2620.ผ้ายันต์ธงมหาพิชัยสงคราม ตำราหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค

ประวัติผ้ายันต์ธงมหาพิชัยสงครามได้จากตำราหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตามตำราท่านให้ชื่อว่า ธงมหาพิชัยสงคราม เป็นตำรา ที่หลวงปู่ปานท่านเรียนและได้รับตำรานี้จากท่านอาจารย์แจง เมืองสวรรคโลก (อำเภอสวรรคโลก ปัจจุบัน)

ตามตำราแจ้งว่าเป็นตำราที่พระร่วงใช้ในสมัยกู้ชาติ ท่านอธิบายผลไว้มากมาย ขอแจ้งแต่เพียงสรรพคุณโดยย่อว่า ท่านใช้เป็นธงนำทัพวิธีใช้ผ้ายันต์ฯ ก่อนใช้ให้อาราธนาบารมีพระพุทธเจ้า ครูบาอาจารย์อื่นๆ สืบๆกันมา มีหลวงปู่ปานเป็นที่สุดแล้วปลุกด้วยคาถา ” พุท ธะ สัง มิ “

ผ้ามงคล(ธงมหาพิชัยสงครามนี้)จะมีผลประการใดบ้าง ก็ขอให้ท่านผู้ใช้ได้ทราบเอง เมื่อถึงวาระที่จำเป็นทุกวันท่านให้อาราธนาเป็นปรกติตอนเช้าเมื่อตื่นนอนใหม่ๆ และเวลาเย็นก่อนอาราธนาขอให้ระลึกถึงบารมีพระ พุทธเจ้าทุกๆพระองค์ครูบาอาจารย์ ทั้งหลายสืบๆกันมา มีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคเป็นที่สุด


หลวงพ่อปาน-วัดบางนมโค

แล้วอาราธนาว่าดังนี้”อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึงแก่มะอะอุนี้เถิด”คาถาอาราธนานี้ หลวงพ่อปานบอกว่าเป็นคาถาอาราธนาของพระร่วง

ความรู้เรื่องธงมหาพิชัยสงคราม เเละความหมายของยันต์บนผืนธงพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ ท่านกรุณาเล่าให้ฟังว่า เป็น ธงออกศึกของพระร่วง ในสมัยก่อนพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ ได้ตำราการทำยันต์ธงมหาพิชัยสงครามนี้ มาจาก อ.แจง ชาวสวรรคโลกซึ่ง อ.แจงนี้ เป็นฆราวาส แต่ทรงสมาบัติ 8

ธงมหาพิชัยสงครามนี้หากนำทัพเข้าสู่สงครามจะไม่ประสบกับความพ่ายแพ้ พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านเคยกรุณาบอกไว้ว่าผืนเดียวคลุมทั้งฐาน หมายถึง ถ้ามีผ้ายันต์นี้ ผืนเดียวสามารถคุ้มครองได้ทั้งฐานทัพ ไม่ว่าจะสร้างเป็นค่าย หรือแค่ บังเกอร์ ตัวอย่างมีเยอะครับพี่ๆ ทหารที่เคยไปรบด้านตาพระยาน่าจะรู้ซึ้งถึงพระพุทธคุณของธงมหาพิชัยสงครามนี้ดี

มีเกร็ดอยู่อีกหน่อยว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ ท่านสั่งห้ามว่า ถ้าได้ธงผืนนี้ไปแล้ว ห้ามปลุกโดยเด็ดขาด เพราะอานุภาพสูงมาก ถ้าไปปลุกธงมหาพิชัยสงครามนี้ อาจถึงตายได้ครับ ในตำราสมุดพระร่วงได้จารึกตำราสร้างธงมหาพิชัยสงครามนี้เเละยังรวมไปถึงวิธีการเป่ายันต์เกราะเพชรของสายพระเดชพระคุณหลวงปู่ปาน และพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานปัจจุบัน

ตำรานี้พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษี ท่านได้ถวายในหลวงไปตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๒๐ แล้วเพราะหลวงพ่อฯ ท่านเป็นลูกหลานคนสุดท้ายของตระกูลพระร่วงที่สืบเขื้อสายมาในส่วนของตำราพระร่วงนี้ ถ้าบุคคลอื่นได้ตำรานี้ไปก็ไม่สามารถทำวัตถุมงคลต่างๆ ได้ถึงอานุภาพสูงสุดไม่เกิน 10% เพราะท่านเจ้าของตำราคือ ท่านพ่อปู่ท้าวผกาพรหม ท่านไม่อนุญาต

ดังนั้นตามคติคนเรียนวิชาแต่โบราณ ถ้าสิ้นสุดสายการสืบทอดวิชาถ้าจะเริ่มวิชาใหม่ ต้องไปขอต่อพระเจ้าแผ่นดินให้พระเจ้าเเผ่นดินครอบครูให้ พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ ท่านทราบข้อบังคับนี้ท่านจึงถวายตำรานี้แด่ในหลวงครับอานุภาพผ้ายันต์มหาพิชัยสงครามในเหตุการณ์ระหว่างปี ๒๕๑๘-๒๕๒๐ เล่าโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน(คัดบางตอนจากหนังสือ ลูกศิษย์บันทึก ๓ หน้า ๑๐๔-๑๐๗)

ผ้ายันต์ธงมหาพิชัยสงคราม

สมัยนั้น ผกค.มีอิทธิพลสูง ได้ยึกเทือกเขาภูพานได้เป็นฐานใหญ่ของเขา และยังท้าทายฝ่ายทหารว่า หากจะตีเขาได้ต้องใช้กำลังหลายกองพล และใช้เวลาหลายเดือนจึงจะสำเร็จ พล.ต.ยุทธศิลป์ เกสรสุข ยศในขณะนั้น (ปัจจุบันมียศ พล.ท.)ซึ่งเป็นรองแม่ทัพ

จึงนำเรื่องนี้มากราบเรียนหลวงพ่อๆ เป็นพระจะไปรบกับเขาก็ไม่สมควร แต่ท่านมีวิธีช่วยเป็นกำลังใจให้กับทหารดังนี้ ๑.ท่านเดินทางไป พร้อมกับคณะเพื่อทำพิธีบวงสรวงก่อน ที่ฐานทัพของทหา ร๒.แจกผ้ายันต์ ธงมหาพิชัยสงคราม ให้กับทหารในหน่วยนั้น ทุกคน (ผ้ายันต์สีแดง) ๓.ให้ฤกษ์แก่ฝ่ายทหาร ทั้งนี้หมายถึงให้ฤกษ์ดีว่าเป็นมงคล ไม่ได้ระบุให้เข้าไปตีกันรบกัน เพราะไม่ใช่กิจของสงฆ์ ส่วนเขาจะไปทำอะไรกันนั้น พระท่านต้องอุเบกขา

ผมจำได้ว่า หลวงพ่อทำพิธีตั้งแต่เช้ามาก เพราะจากรูปถ่ายที่ นาวาตรี ประชาสิกขวานิช ร.น. ถ่ายไว้ ปรากฏพุทธนิมิตเป็นฉัตร ๕ ชั้น ทอดมาตามแสงแดดครอบคลุมองค์หลวงพ่อเท่านั้น ยังทำมุมน้อยมาก (มีรูปถ่ายที่บ้านสายลม และที่วัดท่าซุง) หลังพิธีแล้ว ฝ่ายทหารก็นำหลวงพ่อ หลวงปู่ธรรมชัย และคณะเข้าห้องยุทธการ เพื่อฟังการบรรยายสรุปของฝ่ายทหาร เมื่อบรรยายจบ ปรากฏว่ามีนายทหารที่ฉลาดถามได้ถามหลวงพ่อกับหลวงปู่ว่า ขณะนี้ ผกค.อยู่ที่ไหนบ้าง

โดยให้ท่านเอาไม้เท้าชี้ไปที่แผนที่ทหาร ปรากฏว่าท่านชี้จุดให้ทันทีทันใด โดยไม่ต้องคิด หรือต้องเสียเวลา ฝ่ายทหารต่างร้อง อื๊อ พร้อมๆ กันหลายคนและบอกว่าตรงจุดเป๋งเลยครับหลวงพ่อ บางคนไม่ฉลาดถามก็ถามวิธีเข้าโจมตี หลวงพ่อก็ปฏิเสธเพราะไม่ใช่กิจของสงฆ์ ส่วนวิธีการถามที่ฉลาดผมขอสงวนไว้ก่อนครับ

หลังจากจากหลวงพ่อและคณะ ได้เยี่ยมให้กำลังใจกับทหาร ตามหน่วยต่างๆ แล้ว ก็กลับไป กทม. และจากนั้นอีกไม่กี่วัน พล.ต.ยุทธศิลป์ ก็สั่งทหารแค่ ๑ กองร้อยเข้าโจมตีที่มั่น ผกค.เป็นการหยั่งเชิง โดยมีตัวท่านเป็นผู้สั่งการอยู่บนเครื่องบิน ผลปรากฏว่าดีมากเกินคาดหมาย แต่มีรายงานทางวิทยุว่ามีทหารตาย ๑ นาย ท่านเกิดสงสัยว่ามันตายได้อย่างไร เพราะท่านมั่นใจว่าทหารของท่านต้องไม่มีใครตาย ท่านให้แค่บาดเจ็บเท่านั้น

ผ้ายันต์ธงมหาพิชัยสงคราม

จึงสั่งลงมาจากเครื่องบิน ให้ค้นตัวทหารที่ตายว่า พบอะไรติดตัวบ้างโดยเฉพาะผ้ายันต์แดงธงมหาพิชัยสงคราม ทหารก็รายงานว่า ไม่พบผ้ายันต์แดงเลยในตัว ท่านรู้สึกผิดหวังมากที่เขาไม่พกผ้ายันต์แดงไปด้วย ทั้งๆ ที่สั่งแล้ว เมื่อถอนตัวกลับฐานทัพ ก็สอบหาข้อเท็จจริงเรื่องพลทหารที่ตายว่าชื่ออะไร อยู่หน่วยไหน ทำไมจึงไม่มีผ้ายันต์แดงก็พบว่าเป็นทหารที่เพิ่งย้ายกลับเข้ามาเมื่อวานนี้ เอง จากหน่วยทหารราชบุรี (อ.ปากท่อ) ท่านจึงร้องอ้อ

วันที่ ๒ ท่านเพิ่มหน่วยจู่โจมเป็น ๒ กองร้อย ผลปรากฏว่ามีตาย ๒ คน และก็มีสาเหตุจากไม่มีผ้ายันต์แดงติดตัวเช่นกัน เพราะเพิ่งย้ายเข้ามาจากหน่วยอื่น “ความลับไม่มีในโลก” ทั่วทั้งกองทัพรู้ข่าว รู้อิทธิปาฏิหารย์ของผ้ายันต์ ธงมหาพิชัยสงคราม กันหมด ผลคือทหารทุกคนที่ไม่มีผ้ายันต์สีแดงจะไม่ยอมออกโจมตีในวันต่อไป จึงเดือดร้อนถึงท่านรองแม่ทัพ ดังนั้น เพื่อขัวญและกำลังใจของลูกน้อง ท่านรองจึงต้องบินมาหาหลวงพ่อในคืนนั้น เพื่อขอผ้ายันต์แดงไปแจกลูกน้องให้ครบทุกคนวันที่ ๓ ทุกคนมีขัวญและกำลังใจเต็ม ๑๐๐% ใช้กำลังเป็น ๓ กองร้อย

ปรากฏผลว่าสามารถยึดฐานโหญ่ และฐานย่อยของภูพานได้ทั้งหมด ชนิดที่ ผกค.ขัวญกระเจิงไม่ยอมสู้ด้วย เพราะวันที่ ๓ นี้ทหารทุกคนถือปืนวิ่งเข้ายึดฐานโดยไม่มีใคร ยอมหมอบ หรือวิ่งเข้าหาที่กำบังเหมือน ๒ วันแรก ทุกคนดาหน้าเข้ายึดเอาดื้อๆ โดยไม่กลัว ไม่ยอมหลบลูกปืนสักคน จึงยึดได้ด้วยเวลาอันสั้นและไม่มีใครเสียชีวิตเลย

ผมนึกภาพเอาเองนะครับว่า หากผมเป็น ผกค.ผมก็คงต้องวิ่งหนีเอาตัวรอด เพราะยิงเท่าใหร่ก็ไม่โดนตัว หรือโดนก็ไม่เข้า คงดาหน้าเข้ามาเต็มไปหมด เหมือนกับยิงทหารที่ทำจากหุ่น (เหมือนในสมัยขุนแผนท่านแม่ทัพเสกหุ่นให้เป็นทหารรบที่ไหนก็ชนะหมด)หลวงพ่อท่านทราบข่าวจากรองแม่ทัพ ท่านพร้อมคณะก็ไปเยี่ยมทหารหน่วยนั้นในวันต่อมา หลังจากได้คุยกับทหารหน่วยรบพิเศษนี้แล้ว ผมพอสรุปย่อๆ ดังนี้

๑.ขณะที่ฝ่าย ผกค.ยิงปืนเข้าใส่พวกเรานั้น ส่วนใหญบอกว่าไม่โดนแต่เฉี่ยว หรือเฉียดตัวไป รู้สึกว่าลูกปืนมันวิ่งเต็มไปหมด แต่ไม่ยักโดนตัว ๒.บางคนบอกว่า บางครั้งก็โดน แต่ไม่เข้า ไม่รู้สึกเจ็บ มีความรู้สึกคล้ายๆ มีแมลงหรือผึ้งบินมาชนตัวเท่านั้น ๓.มีอยู่ ๑ ราย ที่เล่าว่า ขณะที่เดินไปบ้าง วิ่งไปบ้าง ยิงปืนใส่ข้าศึกบ้าง รู้สึกหิวจึงเอามือล้วงมาม่า (เส้นหมี่) กินไปด้วย แต่แปลกใจว่า ทำไมมาม่ามันถึงแข็ง และเหนียวนักเลยคลายออกมาจากปากดู ปรากฏว่ามันไม่ใช่มาม่า แต่เป็นลูกปืนที่ข้าศึกยิงมาโดนตัว แต่ไม่เข้าลูกกระสุนแบนเหมือนถูกบี้ แล้วจึงหล่นลงไปในกระเป๋าเสื้อที่มีมาม่าอยู่

หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ

๔.บางคนเล่าว่า ขณะวิ่งไปยิงไปนั้น บางครั้ง ก็มองเห็นข้าศึก ที่ซุ่มอยู่ข้างทาง แต่มันไม่ยักยิง เห็นตามันค้างคล้ายกัยหุ่น หรือคนตกใจ ข้อนี้ขออนุญาตวิจารณว่า คงเป็นเพราะอานุภาพของผ้ายันต์แดงทำให้เกิดอาการ “นะ จัง งัง” ขึ้น หรือเพราะมันตกใจจริงๆ ที่ไม่เคยเห็คนที่ไม่ยอมหลบลูกปืน จึงมีสภาพคล้ายเห็นผี

๕.เรายึดได้ฐานใหญ่มาก จนไม่น่าเชื่อ เพราะฐานนี้ มีทั้งโรงพยาบาล และเวชภัณฑ์มากมาย มีโรงพลศึกษา สนามบาส โรงครัวขนาดใหญ่ พร้อมเสบียงกินได้เป็นปี อาวุธมากมาย เครื่องปั่นไฟ และน้ำมันโดยเฉพาะราวตากผ้า ท่านรองแม่ทัพบอกว่า ต้องใช้รถ ๑๐ ล้อทั้งคันอาจจะขนไม่หมด แสดงว่ามีกำลังพลไม่ใช่น้อยเกินกว่าที่เราคาดคะเนไว้อีก และมีการทดน้ำไว้ด้วย แสดงว่าเขาอยู่นานหลายปี

๖.เนื่องจากเราใช้กำลังพลน้อยแค่ ๓ กองร้อย หากยึดพื้นที่ไว้ ก็เสี่ยงเกินไป เพราะตอนกลางคืนมันอาจหวนกลับมาใหม่ก็ได้ จึงสั่งทำลายและเผาให้หมด สำหรับผมคิดเอาเองว่าหากผมเป็น ผกค. ก็ไม่ขอยอมหันหลังกลับมาตียึดคืนแน่ๆเพราะเข็ดไปจนตาย จะไม่ขอพบทหารผี (ทหารหุ่น) เหล่านี้อีก

๗.เป็นจริงตามคาดหมาย เพราะตั้งแต่ครั้งนั้นมา ผกค.ก็หายซ่าไปเลยเรื่องของหลวงพ่อท่าน ยังมีอีกมากยากที่ผมจะเล่าให้ฟังหมดได้ และโดยธรรมแล้ว อะไรก็ตามที่มันมากเกินไปผลแทนที่มันจะมากตามส่วน กลับไม่ได้ผล หรือกลับเป็นผลเสีย


หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ผมจึงขอจบเรื่องไว้อีกตอนหนึ่งเพียงแค่นี้แต่ก่อนจะจบขอสรุป เรื่องผ้ายันต์แดงธงมหาพิชัยสงคราม ไว้เพื่อเตือนความจำไว้ดังนี้ ๑.ความศักดิ์สิทธิ์ ของธงมหาพิชัยสงครามมีมากมาย เขียนอีก ๒-๓ ตอนก็ไม่จบ ที่เล่าให้ฟังนี้เป็นเพียงตัวอย่างบางเรื่องเท่านั้น ๒.ผู้นำไปใช้ หากนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง เช่น เป็นโจร-ปล้น-ฆ่าเขา-โขโมยเขา ธงนี้ไม่คุ้มครอง ซ้ำยังให้ผลร้ายกับผู้นั้นด้วย หากถูกยิง ลูกปืนจะเข้าแสกหน้าทะลุท้ายทอยทุกราย ๓.ธงมหาพิชัยสงคราม ไม่ใช่ไสยศาสตร์ แต่เป็นพุทธศาสตร์ จึงไม่เสื่อม (หากใช้ในทางที่ดี)

๔.เวลาทำ พิธีพุทธาภิเษกนั้น ธงแดงมหาพิชัยสงคราม กับ ผ้ายันต์เกราะเพชรซึ่งมีรูปหลวงพ่อปาน และ รูปยันต์เกราะเพชรนั้น ทำเหมือนกัน มีคุณภาพเหมือนกัน ทุกประการ ใช้แทนกันได้ ๕.เรื่องป้องกัน หรือบรรเทาอุบัติเหตุ ไฟไหม้บ้าน พายุใหญ่ หรือวาตภัย มีผู้เล่าให้ฟังเสมอว่ามีผลดีอย่างอัศจรรย์ ส่วนเรื่องอื่นๆ ต้องอธิษฐานขอ และผลขึ้นอยู่กับความมั่นคงของจิตของแต่ละคนด้วย

หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ

แอพเกจิ

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: