2479.เรื่องเล่าขานอภินิหารหลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน

เรื่องเล่าขานอภินิหารหลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน

อภินิหารความศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน ถูกเล่าขานไปทั่วเพราะแม้กระทั่งท่านผู้หญิงบุญหลง พหลพลพยุหเสนา ภริยาของ พล.อ.พระยาพหลพลพยุหเสนาก็รอดชีวิตหายจากโรคร้ายได้อย่างอัศจรรย์ด้วยบารมีของหลวงพ่อโตเหตุที่เกิดขึ้นกับท่านผู้หญิงบุญหลงถูกบันทึกไว้ในเรื่อง “ตายแล้วพื้น” ของคุณสนิท ธนรักษ์ นักหนังสือพิมพ์อาวุโสซึ่งผู้เขียนขออนุญาตนำเรื่องราวนั้นมาถ่ายทอดเป็นวิทยาทานอีกครั้ง

เรื่องนี้เกิดขึ้นในขณะที่ท่านผู้หญิงบุญหลงอายุ 68 ปี เวลานั้นท่านเกิดอาการผิดปกติขึ้นบริเวณลำคอตรงใต้ลิ้น ตอนแรกมีอาการบวม มีก้อนเนื้อโตขึ้นและอักเสบอย่างรุนแรงต่อมาเกิดแผลแตก มีน้ำเลือดน้ำหนองไหลทำให้ท่านต้องทุกข์ทนกับความเจ็บปวดทรมานมากเมื่อให้แพทย์ตรวจและนำเชื้อไปวิเคราะห์ แพทย์ยืนยันว่าท่านเป็นโรคมะเร็งแน่นอนและวิธีรักษาที่ดีที่สุดก็คือผ่าตัด หรือฉายแสง

แต่ท่านผู้หญิงบุญหลงไม่ยอมรักษาด้วยวิธีที่แพทย์แนะนำ ท่านขอรักษาด้วยวิธีของแพทย์แผนโบราณซึ่งมียาสมุนไพรเป็นยาทากินแล้วกลับมา รักษาตัวต่อที่บ้านแต่แม้จะกินยาสมุนไพรหลายต่อหลายขนานอาการก็ยังไม่ดีขึ้น มีแต่ทรงกับทรุดท่านผู้หญิงบุญหลงได้รับทุกขเวทนาอย่างสาหัส อาหารก็รับประทานแทบไม่ได้กลืนได้แต่อาหารอ่อนๆพวกข้าวต้มและโจ๊ก เวลาพูดก็ยากลำบาก เสียงอ้อแอ้ฟังไม่รู้เรื่อง

เนื้องอกตรงลำคอก็ยิ่งขยายใหญ่มีน้ำหนองไหล เรื่อยๆแต่ถึงอย่างไรท่านผู้หญิงก็ไม่ยอมไปผ่าตัด ใช้แต่เพียงยาแผนปัจจุบันระงับการแพร่ขยายของเชื้อมะเร็งไม่ให้ลุกลามแค่นั้นคืนหนึ่งโรคร้ายได้รุมเร้าท่านผู้หญิงจนเกิดความรวดร้าวแสนสาหัส ทำให้ท่านนอนคิดย้อนหลับไปถึงกุศลกรรมต่างๆที่ได้กระทำร่วมกับท่านเจ้าคุณพหลพลยุหเสนา จิตของท่านอิ่มเอิบไปด้วยปิติ แล้วความรู้สึกของท่านก็ดับวูบไป

ท่านผู้หญิงมารู้สึกตัวอีกครั้งเหมือนกับมีอยู่สองร่าง ร่างหนึ่งยังนอนหลับสลายอยู่บนเตียง แต่อีกร่างหนึ่งยังมีความรู้สึกตัวและไม่มีความเจ็บป่วยหลงเหลืออยู่ เวลานั้นท่านอยากไปพบท่านเจ้าคุณพหล ฯ ซึ่งถึงแก่อสัญกรรมไปก่อนแล้วจึงได้เดินออกจากบ้านไปท่านผู้หญิงเล่าว่ารู้สึกตัวเบาสบายผิดปกติ เวลาก้าวเดินก็เหมือนลอยไปและเพียงวูบเดียวท่านก็มายืนอยู่สถานที่แห่งหนึ่ง

มีคฤหาสน์หลังหนึ่งตั้งอยู่บนเนินสูง ท่านจึงตรงไปที่คฤหาสน์หลังนั้น เมื่อเข้าไปในเขตคฤหาสน์ท่านก็เห็นบุคคลที่รู้จักคุ้นเคยกลุ่มหนึ่งตรงเข้ามาหาท่านด้วยท่าทางยินดีหนึ่งในคนกลุ่มนั้นคือ ท่านเจ้าคุณพหลพลพยุหเสนาสามีของท่านเอง ท่านเจ้าคุณยิ้มแย้มแจ่มใสเดินเข้ามาโอบไหล่ท่านผู้หญิงแล้วพูดว่า “มาแล้วหรือ” จากนั้นก็จูงมือขึ้นไปบนคฤหาสน์ซึ่งเป็นเรือนทรงไทยแบบโบราณหลังใหญ่มหึมา และเป็นเรือนแฝดติดต่อกันหลายหลัง มีนอกชานระเบียงเชื่อมติดต่อกันตลอด

คนในคฤหาสน์กรูกันมาต้อนรับท่านผู้หญิงด้วยความยินดี ทำให้ท่านแปลกใจอย่างยิ่ง เพราะหลายคนเป็นเพื่อนทหารกับท่านเจ้าคุณ ในจำนวนนั้นมีคุณหลวงแพทย์ดุลยพิสิษฐ์ นายแพทย์ทหารประจำตัวของท่านเจ้าคุณด้วยและทุกคนได้เสียชีวิตไปหมดแล้วท่านผู้หญิงบุญหลงเล่าว่าสถานที่ตั้งคฤหาสน์ที่พำนักของท่านเจ้าคุณพหล ฯ ไม่ ทราบว่าอยู่ที่ไหนแต่ที่ผิดสังเกตอย่างเห็นได้ชัดก็คือ อาณาบริเวณตลอดสถานที่แห่งนั้น ปราศจากสัตว์เดรัจฉานแม้กระทั่งนก กระรอก กระแตก็มองไม่เห็น


หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน

เมื่อท่านผู้หญิงเข้ามาในคฤหาสน์ ผู้ที่อยู่ในสถานที่นั้นก็พากันปิติยินดี เข้าใจว่าท่านจะมาอยู่ด้วย ท่านจึงรีบบอกให้ทราบว่า”ยังมาอยู่ด้วยไม่ได้หรอก ยังเป็นห่วงลูกอยู่ ถ้าทิ้งลูกมาจะลำบากมากทั้งดิฉันเองก็มีโรคประจำตัว จึงต้องกลับไปดูแลลูกและรักษาตัวให้หายดีเสียก่อน”ท่านเจ้าคุณพหลฯได้ฟังเช่นนั้นจึงบอกท่านผู้หญิงว่า”เมื่อยังห่วงลูกก็จงกลับไปเสียก่อนเถิด ส่วนโรคที่เป็นนั้นยังไม่ถึงที่ตายหรอก ค่อยรักษาก็จะหายเอง จงรักษาสุขภาพให้ดี เมื่อถึงเวลาแล้วค่อยกลับมาอยู่ด้วยกันที่นี่”

ท่านเจ้าคุณพูดแล้วก็เตือนให้ท่านผู้หญิงรีบกลับ จากนั้นก็นำท่านผู้หญิงส่งที่หน้าคฤหาสน์ เมื่อกล่าวคำอำลาแล้ว ท่านเจ้าคุณและคฤหาสน์หลังใหญ่ก็หายวับไป ท่านผู้หญิงมารู้สึกตัวอีกครั้งก็พบว่ากำลังนอนบนเตียงในบ้านของท่าน ที่ไปปพบเห็นพูดคุยกับสามีและเข้าไปในคฤหาสน์หลังใหญ่แห่งนั้นไม่ทราบว่า เป็นความฝันหรือท่านตายไปชั่วขณะก่อนจะฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาใหม่ แต่คำพูดของท่านเจ้าคุณพหลฯที่ว่า “…โรคที่เป็นอยู่นั้นไม่ถึงตายหรอก ค่อยรักษาก็จะหายเอง” ก็เป็นความจริงในเวลาต่อมา

เพราะในเวลาไม่นานก็มีคนมาเล่าให้ท่านผู้หญิงฟังว่า ที่วัดบางพลีใหญ่ใน จ.สมุทรปราการมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชื่อหลวงพ่อโต หรือหลวงพ่อเนื้อนิ่ม รักษาโรคร้ายให้หายได้ ท่านผู้หญิงจึงเกิดความศรัทธาเลื่อมใสปรารถนาที่จะไปขอความเมตตาบารมีจากหลวงพ่อเมื่อท่านผู้หญิงเดินทางไปถึงวัดบางพลีใหญ่ใน ท่านได้เข้าไปในพระอุโบสถจุดธูปเทียน ถวายดอกไม้ที่ฐานพระพุทธปฏิมาหลวงพ่อโตและได้กำหนดจิตอธิษฐานว่า ตัวท่านกำลังได้รับทุกขเวทนาอย่างแสนสาหัสจากโรคร้าย ขออำนาจเมตตาบามีมีอันศักดิ์สิทธิ์จากหลวงพ่อโต โปรดช่วยรักษาโรคร้ายให้หายไปด้วยเถิด

หากหลวงพ่อเมตตาก็ขอให้แสดงปาฏิหาริย์ให้ปรากฏแก่สายตา โดยขอให้องค์พระปฏิมาจงมีผิวอ่อนนุ่มเป็นอัศจรรย์อธิษฐานแล้วก็ก้มกราบด้วยจิตมั่นในศรัทธา จากนั้นท่านผู้หญิงก็เดินไปที่พระพุทธรูปหลวงพ่อโต ยื่นมือไปแตะที่องค์พระ ทันใดนั้นท่านก็ขนลุกซู่ด้วยความปิติ เมื่อผิวโลหะที่กดนิ้วลงไปบุบบุ๋มไปตามแรงกด ดังเป็นผิวเนื้อมนุษย์ และไม่ว่าจะกดที่ใด กี่ครั้ง ผิวขององค์หลวงพ่อโตก็นุ่มนิ่มเป็นอัศจรรย์ทุกครั้ง ทำให้กำลังใจของท่านผู้หญิงกลับคืนมาเต็มเปี่ยม

ท่านถอยกลับมานมัสการอีกและเพิ่งรู้ว่าน้ำมนต์ของหลวงพ่อโตก็คือน้ำมัน มะพร้าวที่มีผู้มาจุดสักการะบูชานั่นเองดังนั้นท่านจึงขออนุญาตเอาน้ำมันมะพร้าวกลับไปที่บ้าน และใช้น้ำมันมะพร้าวทาแผลมะเร็งที่โคนลิ้นและลำคอภายนอก เพียงไม่กี่วันเนื้อใต้ลิ้นก็แตกทะลักออกมานอกลำคอ มีก้อนหนองสีเขียวคล้ำ ข้นเหนียว คล้ายหัวผีหลุดตามออกมาด้วย

ท่านผู้หญิงใช้น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันมนต์หลวงพ่อโตทาต่อไปอีก ก้อนเนื้อมะเร็งก็ค่อย ๆ ยุบลงไปและแผลที่ลำคอก็แห้งไปเรื่อยๆกระทั่งแผลภาย นอกในหายสนิทไม่มีแม้แต่รอยแผลเป็นท่านผู้หญิงหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมานได้อย่างเหลือเชื่อ ท่านรับประทานอาหารได้เป็นปกติเช่นเดิม เสียงพูดอ้อแอ้ก็หายไปเป็นแจ่มใสชัดเจน

นี่คือความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโตวัดบางพลีใหญ่ใน ที่แสดงปาฏิหาริย์มหัศจรรย์ให้เป็นที่ประจักษ์แก่ท่านผู้หญิงบุญหลง พหลพลพยุหเสนาจนเกิดศรัทธาเลื่อมใสสูงสุด ตราบสิ้นอายุขัยของท่าน

ขอบคุณที่มา บอร์ดพลังจิต

แอพเกจิ

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: