2492.ปาฏิหาริย์ในอดีตของ หลวงพ่อจ้อย จนฺทสุวณฺโณ

ปาฏิหาริย์ในอดีตของ หลวงพ่อจ้อย จนฺทสุวณฺโณ

เรื่องราวนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคุณตามหาฉาย ซึ่งในสมัยหนึ่งได้เคยบวช และได้ย้ายไปอยู่ที่วัดระฆังฯ จนสอบได้เปรียญธรรม ๕ ประโยค และเป็นรุ่นพี่ของหลวงพ่อจ้อยฯ ในปัจจุบันนี้ คุณตามหาฉายก็มีอายุ ๙๔ ปีแล้ว ท่านเคยได้เล่าให้พระอาจารย์สมศักดิ์ฟังเมื่อ ๑๐ กว่าปีที่แล้วว่า

สมัยก่อนเมื่อขณะที่หลวงพ่อได้ทำการสร้างโบสถ์อยู่นั้นยังไม่มีเงินเท่าไรนัก หลวงพ่อกับไวยาวัจกร และทายก ซึ่งมีทายก สุวรรณ เกษสุวิทย์-ทายกทิม-ทายกขัน-ทายกจ้อย-ทายกซิ้ว ได้นำใบโฉนดที่นาของทายกซิ้วไปจำนองเอาไว้ และนำปัจจัยมาสร้างโบสถ์ก่อน แล้วหลวงพ่อจะหาใช้ให้ที่หลัง

ต่อมาเมื่อเวลาเนิ่นนานผ่านไปปรากฏว่าทายกเหล่านั้นก็กลุ้มใจกันว่าหลวงพ่อจะหาเงินมาไถ่ถอนที่นาที่นำมาจำนองไว้ไม่ทันตามกำหนด เพราะจวนจะถึงกำหนดเวลาที่จะไปไถ่ถอนแล้ว ทายกเหล่านั้นจึงพากันไปปรึกษาหลวงพ่อจ้อยฯ เพราะเห็นว่าหลวงพ่อยังนิ่งเฉยอยู่ยังไม่กระตือรือร้น

เมื่อหลวงพ่อได้ยินที่ทายกมาถามท่านก็ตอบทายกกับไปว่าไม่ต้องอุทรณ์ร้อนใจไปหรอกเดี่ยวก็มีคนมาช่วย เมื่อได้ฟังเช่นนั้น ทายกก็พากันกราบนมัสการลากลับไป ซึ่งในขณะนั้นหลวงพ่อจ้อยฯ ท่านได้มีสุขภาพแข็งแรงและเคร่งในการปฏิบัติมาก ท่านจึงได้เข้ากรรมฐานอยู่เป็นเวลา ๙ วัน ๙ คืน ในกุฏิเล็กๆ อันสมถะ ที่ปลูกอยู่ตรงที่ใต้ต้นมะขาม ที่ท่านพระอาจารย์สมศักดิ์ฯ ได้ปลูกอยู่ทุกวันนี้

โดยที่ท่านไม่ได้ฉันข้าวและไม่ได้ติดต่อกับคนภายนอกเป็นเวลา ๙ วัน ๙ คืน ตลอดเวลาเข้ากรรมฐาน หลังจากนั้นพอถึงกำหนดท่านก็ออกจากกรรมฐาน ก็ได้มีโยมท่านหนึ่งชื่อโยม เสนาะ ก้อนทรัพย์ ได้เดินทางมาจากสมุทรปาการ เพื่อจะมากราบนมัสการหลวงพ่อจ้อยฯ เพื่อจะขอให้ท่านรดน้ำมนต์ให้ หลวงพ่อจ้อยฯ ก็ได้ให้โยมเสนาะนั้น อธิฐานก่อนรดน้ำมนต์ โดยนึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดามารดา แล้วท่านจึงรดน้ำมนต์ให้ด้วยน้ำมนต์อันศักดิ์สิทธิ์

จากนั้นโยมเสนาะ ก้อนทรัพย์ ก็ได้ลากลับไป ก่อนจะกลับนั้นโยมเสนาะได้กล่าวกับหลวงพ่อไว้ว่า “ถ้ากระผมกลับไปขายที่ดินได้ ผมจะกลับมาสร้างกุฏิถวายให้หลวงพ่อจ้อยและช่วยหลวงพ่อในการสร้างโบสถ์ และหลวงพ่อยังเป็นหนี้ในการเอาโฉนดของทายกไปจำนองอีกเป็นจำนวนเงินเท่าไร ผมจะกลับมาทำการไถ่ถอนที่นาให้ทั้งหมด ขอให้ผมขายได้สำเร็จแล้วกัน หลังจากนั้นไม่นานประมาณ ๑ อาทิตย์ โยมเสนาะก็ได้เดินทางกลับมาอีกครั้งพร้อมกับบอกหลวงพ่อด้วยความดีใจว่าผมสามารถขายที่ดินได้แล้ว

ที่ผมกลับมาครั้งนี้ผมจะกลับมาสร้างกุฏิให้หลวงพ่อ พร้อมกับจะไถ่ถอนที่นาให้ทั้งหมดที่หลวงพ่อเป็นหนี้อยู่ ซึ่งก็เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจสำหรับทายกทั้งหลาย เพราะที่นาได้ไถ่ถอนได้ทันพอดี เหมือนกับที่หลวงพ่อได้กล่าวเอาไว้เบื้องต้นว่าจะมีคนมาช่วย เหมือนท่านจะรู้ล่วงหน้าเรื่องราวต่างๆ เหล่านี้ก็ผ่านเหตุการณ์มาเป็นเวลา ๕๐ กว่าปีแล้ว นี่แหละคือบารมี ของพระสุปะฏิปันโน คือ พระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ

และนี่ไม่ใช่เรื่องโฆษณา แต่อย่างไรเพียงแต่นำมาเล่าสู่กันฟัง เท่าที่เขียนมานี้จะเห็นได้ว่ามิใช่หลวงพ่อท่านจะมีบารมีแค่ในปัจจุบันนี้เท่านั้นแต่ท่านมีมาตั้งแต่ในอดีตก็ว่าได้ เพียงแต่ว่ายังไม่มีใครรู้ เมื่อท่านผู้อ่าน อ่านแล้วก็โปรดพิจารณาก่อน อย่าเพิ่งเชื่อเรื่องราวนี้ เพียงแต่เอาไว้เล่าสู่กันฟังเพื่อเอาไว้เป็นปฏิปทา

………… เหตุการณ์ทั้งหมด ที่ได้กล่าวมาแล้วนี้เชื่อว่า เกิดจากอภินิหารของหลวงพ่อจ้อย จนฺทสุวณฺโณ และปรากฏขึ้นบ่อยครั้ง หนังสือพิมพ์เคยลงข่าวอยู่เสมอๆ แต่ข้าพเจ้าไม่สามารถนำมาเขียนได้ทั้งหมดเพราะเวลาจำกัด ติดต่อสอบถามหาหลักฐานทั้งตัวบุคคลและเอกสารอ้างอิงที่เชื่อถือได้มาเขียนให้สมบูรณ์ ไม่ได้เท่าที่ควร อาจจะเกิดผลเสียหายขึ้นได้ในภายหลัง

หากท่านผู้ใดมีประสบการณ์เกี่ยวกับอภินิหารของหลวงพ่อจ้อย จนฺทสุวณฺโณ วัดศรีอุทุมพร กรุณาเขียนเล่าส่งไปถึง ท่านพระอาจารย์สมศักดิ์ ปญฺญาธโร รองเจ้าอาวาสวัดศรีอุทุมพรก็ได้ จะได้รวบรวมไว้และจัดพิมพ์เพื่อเป็นวิทยาทานในโอกาสต่อไปด้วย จักเป็นพระคุณยิ่ง……

ขอบคุณ ที่มา watsriutumpron.wequp.com

แอพเกจิ

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: