2534.คุณอภินิหารของพระเครื่องหลวงพ่อทวดฯ

คุณอภินิหารของพระเครื่องหลวงพ่อทวดฯ

เท่าที่ปรากฏเห็นประจักษ์แล้วบันทึกและรวบรวม โดยนายอนันต์ คณานุรักษ์ จากหนังสือประวัติหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด และคุณอภินิหารพระเครื่องหลวงพ่อทวดฯ วัดช้างให้จัดพิมพ์ เนื่องในงานฉลองโบสถ์วัดช้างให้ ๒๔-๓๐ เมษายน ๒๕๐๔

เรื่องที่ ๑ ในงานพิธีแจกพระเครื่องสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดวันแรก มีเด็กชายกับเด็กหญิงหมนสองคนพี่น้อง ได้รับแจกพระทั้งสองคน เด็กหญิงหมนเมื่อได้รับพระแล้วก็เอาพระเครื่องนั้นห่อชายพกกลับบ้าน ซึ่งอยู่ที่บ้านป่าไร่ ต.ป่าไร่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี


หลวงปู่ทวดปี-2497

ครั้นถึงบ้านแก้ห่อผ้าจากพกให้แม่ดูปรากฏว่า พระรูปนั้นกลายเป็นถ่านไฟไปเสียแล้ว ส่วนเด็กชายขณะที่เดินกลับบ้าน ได้เอาพระเครื่องโยนขึ้นแล้วใช้มือรับเช่นเดียวกับโยนก้อนหินเล่นตามประสาของเด็ก แต่รับไม่ทันพระจึงตกลงบนพื้นดิน เขาจึงก้มลงเก็บพระด้วยมือ

ทันทีนั้นเด็กชายผู้นั้นก็ยืนแกว่งมือตกใจร้องไห้ขึ้น พ่อเขาจึงลงมาดูเห็นลูกยืนแกว่งมือร้องไห้อยู่ จึงเข้าไปจับมือแกะออกดู ปรากฏว่ามีพระหลวงพ่อทวดฯ อยู่ในกำมือ

พ่อและแม่ของเด็กทั้งสองเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เกิดจากอภินิหารของหลวงพ่อทวดฯ บันดาลให้เกิดขึ้น เขาทั้งสองจึงนำลูกทั้งสองคนมาพบท่านอาจารย์เจ้าอาวาสที่วัดช้างให้ประมาณเวลา ๒๑.๐๐ น.

แล้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ท่านทราบ ท่านอาจารย์จึงแนะนำให้เขาพาเด็กทั้งสองไปกราบไหว้ที่สถูปของหลวงพ่อทวดฯ และกล่าวคำขอโทษเสีย คืนนั้นข้าพเจ้ากลับบ้านเวลา ๒๐.๓๐ น. จึงมิได้ประสพด้วยตนเองแต่ได้รับคำบอกเล่าจากท่านอาจารย์ฯ

เรื่องที่ ๒ นายไสว ปลื้มสำราญ ครูประชาบาล โรงเรียนตำบลบ้านไร่ ได้พบกับข้าพเจ้าที่วัดช้างให้ และเล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า คืนวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๔๙๗ เวลากลางคืน ภรรยาของเขาถูกตะขาบกัด มีอาการเจ็บปวดทุรนทุรายไม่ได้สติ เวลาค่ำคืนเช่นนี้จะหายาที่ไหนก็ไม่ได้

หลวงปู่ทวด

นายธำรงบุตรชายคนโต จึงนิมนต์พระเครื่องหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดวางลงในน้ำพอเปียกแล้วเอาตั้งลงบนแผลนานประมาณ ๒ – ๓ นาที แล้วก็หายปวดทันที

นายไสวบอกว่าเขาได้ประสพอภินิหารของหลวงพ่อทวดฯ ในครั้งแรกจึงเลื่อมใส วันนี้ผมจึงมาขอพระเครื่องอีกเรื่องเอาพระเครื่องรักษาคนถูกตะขาบกัดมีมากราย ปรากฏว่าศักดิ์สิทธิ์นัก แต่ผู้เขียนเห็นว่าไม่จำเป็นจะบันทึกลงทุกๆ คน เพราะยังมีเรื่องอื่นๆ อีกมาก

นายอนันต์ คณานุรักษ์ บันทึกเรื่องที่ ๓ เมื่อปลายเดือนเมษายน ๒๔๙๗ ในค่ำวันหนึ่งเวลาประมาณ ๑๙.๐๐ น. ข้าพเจ้าออกจากบ้านเพื่อจะไปซื้อของบางอย่างที่หน้าโรงภาพยนตร์ปัตตานี ก่อนจะออกจากบ้านข้าพเจ้าได้พนมมือที่หน้าหิ้งพระ ระลึกถึงหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด อธิษฐานในใจว่า

ขอให้หลวงพ่อทวดคุ้มครองบ้านและบุตรด้วย แล้วก็ออกจากบ้านไป เวลาประมาณ ๒๒.๐๐ น. จึงกลับบ้าน ขณะที่ข้าพเจ้าเดินกลับเข้าบ้านนั้น ได้มองไปที่ประตูชั้นล่างอาศัยแสงสว่างข้างแรมสลัวๆ เห็นรูปคนดำทมึนยืนอยู่ ณ ที่นั้น ข้าพเจ้าสะดุ้งตกใจนึกว่าคนร้าย จึงเหลียวกลับหลังเอาดุ้นฟืนมาถือไว้ แล้วร้องถามไปว่าใคร แต่เงาดำรูปคนคงยืนโยกตัวโงนเงนอยู่ไปมา ณ ที่เดิม

ลูกแก้ว หลวงปู่ทวด

ในขณะอึดใจนั้นข้าพเจ้าก็ระลึกขึ้นได้ว่า อ้อ หลวงพ่อทวดนี่เอง ข้าพเจ้าจึงโยนดุ้นฟืนทิ้งแล้วยกมือขึ้นพนมไหว้แล้วเดินเข้าไปหาเงาดำรูปนั้น เมื่อเดินเข้าไปในระยะใกล้ เงานั้นก็สลายตัวจากรูปคน คล้ายๆ กับควันบุหรี่ ค่อยๆ จางหายไปทีละน้อยจนหมด นี่คืออภินิหารของหลวงพ่อทวดฯ ซึ่งข้าพเจ้าได้ประสพด้วยตนเอง เผด็จ ณ นคร แผนกช่างเทศบาลเมืองปัตตานี ๑๕ พฤษภาคม ๒๔๙๗

ขอบคุณที่มาhttp://www.kananurak.com

แอพเกจิ

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: