2590. ตำราเหล็กไหล

เหล็กไหล
……ในฝอยการใช้เหล็กไหลของอาจารย์ชุมนั้นมีอยู่ประโยคหนึ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างมากคือ เรื่องของการนำเอาเหล็กไหลไปแช่ในน้ำผึ้งรวง กินเป็นประจำทุกเช้าเย็นจนครบ 7 วัน คงเนื้อคงหนัง 3 เดือนคงกระดูก คงถึงลูกที่เกิดมา 1 ปี หมดโรคภัยนานา 3 ปี เกิดปัญญาเรียนรู้ธรรมจบพระไตรปิฎก 7 ปี กายเบาดังสำลี หมดกิเลส (คัดจากสมุดข่อย 1,000 กว่าปี)
กินครบ1ปีหมดโรคภัยนานา

ทั้งเป็นยาอายุวัฒนะ นั้นแสดงให้เห็นชัดเจนถึงคุณวิเศษที่มีอยู่จริงในะเหล็กไหลเนื่องด้วยเหล็กไหลเป็นธาตุกายสิทธิ์สูงสุด เป็นธาตุนิพพานบริสุทธิ์ จึงมีอานุภาพในการเข้าไปปรับธาตุในร่างกายเราให้ธาตุในร่างกายเรานั้นปรับสภาพให้สมดุลย์ คือ ดินน้ำลมไฟเสมอกันในแบบที่ร่างกายต้องการ


เหล็กไหลบริสุทธิ์-อชุม-ไชยคีรี

เมื่อธาตุสมดุลย์กันแล้วโรคร้ายต่างหรือที่เรียกว่าโรคภัยนานานั้นก็จะถูกปรับเช่นกัน โรคภัยนั้นส่วนใหญ่เกิดจากภูมิคุ้มกัน เมื่อภูมิคุ้มกันในร่างกายเราสูงขึ้นอันดับแรกเบยคือโรคภัยจากภายนอกไม่สามรถเข้าสู่ร่างกายได้ และอีกอย่างคือโรคภัยที่มีอยู่ในร่างกายเรานั้นก็จะค่อยๆถูกรักษาด้วยตัวเองตามวิธีทางธรรมชาติ จึงไม่แปลกนักที่เมื่อเรากินน้ำผึ้งแช่เหล็กไหลครบ 1 ปี จะหมดโรคภัยนานา

เหล็กไหลไหลเป็นของที่มีจิตวิญญาณมีพลังงานมาศาลแทรกอยู่ภายใน เหมือนดั่งเช่นเครื่องกำเนิดพลังงานที่มีพลังงานอยู่เต็มเปี่ยม มนุษย์เรานั้นคือขั้วพลังานที่เชื่อมต่อเอาพลังงานที่สำคัญออกมาจากเหล็กไหล วิธีการเอาเหล็กไหลแช่น้ำผึ้งก็เป็นส่วนหนึ่งในวิธีการนั้น น้ำผึ้งจัดได้ว่าเป็นของบริสุทธิ์ที่เกิดจากธรรมชาติ เมื่อเป็นของบริสุทธิ์แล้วดังนั้นการนำเหล็กไหลลงไปแช่น้ำผึ้งไว้

เหล็กไหลจึงค่อยๆแผ่พลังงานออกมาเป็นพลังงานบริสุทธิ์ที่ผสมผสานกัน ทำให้น้ำผึ้งนั้นได้ซึมซับเอาธาตุบริสุทธิ์ไว้ในตัว แล้วจากนั้นเมื่อเราได้กินน้ำผึ้งเข้าไปร่างกายเราจะค่อยๆดูดซึมเอาพลังบริสุทธิ์นี้เข้าไป ค่อยๆเข้าไปทีละเล็กละน้อย แล้วจากน้ันขบวนการปรับสภาพของร่างกายเราก็จะค่อย ๆ เริ่ม เริ่มปรับธาตุให้สมดุลย์ก่อน


เหล็กไหลบริสุทธิ์-อชุม-ไชยคีรี

เมื่อธาตุสมดุลย์แล้วความแข็งแรงของร่างกายก็ค่อยๆตามมา จากนั้นภูมิคุ้มกันต่างๆก็เพิ่มขึ้น เมื่อธาตุครบภูมิคุ้มกันครบ ขบวนการการรักษาสภาพก็เกิดขึ้นภายในร่างกาย ไม่แปลกเลยที่เมื่อเรากินน้ำผึ้งที่แช่เหล็กไหลแล้วจะทำให้อายุยืนและหมดโรคภัยนานา

ในส่วนเรื่องของการปรับธาตุและแผ่พลังงานของเหล็กไหลผ่านของเหลวนั้นยังมีอีกหนึ่งวิธีการที่มีบอกไว้ในตำราสมุดข่อย 1,000 ปี คือ โบราณจารย์ท่านว่า ให้เอาเหล็กไหลเท่าเมล็ดข้าวโพด หรือ เท่าเมล็ดพริกไทย อมไว้ในปากแล้วกลืนน้ำลายตนเองเป็นประจำทุกวัน ทำพิธีใช้อาคมเรียกเข้าไว้ในตัว ร่างกายจะคงทนแก่ปืนผาหน้าไม้ กฤช หอกทองแดง ขวากหนาม (คงกระพัน)

สัตว์ร้ายที่มีเขี้ยวงาและมีแรงฟัดขยี้ อาจต่อสู้กับคนหมู่มากและมีแรงมาก(ชาตรี)
แม้จับตัวเราก็ไม่ติด แหวกวงล้อมและกรงขังขื่อคาไปได้ ทั้งยังเป็นยาอายุวัฒนะ
ที่กล่าวมานี้คือท่านให้ดราอมเม็ดเหล็กไหลไว้นะครับอานุภาพมากมาย และการอมเหล็กไหลและกลืนน้ำลายนั้นยังทำให้เป็นยาอายุวัฒนะอีกด้วย นี่ก็แสดงให้เห็นอีกอย่างว่า เหล็กไหลนั้นที่จริงแล้วก็มีอานุภาพทางด้านยาด้วยเป็นยาวิเศษที่ให้คุณในด้านการรักษาแบบปรับธาตุในตัว

ก็ไม่น่าแปลกใจที่ในตำราได้กล่าวไว้ว่า ท่านฤาษีปลัยโกฏท่านได้พรรณนาไว้ในพระคัมภีร์โบราณว่า”หากผู้ใดพบเหล็กไหลแม้แต่เท่าเมล็ดข้าวโพด หรือเท่าเมล็ดพริกไทย ก็นับได้ว่าบุคคลเหล่านั้นเป็นผู้มีบุญญาอภินิหาร เพราะเป็นธาตุนิพพพานของธาตุทั้งหลาย ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตน และเป็นประโยชน์แก่ชาติบ้านเมือง”

และด้วยเหตุแห่งความเป็นบริสุทธิ์ธาตุเป็นธาตุนิพพานที่มีชิวิตจิตใจ เหล็กไหลจึงมักจะซ่อนหลบเร้นตนเองไม่ให้มนุษย์ได้เจอะเจอง่ายๆนัก เว้นแต่จะเป็นผู้มีบุญญาอภินิหารได้เจอะเจอโดยบังเอิญ หรือเป็นผู้ที่ทรงวิทยาคมแรงกล้าเท่านั้นจึงจะนำเหล็กไหลมาไว้บูชาแก่ตนเองได้


อาจารย์ชุม ไชยคีรีท่านได้ทำสิ่งนี้ให้แจ้งแล้ว ท่านได้เมตตาแก่ศิษย์ของท่านแล้วด้วยการไปตัดเหล็กไหลด้วยความยากลำบากเมื่อปี พ.ศ.2509 ท่านเมตตาต่อศิษย์ผู้มีบุญร่วมกันกับท่าน ด้วยการอธิษฐาน ขอบารมีปู่เจ้าเขาเขียว และฤาษีปลัดโกฏิ ขอบารมีเทวดาที่ปกปักรักษาเหล็กไหลอยู่ นำเหล็กไหลออกมาแจกจ่ายแก่ศิษย์ผู้มีวาสนา

เพื่อให้เหล็กไหลที่ทรงอานุภาพนี้ได้มาทำประโยชน์แก่ประเทศชาติบ้านเมือง แก่พระพุทธศาสนา เป็นการสร้างบารมีและเผยแพร่พระพุทธศาสนาให้ยืนยาวต่อไป อีกทั้งยังทำให้ความลังเลสงสัยในเรื่องของไสยศาสตร์นั้นหายไป ทำความจริงให้ประจักษ์ว่าตำราโบราณที่โบราณจารย์ท่านบันทึกไว้นั้นมีจริงและสามรถทำได้จริง

และมีอานุภาพจริงดังที่กล่าวไว้ในตำรา ท้ายนี้ผมนายมะกอกเมืองเพชร ขอการบครูบาอาจารย์ หลวงปู่คง พ่อแผนบูรพาจารย์แห่งเข้าอ้อทุกท่าน อาจารย์ชุมไชยคีรี และอาจารย์ณรงค์ฤทธิ์ เป็นที่สุด สาธุ สาธุ สาธุ

Cr.มะกอกเมืองเพชร

แอพเกจิ

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: