2514.”ตาผ้าขาวสง่าผู้บรรลุพระอนาคามี”

เรื่อง “ตาผ้าขาวสง่าผู้บรรลุพระอนาคามี”

(ธรรมประวัติ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม)

พระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม เล่าประวัติตาผ้าขาวถ้ำนายม จังหวัดเพชรบูรณ์ ผู้บรรลุธรรม ”พระอานาคามี” ว่า

ตาผ้าขาวถ้ำนายมท่านนี้มีชื่อว่า”พ่อสง่า” อายุหกสิบสามปี พ่อตาผ้าขาวสง่าท่านเป็นคน บ้านนายม ตำบลนายม อำเภอเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์ มีลูกสาวลูกชายทั้งหมดสี่คน พอภรรยาตาย อยากจะบวชเพื่ออุทิศบุญให้กับภรรยาคู่ชีวิต แต่พวกลูกๆ ไม่อยากให้ท่านบวชเพราะเป็นห่วง เกรงว่าพ่อจะลำบากเนื่องจากอายุมากแล้ว เมื่อลูกไม่ให้บวช

พ่อสง่าจึงประพฤติพรหมจรรย์ โดยการถือศีลแปดฝึกฝนอบรมสมาธิทุกวันอยู่ที่บ้าน พ่อสง่าจะปฎิบัติสลับกันไปมาระหว่างบ้านกับวัด วันธรรมดาก็จะปฎิบัติอยู่ที่บ้านของตนเอง วันพระก็จะไปปฎิบัติอยู่ที่วัดในหมู่บ้านพ่อสง่าเป็นผู้มีวาสนารู้ธรรมได้เร็ว ท่านปฎิบัติภาวนาอยู่ที่บ้านจนบรรลุธรรมเบื้องต้นเป็น”พระโสดาบัน” จากนั้นท่านเกิดความเบื่อหน่ายในการใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวอยากออกไปปฎิบัติตามป่าเขาเพียงลำพัง จึงบอกลูกหลานว่าจะไปถือศีลภาวนาอยู่ที่ ”ถ้ำนายม”

“แรกๆ เมื่อมาปฎิบัติจำศีลภาวนาอยู่ที่ถ้ำนายม ตาผ้าขาวสง่าจะพักเพียงคืนสองคืนก็จะกลับมาบ้านครั้งหนึ่ง ต่อมาพอเข้าพรรษาท่านก็ขอลูกหลานมาจำพรรษาอยู่ถ้ำนายมเพียงผู้เดียว เบื้องต้นลูกหลานคัดค้านเพราะเป็นห่วงพ่อ อยากให้พ่อจำพรรษาที่วัดในหมู่บ้าน ตาผ้าขาวสง่าไม่อยากจำพรรษาที่วัดในหมู่บ้าน เพราะมีเหตุบางอย่างที่มันติดขัดกับธรรมในใจของท่าน สุดท้ายลูกหลานก็ยอมให้พ่อไปถือศีลภาวนาจำพรรษาอยู่ที่ถ้ำนายม”

ตาผ้าขาวสง่าจำพรรษาอยู่ถ้ำนายมได้ไม่ถึงเดือน ลูกหลานก็พากันมาอ้อนวอนให้กลับไปอยู่บ้านเพราะเป็นห่วงพ่อ ตาผ้าขาวสง่าบอกลูกหลานว่าออกพรรษาพ่อถึงจะกลับบ้าน ขอจำศีลภาวนาอยู่นี่ให้พ้นพรรษาตามที่ตนเอง ได้ตั้งสัจจะเอาไว้ ลูกหลานจะพากันมาเยี่ยมนำเสบียงข้าวปลาอาหารมาส่งให้พ่อทุกสามสี่วันครั้งหนึ่ง พอออกพรรษาตาผ้าขาวสง่าไม่ยอมกลับบ้าน ลูกหลานพากันมาอ้อนวอนอย่างไรก็ไม่ยอมกลับ เมื่อรบเร้าอ้อนวอนเท่าไหร่พ่อก็ไม่ยอมกลับบ้าน ลูกชายกับลูกเขยจึงพากันจับตาผ้าขาวสง่ามัดมือมัดเท้า แบกกลับบ้าน

หลวงปู่ชอบท่านเห็นถึงกับสลดใจ ต่างคนต่างภูมิ จึงไม่รู้ข้างในจิตใจกัน ท่านว่า ที่ตาผ้าขาวสง่าไม่อยากอยู่บ้าน เพราะท่านไม่อยากให้ลูกหลานญาติพี่น้องเป็นกรรม เพราะบางครั้งอาจเผลอสติประมาทพลาดพลั้งตามประสากิเลสบงการ ตาผ้าขาวสง่าบอกหลวงปู่ชอบไว้ว่า

“ถ้าลูกหลานข้าน้อย พากันมาเอาตัวข้าน้อยกลับบ้าน อายุขัยของข้าน้อยจะสั้นลง”

ตาผ้าขาวสง่ากลับไปอยู่บ้านได้สองสามวัน พอลูกหลานเผลอ ก็แอบกลับมาถ้ำนายม เพื่อมากราบลาองค์ท่านหลวงปู่ชอบ ตาผ้าขาวสง่าบอกองค์ท่านว่า ข้าน้อยบ่มีวาสนาได้บวชเหมือนอาจารย์ เพราะข้าน้อยไม่ได้สร้างบารมีเนกขัมมะมา จากนี้ไปไม่นานอายุขัยข้าน้อยก็สิ้นแล้ว ข้าน้อยจะตายด้วยโรคลมปัจจุบันเป็นเหตุให้ตนเองตกจากบ้านถูกไม้ค้ำเกวียนเสียบอกตาย

ตาผ้าขาวสง่าเล่าอดีตกรรมของท่านให้หลวงปู่ชอบฟังว่า เหตุที่ตนเองไม่ได้บวชเพราะในอดีตชาติครั้งหนึ่ง ท่านเป็นมิจฉาทิฐิตำหนิพระสงฆ์องค์เณร เป็นคนเกียจคร้านไม่อยากทำงานจึงหนีไปบวช ลูกชายของตนเองในชาตินั้นมีศรัทธาอยากจะบวชตนเองห้ามลูก ไม่ให้บวช กรรมนี้จึงส่งผลมาในชาติปัจจุบัน เป็นเหตุให้ตนเองถูกขัดขวางไม่ให้บวชจาก
ลูกหลาน

อีกชาติของตาผ้าขาวสง่า ท่านเกิดเป็นนายเพชฌฆาต มีหน้าที่ประหารนักโทษโดยการโยนลงเหว กรรมนี้จะเป็นเหตุให้ตนเองตกจากที่สูงตายในชาติปัจจุบัน ตาผ้าขาวสง่าบอกวันเวลาที่ตนเองจะตายให้องค์ท่านหลวงปู่ชอบฟังทั้งหมด ตาผ้าขาวสง่ามาพักอยู่กับหลวงปู่ชอบที่ถ้ำนายมหนึ่งคืน วันต่อมาลูกหลานก็พากันมาตามตาผ้าขาวสง่ากลับบ้าน ตาผ้าขาวสง่ากราบลาองค์ท่านหลวงปู่ชอบกลับบ้านพร้อมกับลูกหลาน นั่นคือครั้งสุดท้ายที่หลวงปู่ชอบ ท่านได้เห็นตาผ้าขาวสง่าตอนที่ยังมีชีวิตอยู่

ตาผ้าขาวสง่ากลับไปอยู่ที่บ้านได้ไม่กี่วัน ท่านก็ตายตามวันเวลาที่ได้บอกหลวงปู่ชอบไว้ไม่มีผิดวัน​ ที่ตาผ้าขาวสง่าตายนั้น ท่านเดินจงกรมอยู่ที่ระเบียงบ้านของตัวเองเวลาประมาณสิบเอ็ดโมงกว่าๆ ท่านเกิดเป็นลม หน้ามืดพลัดตกจากบ้านถูกไม้ค้ำเกวียนเสียบอกตาย วันเวลาการตายตรงกับที่ท่านได้บอกหลวงปู่ชอบไว้ว่า จะตายตอนพระเณรฉันเพล

หลวงปู่ชอบท่านว่า

ผู้สำเร็จคุณธรรมเป็น”พระอริยะบุคคล” ไม่ว่าชั้นไหนๆ ก็ตาม จะอยู่ร่วมครองเรือนกับฆราวาสทั่วไปลำบาก การอยู่ครองเรือนร่วมกันนั้น ย่อมมีการกระทบกระทั่งกันทางอารมณ์เป็นธรรมดา ผู้ที่มีธรรมท่านก็ปล่อยวางเป็น ปุถุชนคนธรรมดาละวางไม่เป็น เมื่อมีเหตุกระทบกระทั่งกันจะทำให้เป็นบาปกรรมต่อกันได้ด้วยวิสัยของท่านผู้มีภูมิธรรมจะพิจารณาถึงอนาคตของตนเอง หากมีวาสนาเนกขัมมะบารมีท่านก็จะออกบวชเพื่อโปรดสัตว์โลก หากพิจารณาเห็นว่าตนเองไม่มีวาสนาบารมีในทางนี้ ท่านก็จะพิจารณาปลงสังขารละขันธ์ไปในที่สุด

หลังจาก”ตาผ้าขาวสง่าอนาคามี” ผู้เป็นสหายธรรมทิ้งขันธ์ลาจากไป หลวงปู่ชอบท่านจึงตัดสินใจเที่ยววิเวกมุ่งหน้าสู่ภาคเหนือ เพื่อตามหาพ่อแม่ครูอาจารย์ องค์ท่านหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต โดยจุดหมายปลายทางของท่านคือ เมืองเชียงใหม่

Cr.0pas Westly

แอพเกจิ

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: