2611.หลวงพ่อทูลโปรดโยมพ่อในยมโลก

หลวงพ่อทูลโปรดโยมพ่อในยมโลก

เมื่อภาวนาไปได้ ๓ วัน ในคืนนั้น ได้เกิดนิมิตเห็นเส้นทางอันราบรื่นขึ้นต่อหน้า

ข้าพเจ้าได้ออกเดินทางตามทางนั้นไป อีกพักหนึ่ง

ได้เห็นประตูเหล็กขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้า มีชายฉกรรจ์รักษาประตูอยู่ ๔ คน

แต่ละคนถือหอกดาบครบมือ มีหน้าตาเคร่งขรึม ยืนนิ่งอยู่
ข้าพเจ้าก็เดินเข้าไปหาเพื่อจะถามว่านี้เป็นสถานที่อะไร
ทางนี้จะไปที่ไหน ทั้ง ๔ คนนั้นได้ไหว้แสดงความเคารพนอบน้อมเป็นอย่างดี
แล้วได้พูดขึ้นว่า

“ที่นี่เป็นประตูเข้าไปสู่ “ยมโลก”
ทุกคนที่ตายจากเมืองมนุษย์แล้วต้องเข้ามาให้สืบสวนสอบสวนในที่แห่งนี้ทุกคน”

เขาถามข้าพเจ้าว่า “พระคุณเจ้ามีความประสงค์สิ่งใดจึงได้มาในที่แห่งนี้”

จึงตอบเขาไปว่า “อาตมามีความประสงค์อยากทราบว่าโยมพ่อของอาตมาที่ตายไปแล้วได้เข้ามาในที่แห่งนี้หรือไม่”

เขาถาม” ขณะนี้พระคุณเจ้ากำลังติดตามหาโยมพ่อใช่ไหม”

ตอบเขาไปว่า” ใช่แล้ว อาตมากำลังติดตามหาโยมพ่อ”

เขาพูดว่า” ถ้าเช่นนั้น ขอนิมนต์พระคุณเจ้าเข้าไปสอบถามหัวหน้าที่อยู่ภายในเถิด”

จากนั้น ประตูเหล็กขนาดใหญ่ก็ได้เปิดออก ข้าพเจ้าก็เดินเข้าไป

พอดีไปพบกับหัวหน้าใหญ่นั่งอยู่บนเก้าอี้ เป็นผู้ตรวจบัญชีของคนตายทั้งหมด​ ว่าคนที่ตายนั้นมีอายุเท่าไร อยู่ที่ไหน บ้านเลขที่เท่าไร​ ตำบล อำเภอ จังหวัดอะไร ชื่ออะไร นามสกุลอย่างไร
เหมือนกันกับจดลงในใบสำมะโนครัวทั้งหมด

เมื่อเข้าไปถึง ดูเขาทำท่าตกตะลึงไปบ้าง แต่ก็มีความอ่อนน้อมถ่อมตัวดี
เมื่อเขายกมือไหว้แล้วก็พูดว่า

” พระคุณเจ้ามีความประสงค์อะไรหรือครับ”

ก็ได้เล่าให้เขาฟังว่า “อาตมากำลังติดตามหาโยมพ่อ
เพราะโยมพ่อได้ตายมาแล้วหลายเดือน ไม่ทราบว่า
โยมพ่ออาตมาได้เข้ามาอยู่ที่นี่หรือเปล่า”

เขาถามว่า​ “พ่อของพระคุณเจ้าชื่ออะไร นามสกุลอะไร”

ก็บอกเขาไปว่า “ชื่อนายอุทธา นนฤาชา “

จากนั้น​ เขาก็ลุกขึ้นไปหยิบเอาหนังสือมาเปิดดู​ หนังสือนั้นมีความหนาประมาณ ๑ ศอก
เขาใช้นิ้วมือกรีดเปิดพรืดเดียวแล้วอ่านดู และพูดขึ้นมาว่า

” นายอุทธา นนฤาชา อยู่บ้านหนองแวง (แก้มหอม)
ตำบลไชยวาน อำเภอไชยวาน จังหวัดอุดรธานี ใช่ไหมครับ”

บอกเขาไปว่า​ “ใช่แล้ว”

เขาพูดว่า “ยังอยู่ที่นี่ครับ”

บอกเขาไปว่า “อาตมาอยากขอพบโยมพ่อหน่อย”

เขาก็บอกคนใช้อีกคนหนึ่งว่า “รีบไปตามนายอุทธา นนฤาชา
ออกมาพบกับพระลูกชายด้วย”

เขาก็รีบวิ่งไป
อีกสักพักหนึ่ง เขาก็ตามโยมพ่อเข้ามาหา

เมื่อโยมพ่อเดินมา ลักษณะคล้ายจะมีความละอาย
และอีกอย่างหนึ่ง คือ ที่แก้มด้านขวาคล้ำไปนิดหนึ่ง
ส่วนแก้มด้านซ้ายเป็นปกติ เวลาเดินเข้ามาจะเอียงหน้าหันด้านซ้ายเข้ามา
กางเกง เสื้อผ้าที่นุ่งขณะตายนั้น ใส่อย่างไร ตายไปก็จะนุ่งห่มอย่างนั้นไปก่อน
เมื่อได้รับส่วนบุญจากลูกหลานและญาติ​ ๆ แล้ว​ ผ้านุ่งห่มจึงจะเปลี่ยนไป เมื่อโยมพ่อเข้ามาแล้วก็กราบตามปกติ

จึงถามโยมพ่อว่า “จำอาตมาได้ไหม”

โยมพ่อตอบ “จำได้”

ถาม “โยมพ่ออยู่ที่นี่ถูกเขาตีไหม”

ตอบ “แต่ก่อนถูกตีอยู่บ้าง แต่เดี๋ยวนี้เขาไม่ตีเลย”

ถาม “มาอยู่ที่นี่มีการไหว้พระภาวนาไหม”

ตอบ “ไหว้พระทุกคืนภาวนาทุกคืน”

ถาม “ลูกหลานทำบุญอุทิศมาให้ได้รับไหม”

ตอบ “ได้รับ ๓ ส่วน อีกส่วนหนึ่งไม่ได้รับ”

ถาม” ทำไมจึงไม่ได้รับ”

ตอบ​ “เพราะพระสงฆ์ที่รับเครื่องไทยทานศีลไม่บริสุทธิ์”

ถาม” กรรมที่จะต้องใช้อยู่ในขณะนี้มีมากไหม”

ตอบ” มีไม่มาก เพราะกรรมเล็ก​ ๆ น้อย​ ๆ หมดไปแล้วเหลือแต่กรรมจากวัวตัวเดียว​

จากนั้น ก็ได้มาปรึกษากับหัวหน้ายมบาลว่า “กรรมของโยมพ่ออาตมา​ ส่วนใหญ่หมดไปแล้ว เหลือกรรมเนื่องจากวัวตัวเดียวเท่านั้น​ เมื่อกรรมเหลือน้อยนิดเดียวนี้​ อาตมาอยากขอบิณฑบาตโยมพ่อพ้นจากกรรมนี้ได้ไหม”

จากนั้น หัวหน้ายมบาลก็ไปหยิบเอาหนังสือเล่มหนึ่ง
มาอ่านเพื่อดูกรรมของโยมพ่อที่ทำมา แล้วก็พูดว่า

“กรรมของโยมพ่อพระคุณเจ้าจะหมดในวันนี้​ ผมขอแสดงความเคารพนับถือ ต่อพระคุณเจ้าเป็นอย่างมาก​ ที่ได้ติดตามมาโปรดโยมพ่อถึงที่”

จึงได้ถามโยมพ่อว่า” อยากบวชไหม”

โยมพ่อตอบว่า “อยากบวช”

จากนั้น ข้าพเจ้าก็เอาผ้าขาวออกมาจากย่ามยื่นให้
โยมพ่อก็ได้นุ่งห่มผ้าอย่างเรียบร้อย พอนุ่งห่มผ้าขาวเสร็จเท่านั้น​ ผิวพรรณของโยมพ่อ ก็เปลี่ยนไปทั้งหมด หน้าตามีความอิ่มเอิบ​ ผิวพรรณผ่องใสเป็นอย่างมาก แล้วกราบอาตมา ๓ ครั้ง แล้วพูดขึ้นว่า

“กรรมที่โยมพ่อได้ทำ หมดไปแล้วในวันนี้​ ขอให้ลูกได้ไปประกาศ ให้ผู้ยังมีชีวิตอยู่
พากันสร้างความดีไว้ให้มาก เมื่อตายไปจะได้ไม่เป็นทุกข์”

โยมพ่อพูดว่า

“จากนี้ไป โยมพ่อจะได้ขึ้นไปอยู่ที่สูงแล้วนะ”

ว่าแล้วก็กราบ ๓ ครั้ง​ เสร็จแล้วก็ลอยขึ้นไปสู่อากาศ มองดูโยมพ่อลอยขึ้นไปจนสุดสายตา

ขอกลับมาเล่าเรื่องคนตายต่อไป
คิดว่าท่านผู้อ่านจะได้นำไปเป็นข้อคิดได้บ้างไม่มากก็น้อย

ในช่วงขณะที่ข้าพเจ้าได้พูดคุย กันกับยมบาล และโยมพ่ออยู่นั้น
มียมทูตได้นำผู้ที่ทำกรรมชั่ว ผ่านมาเป็นจำนวนมาก
มีทั้งเชือกผูกคอลากเข้ามา มีทั้งโซ่ผูกแขนขา ดึงกันเข้ามา
มีทั้งเอาไม้เรียวเฆี่ยนตีเลือดอาบตัว พากันร้องโหยหวนระงมไปทั้งหมด
บางคนมีผ้านุ่งที่ฉีกขาด บางคนไม่มีผ้าติดตัวมาเลย
ยมทูตได้บังคับขู่เข็ญด้วยวิธีต่าง​ ๆ
พวกที่ทำกรรมชั่วมาแล้วได้รับความทุกข์ทรมานมากทีเดียว
ผู้ที่ยมทูตนำไปนั้น มีจำนวนมากมาย ไม่อาจจะนับได้

เมื่อมองไปอีกด้านหนึ่ง จะมองเห็นศาลาว่าการ
ซึ่งใช้เป็นที่ตัดสินของผู้ทำกรรมชั่วทั้งหลาย

ข้าพเจ้าได้ถามยมบาลว่า

“ศาลานั้นมีเพื่อทำอะไร”

ยมบาลพูดว่า

“ศาลานั้นใช้เพื่อเป็นศาลตัดสินโทษที่มนุษย์ได้ทำเอาไว้​ ใครทุกคนที่ตายแล้ว เมื่อมีบาปติดตัวมา ต้องได้ขึ้นศาลตัดสินในที่นี้ทั้งหมด​ ใครทำกรรมชั่วน้อย ก็มีที่คุมขังไว้อีกส่วนหนึ่งต่างหาก
ถ้าผู้ที่ได้ทำกรรมชั่วมากก็จะมีที่คุมขังอย่างทรมานแยกไว้อีกต่างหาก​ เมื่อถึงวันกำหนด ก็จะได้นำผู้ทำกรรมเหล่านี้มาให้การตามหลักฐานที่มีอยู่แล้ว
ขณะนี้ผู้ที่ทำกรรมชั่วทั้งหมดจะตกเป็นจำเลย​ ส่วนกรรมชั่วที่เขาทำมาแล้วนั้นจะเป็นโจทก์ฟ้องตามคดี”

ขณะนั้น หมู่โจทก์ทั้งหลายมีทั้งวัว ควาย หมู หมา เป็ด ไก่
ตลอดสัตว์อื่น​ ๆ อีกเป็นจำนวนมาก พากันเข้าเรียงแถว
เป็นโจทก์ฟ้องผู้ที่ทำกรรมชั่วอยู่อย่างเนืองแน่น

การตัดสินในศาลของยมบาลนี้มีความเที่ยงธรรมมาก
เรียกว่า ใช้กรรมชั่วดีเป็นที่ตัดสินอย่างตรงไปตรงมา
ไม่มีการคอรัปชั่น ไม่มีการเอนเอียงเข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเลย

ไม่มีคำว่าผู้มีเงินมากจะชนะผู้มีเงินน้อยเหมือนโลกมนุษย์เรา
แล้วก็เกิดมีความสลดสังเวชใจอีกอย่างหนึ่ง คือ
ผู้อ้างตัวว่าเป็นสมณะหัวโล้นห่มผ้าเหลือง
ก็ยังเป็นจำเลยถูกฟ้องในศาลนี้ก็มีมากทีเดียว

ถ้าหากผู้ที่ทำความดีไว้มาก ทำความชั่วน้อย
ตายไปก็ต้องมาตัดสินในศาลนี้ก่อน เมื่อกรรมชั่วที่มีจำนวนน้อยหมดไป
จึงจะได้ไปสู่สุคติตามกรรมที่ตัวเองได้สร้างไว้แล้ว
แต่ถ้ากรรมดีมีน้อย กรรมชั่วมีกำลังมาก ก็จะแจกแจงออกไปตามกรรมต่าง.ๆ

บางกรรมก็ส่งลงไปอเวจีมหานรก

บางกรรมก็ตกไปอยู่ในนรกขุมเล็ก​ ๆ ตามกรรมจำแนกไว้แล้ว

บางกรรมก็จะส่งไปเป็นเปรต บางกรรมก็ส่งไปเป็นสัตว์ดิรัจฉาน

บางกรรมก็จะส่งไปในหมู่อสุรกาย

ถ้าผู้ทำในกรรมดีล้วน​ ๆ จะไม่ได้เข้ามาในเขตของยมบาลนี้เลย
เมื่อเขาหมดชีวิตไปก็จะไปสู่สุคติทันที

ฉะนั้น จึงขอเตือนแก่พวกเราทั้งหลายเอาไว้ โดยมิได้บังคับ
ถ้าท่านไม่เชื่อ จะทำกรรมชั่วอย่างไรก็ตามใจ​ แต่ท่านก็จะได้เป็นผู้รับผลในการกระทำของท่านเอง
.

โอวาทธรรมคำสอน​ หลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ
.
ที่มาของบทความ : คัดมาจากหนังสืออัตโนประวัติของหลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ

แอพเกจิ

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: