2524.อภินิหารหลวงพ่อเชย วัดเกาะลอย ตอน ผู้พันโดนหลวงพ่อฟันคอ

อภินิหารหลวงพ่อเชย วัดเกาะลอย ตอน ผู้พันโดนหลวงพ่อฟันคอ

…มีนายทหารชั้นยศพันตรีท่านหนึ่ง(จำชื่อนามสกุลไม่ได้แล้ว) ได้ย้ายมาประจำการที่ค่ายภานุรังสี จังหวัดราชบุรี ผู้เขียนขอเรียกท่านว่า“ผู้พัน”

…ผู้พันเป็นนักรบชายชาติทหาร เคยผ่านสมรภูมิโหดอย่างทุ่งไหหิน ที่ประเทศลาวมาแล้ว แกเป็นนายทหารสัญญาบัตรสายเหยี่ยว เป็นคนอารมณ์ร้อน พูดจาเสียงดังไม่เคยกลัวใคร ทั้งยังเป็นคนค่อนข้างถือตัวเจ้ายศเจ้าอย่างอีกต่างหาก แนวๆว่าอยากได้อะไรเป็นต้องได้ จะว่าไปแล้วแกออกแนวบ้าบิ่นเสียด้วยซ้ำไป

…ผู้พันได้ยินเรื่อง“คนโดนเหล็กแป๊บตีเข้าที่ก้านคอ จนเหล็กพับคาคอแต่ไม่เป็นอะไร เพราะมีวัตถุมงคลของหลวงพ่อเชย” แกจึงอยากลองพิสูจน์ดูว่าท่านจะเก่งจริงตามที่ได้ยินมาหรือไม่

…ถึงวันหยุดผู้พันก็เดินทางมายังวัดเกาะลอยอุดมเอกธาราม พอมาถึงก็แนะนำตัวกับหลวงพ่อว่าเป็นใครมาจากไหน จากนั้นผู้พันก็ขอชานหมากกับท่าน

หลวงพ่อเชยว่าให้รอก่อน เพราะท่านกำลังเคี้ยวอยู่ หลวงพ่อเคี้ยวหมากอยู่นาน(ท่านเคี้ยวไปเสกไป) ผู้พันหงุดหงิดคิดว่าหลวงพ่อไม่สนใจตน คิดว่าท่านแกล้งถ่วงเวลา ทั้งตนเองก็เป็นคนใจร้อนบวกกับความบ้าระห่ำที่มีในสายเลือด แกจึงยกกระโถนขึ้นมากระดกดื่มน้ำหมากที่มีจนหมดเกลี้ยง เสร็จก็กระแทกกระโถนลงที่เดิมดัง”โครม” แล้วพูดกับหลวงพ่อว่า“ไม่ต้องแล้วครับท่าน ผมมีธุระต้องไปต่อ”

หลวงพ่อเชยพยักหน้าแล้วพูดขึ้นว่า“อยากรู้เหมือนกันว่าน้ำหมากที่บ้วนทิ้งจะศักดิ์สิทธิ์คุ้มตัวเอ็งได้ไหม” ว่าเสร็จท่านก็คว้ามีดปาดตาลที่วางอยู่ด้านข้าง ฟันเข้าที่คอของผู้พันทันที!!!

…แต่เมื่อคมมีดกระทบเข้ากับต้นคอของผู้พัน มีดก็กระเด้งกลับไม่ระคายผิวผู้พันแม้แต่นิดเดียว รอยยางบอนก็ไม่มีให้เห็น(หลวงพ่อเชยท่านทำวัตถุมงคลเป็นเชือกถัก ท่านจึงต้องมีมีดไว้ใกล้ๆตัว)…

…ขอกลับมาที่ผู้พันกันบ้าง “ผู้พันตกตะลึงคิดไม่ถึงว่าจะโดนหลวงพ่อจะฟันเอา พอแกเห็นท่านเงื้อมีดปาดตาลคมกริบเตรียมฟัน แกก็จะกระโดดหนี แต่ปรากฏว่าแกเกิดขยับตัวไม่ได้คล้ายกับถูกมนต์สะกด หรือบางคนเรียกว่าผีอำ”

พอหลวงพ่อเชยท่านฟันคอผู้พันแล้ว ท่านก็พูดกับผู้พันว่า“เอาล่ะใช้ได้ มีธุระที่ไหนก็รีบกลับไป” พอหลวงพ่อพูดเสร็จผู้พันจึงขยับตัวได้ ผู้พันรีบลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกมาจากกุฏิของหลวงพ่อเชยอย่างแค้นเคือง..

…ต่อตอนผู้พันมาแก้แค้นหลวงพ่อ…น้าเอก เพจวิถีไสยศาสตร์ชาติไทย.

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: