่องทำบุญตั้งนาน กลับลำมาที่เรื่องของวัตถุมงคลหลวงพ่อชากับหลวงพ่อมุมดีกว่า

มีวัตถุมงคลอยู่รุ่นหนึ่ง ที่หลวงพ่อชาและหลวงพ่อมุมได้ปลุกเสกร่วมกัน ก็เหรียญ 5 พระอาจารย์ ของสมาคมศิษย์เก่าเบ็ญจมะมหาราชนั่นแหละครับ ระหว่างงานพระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อชา มีผู้เดินทางมาจากทั่วสารทิศจำนวนนับแสนหลายคนมาซื้อหนังสือรวมภาพและประวัติพระเครื่องของหลวงพ่อชา นอกจากมาซื้อหนังสือแล้วมักถามว่ามีพระเครื่องของหลวงพ่อด้วยไหม ผมตอบว่าไม่มี ความจริงมี แต่ผมขายให้ไม่ได้เพราะว่าเดี๋ยวนี้พระเครื่องของหลวงพ่อมีราคาแพงมากผมเองก็ซื้อเขามาในราคาแพงเหมือนกัน จึงอยากเก็บไว้เองมากกว่า

แต่ผมแนะนำให้ไปเอาเหรียญ 5 พระอาจารย์ เพราะว่ายังมีเหลืออยู่มากและราคายังไม่แพงแต่เดี๋ยวนี้ทางสมาคมขยับราคาขึ้นไปอีกแล้วนะครับ เป็นเหรียญละ 50 บาทใครสั่งซื้อไปให้เปลี่ยนแปลงเสียใหม่ ไม่ใช่ราคา 20 เหมือนก่อนพูดถึงหนังสือรวมภาพและประวัติพระเครื่องของหลวงพ่อชานั้น ถือได้ว่าเวลานี้มีอยู่เพียงฉบับเดียวที่รวบรวมพระเครื่องของท่านไว้ได้ครบ ถ้วนที่สุด

ยังไม่มีใครทำซ้ำซ้อนออกมาเพราะว่าถ้าจะมีผู้ทำก็ต้องอาศัยข้อมูลจากหนังสือเล่มนี้ และอาศัยภาพจากหนังสือเล่มนี้เป็นส่วนใหญ่เรื่องที่จะหาพระเครื่องของหลวงพ่อมาถ่ายภาพเองนั้นยากมากหนังสือเล่มนี้จึงเป็นเล่มเดียวที่ยังไม่มีใครทำตามออกมา เสียแต่ว่าผู้อยากได้ออกจะลำบากสักหน่อย ต้องสั่งซื้อทางไปรษณีย์เท่านั้น เคยมีผู้ถามว่าทำไมไม่วางจำหน่ายความจริงเคยวางจำหน่ายตามแผงทั่วไปมาแล้วครั้งหนึ่ง ทุกวันนี้เก็บกลับคืนจากแผงหนังสือทั่วประเทศหมดแล้ว จะเอาไปวางซ้ำอีกก็น่าเกลียด คงเพียงโฆษณาเพื่อให้ผู้ที่ยังไม่ได้ ยังไม่มี สั่งซื้อเอาเท่านั้นแผงหนังสือในเมืองอุบลฯ หลายแผงได้ติดต่อมาเหมือนกัน อยากได้ไปวางประจำแผง

ผมเห็นว่าพอเป็นไปได้ เพราะว่าอยู่ในจังหวัดอุบลฯ อยู่ในพื้นที่ซึ่งพออนุโลมได้ จึงตัดสินใจมอบให้ไป แต่ก็ไม่ทุกแผง คงให้เฉพาะแผงที่ต้องการ และได้ติดต่อมาเท่านั้นท่านที่นึก ๆ อยากได้ไว้มั่ง ไม่อยากได้มั่ง ให้ทำใจนึกเสียใหม่เถิดครับ เพราะว่าหนังสือเหลืออยู่ราว ๆ 2 พันเล่มเท่านั้น หมดแล้วไม่รู้ว่าจะได้พิมพ์อีกเมื่อไหร่ที่สำคัญคือเป็นการใช้ข้อมูลเกี่ยวกับพระเครื่องหลวงพ่อชาที่คนไม่รู้ว่า ท่านมีอย่างถูกต้องที่สุด สามารถใช้เป็นตำราชี้นำในการพิจารณาพระเครื่องหลวงพ่อชาได้สำหรับผู้สั่งซื้อทางไปรษณีย์แล้วไม่ได้รับหนังสือนานเกินไป ให้จดหมายทวงถามไปได้ที่คุณสุรจรรยา สุวานิโช เพราะว่าบางทีการส่งอาจมีเหตุขัดข้อง

อย่างเช่น คุณณรงค์ งามพาณิชย์วัฒน์ หนังสือส่งไปแล้วแต่ถูกตีกลับ เพราะว่าไปรษณีย์บอกว่าไม่มีเลขที่บ้านนี้ คุณณรงค์ถ้าอ่านพบ ให้ติดต่อส่งที่อยู่ไปใหม่ด้วยส่วนพระเครื่อง 5 พระอาจารย์ ที่มีหลวงพ่อชาและหลวงพ่อมุมปลุกเสกนั้น สามารถสั่งซื้อได้ที่ คุณสุพรรณี สุวรรณกูฏ เลขาฯ สมาคมศิษย์เก่าฯ โรงเรียนเบ็ญจมะมหาราช อ.เมือง จ.อุบลฯ 34000 ราคาเหรียญละ 50 บาท บวกค่าส่งอีก 10 บาทด้วยทีนี้มาที่วัดปราสาทเยอของหลวงพ่อมุมบ้าง ทุกวันนี้ยังมีพระเครื่องของหลวงพ่อมุมตกค้างอยู่เหมือนกันเป็นพระผงรูปพระ นาคปรกศิลปทวารวดี ด้านหลังเป็นรูปหลวงพ่อมุม สร้างไว้แต่ปี 2520

หลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอร์

สาเหตุที่เหลืออยู่นั้น ท่านเจ้าอาวาสวัดปราสาทเยอ ได้บอกว่า พอหลวงพ่อมุมมรณภาพ ก็ได้เก็บพระทั้งหมดไว้ทันที งดจำหน่าย พระเลยเหลืออยู่ถึงตอนนี้วัดต้องการปัจจัยบูรณะอารามจึงตัดสินใจนำออกจำหน่ายเป็นรอบที่สองใครสนใจให้สั่งซื้อได้ทางไปรษณีย์ ส่งตั๋วแลกเงิน 50 บาทต่อพระ 1 องค์ไปที่พระอธิการเลื่อน อานนโท เจ้าอาวาสวัดปราสาทเยอเหนือ ต.ปราสาทเยอเหนือ อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ รหัสไปรษณีย์กรุณาตรวจค้นเอง เพราะผมไม่ทราบ

เมื่อทางวัดได้รับตั๋วแลกเงินแล้ว จะจัดส่งพระให้ทางไปรษณีย์เช่นกันอาจระบุลงไปในจดหมายสั่งซื้อว่าต้องการพระสมเด็จนาคปรก หลังรูปเหมือนหลวงพ่อมุม ทางวัดก็คงเข้าใจ และส่งพระให้ได้ถูกต้องตามที่ต้องการรายละเอียดเกี่ยวกับหลวงพ่อมุม คุณพันฤทธิ์ได้เขียนไว้แล้ว ไม่รู้ว่าลงพิมพ์หรือยัง แต่ก็เขียนไปแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องสาธยายซ้ำอีกพระรุ่นนี้ไม่ใช่ของแพง ราคาถูก แต่เป็นของดีราคาถูกให้มีไว้ติดตัวแล้วสบายใจได้

เพราะหลวงพ่อมุมนั้นท่านไม่ใช่จะเก่งธรรมดาอภินิหารทางช่วยเหลือผู้ประสบภัยมีมากและไว้ใจได้แน่ที่สุดซำบายดีครับ………………………………………………………..งานเขียนของคุณอาอำพล เจน เขียนไว้ ในหนังสือศักดิ์สิทธิ์ฉบับที่ 246วันที่ 1 เมษายน 2536

ขอบคุณที่มา www.ampoljane.com

แอพเกจิ

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: