2473.ศิษย์หลวงพ่อทบ ผู้เผชิญมัจจุราชชนิด ๑ ต่อ ๙

§ ศิษย์หลวงพ่อทบ ผู้เผชิญมัจจุราชชนิด ๑ ต่อ ๙ §
ท่านปลัดวิโรจน์ พรหมประเสริฐ ยอดวีรบุรุษหนังเหนียว

ท่านปลัดวิโรจน์ พรหมประเสริฐ เกิดวันที่ 29 เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2468 ตรงกับวันพุธ เดือน 9 ขึ้น 9 ค่ำ ปีฉลู ที่บ้านเหนือวัดใหม่ (ตลาดโพธิ์จันทร์วัดภูเขาดิน) ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์


ท่านปลัดวิโรจน์ พรหมประเสริฐ

ในปี พ.ศ. 2489 รัฐบาลโอนงานสอบสวนคดีอาญาแผ่นดินให้ฝ่ายอำเภอเป็นผู้สอบสวน ตำรวจมีหน้าที่จับผู้ร้ายอย่างเดียว เมื่อแรกปลัดวิโรจน์บรรจุเข้าทำงานเป็นเสมียนคดี พ.ศ. 2490 ปลัดวิโรจน์ สอบปลัดอำเภอได้ที่ ๒ ได้บรรจุเป็นปลัดอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ พอถึงปี พ.ศ. ๒๔๙๗ ได้ย้ายไปเป็นปลัดอยู่ที่ อำเภอชนแดน

ในวันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๐๐ ปลัดวิโรจน์ กับ ร.ต.อ.เทียน มงคลการ ได้ไปพบผู้ใหญ่เอ็บที่ ตลาดเขาทราย อำเภอตะพานหิน เพื่อขอความร่วมมือจับตัว นายเทียน โพธิ์ศรีอาจ วายร้ายจากบ้านกล้วย ผู้ใหญ่เอ็บ แจ้งว่ารู้จักคุ้นเคยกับ นายเทียน โพธิ์ศรีอาจ รู้ว่าตั้งบ้านเดิมอยู่ที่ บ้านไคอีเผือก แต่เวลานี้เจ้าตัวจะอยู่หรือไม่นั้นต้องไปสืบดูก่อน โดยนัดกันว่าพรุ่งนี้เวลา ๘ โมงเช้าพบกันที่ บ้านผู้ใหญ่เอ็บ ตลาดเขาทราย

รุ่นขึ้นตามนัดหมายเป็น วันที่ ๒๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๐๐ ร.ต.อ.เทียน มงคลการ ท่านติดภารกิจจึงไม่ได้มาตามนัดหมาย จึงมีเพียง ท่านปลัดวิโรจน์ ขึ้นรถเมล์ของทรัพย์มงคลปัญญา ขณะนั่งรถเมล์ก็สังเกตผู้โดยสารในรถอยู่เรื่อย รถวิ่งไปถึงตลาดตำบลดงขุย ได้จอดรับชายวัยกลางคนขึ้นมา ๓ คน เมื่อขึ้นรถเมล์แล้วก็ตรงมานั่งที่เบาะหลัง ท่านปลัดวิโรจน์ และแยกไปนั่งด้านท้ายรถ สังเกตชายเหล่านี้มีการลุกลี้ลุกลนเหลียวซ้ายแลขวามาตลอด เมื่อรถวิ่งไปถึง ก.ม. ๒๖ ถนนสายเพชรบูรณ์ – ตะพานหิน ห่างจากตลาดเขาทราย ๔ ก.ม. จู่จู่ก็เห็นมีชาย ๒ ฅน เดินออกมาจากข้างทาง แล้วยืนโบกมือเป็นสัญญาณให้รถหยุด

ขณะที่รถเมล์หยุดเป็นเวลาราว ๗.๐๐ น. เมื่อรถหยุดชายที่เป็นหัวหน้าก็ชักปืนออกจี้ผู้โดยสารด้านซ้าย ส่วนอีกฅนหนึ่งชักปืนออกจี้ผู้โดยสารทางข้างขวา ตะโกนก้องสั่งให้ทุกฅนปลดเครื่องประดับพร้อมเงินทอง แล้วเดินเรียงแถวนำของมีค่าเหล่านั้นมอบให้พวกมัน พร้อมกับพูดว่า “ใครขัดขืนตาย !!” พูดจบก็เห็นมีฅนร้ายเดินออกจากที่ซ่อนตัวขางทางเพิ่มมาอีก ๔ คน พากันวิ่งมาเอาปืนเคาะรถไปด้านขวา แล้วพูดว่า “เอามาให้ซะดีดี !!” ใครขัดขืนตาย รวมแล้วมีฅนร้าย ๖ ฅน ผู้โดยสารต่างยกมือยอมแพ้ ปากก็พูดว่า “จะเอาอะไรก็ยอม ขอเพียงชีวิตไว้ยังไม่อยากตาย”


หลวงพ่อทบ วัดชนแดน


ท่านปลัดวิโรจน์ที่เวลานั้นนั่งอยู่แถวริมด้านซ้าย ติดกับช่องทางเดินปลายสุดลงมาเป็นประตูรถเมล์ ท่านเห็นฅนร้ายประกาศปล้นโดยตลอด เมื่อเห็นดังนี้ ท่านปลัดวิโรจน์ จึงภาวนาพระคาถาของหลวงพ่อทบ วัดชนแดน แล้วเชิญคุณบิดาคุณมารดา พลันเกิดอาการขนลุกตั้งเห่อไปทั่วตัว ในรู้ได้ทันทีว่าคุณพระคุ้มครองใจพองโต รู้สึกฮึกเฮิมคิดอยากสู้ให้รู้ดำรู้แดงกันไปว่า ตัวเราก็ข้าแผ่นดินเป็นถึงเจ้าหน้าที่บ้านเมือง จะมาหลบหลีเอาตัวรอดแบบชาติสุนัขแบบนี้ไม่ได้ จึงคิดสู้เพื่อไว้ลายชายชาติเสือศิษย์หลวงพ่อทบ ใจท่านปลัดวิโรจน์คิดเพียงว่าต้องปกป้องทุกฅน

ความคิดกับอุ้งมือเร็วพอกัน ท่านปลัดวิโรจน์ชักรีวอลเออร์ขนาด ๙ ม.ม. จากเอวมากระชับมั่นในมือ เป็นเวลาเดียวกับชาย ๓ ฅนซึ่งนั่งอยู่ด้านหลังได้แสดงตัวว่าเป็นคนร้าย ลุกขึ้นบังคับเก็บเอาทรัพย์สินของผู้โดยสาร เมื่อเห็นปลัดวิโรจน์ชักปืนออกมาหมายสู้ หนึ่งในฅนร้ายรีบตะคอกขึ้นว่า มึงสู้มึงตาย ใช้ปืนจี้หลังปลัดวิโรจน์แล้วยิงทันที ๑ นัด น่าแปลกที่กระสุนปืนนัดนั้นไม่ดัง… ปลัดวิโรจน์จึงเอี้ยวตัวหลบแล้วยิงสวนไป ๑ นัดเช่นกัน ปืนแผดก้องเสียงดังสนั่น ฅนร้ายนั้นโดดลงไปดิ้นตายอยู่ข้างรถ

ฅนหัวหน้าจึงพูดสั่งเสียงดังว่า เสียงปืนดังในรถนั้นไม่ใช่ของพวกเราแปลว่ามีฅนสู้ พูดจบก็วิ่งข้นมาถึงมาทางประตูรถเมล์ เมื่อมองมาเห็นปลัดวิโรจน์ที่ยืนอยู่ห่างไม่เกิน ๒ ศอก ด้วยสัญชาติญาณทั้งสองต่างคนต่างยกปืนขึ้นยิงใส่กันทันที คุณพระคุ้มปลัดวิโรจน์อีกครั้ง เพราะปืนของฅนร้ายที่ยิงมาไม่ดังอีกครั้ง แต่ปืนของปลัดวิโรจน์ทำหน้าที่ของมันอย่างเต็มที่ เสียงดังปัง ปัง !! กระสุนพุ่งใส่ร่างฅนร้ายอย่างจัง ฅนร้ายตกใจรีบหันหลังวิ่งหนีไปทางด้านหน้ารถ

ปลัดวิโรจน์คิดถึงผู้โดยสารที่อยู่ในรถ ว่าหากขืนยิงสู้กันในรถอยู่อย่างนี้ ต้องมีประชานชนโดนลูกหลงตายเป็นแน่ จึงตัดสินใจกระโดดลงจากรถแล้ววิ่งไล่หัวหน้าโจร วิ่งมาทันกันบนถนนหน้ารถเมล์แล้วยิงซ้ำไปอีกนัด ปัง !! ร่างหัวหน้าโจรก็ทรุดลงสิ้นใจตายต่อหน้า พวกฅนร้ายที่อยู่บนรถเมื่อเห็นปลัดวิโรจน์ยิงพวกตนตายไปแล้ว ๒ ฅน พวกฅนร้ายโมโหรีบลงมารวมกันอยู่ทั้ง ๗ คน แล้วระดมยิงมายังร่างปลัดวิโรจน์ และเป็นอีกครั้งที่ปืนของฅนร้ายที่ยิงมาได้ยิ่งเสียงนกสับดัง แชะ แชะ … กระสุนด้านปืนยิงไม่ดังอีกเป็นคำรบที่สาม ปลัดวิโรจน์อาศัยโอกาศนี้ยิงฅนร้ายล้มลงไปอีก ๑ ฅน ยิงโต้จนกระสุนหมดไป ๖ ลูก คลำหากระสุนในกระเป๋ากางเกงก็ไม่มี นึกได้ว่าลืมพกเอาลูกปืนสำรองมาด้วย

กำลังใจของปลัดวิโรจน์ตกวูบ ด้วยเวลานี้จะให้วิ่งหนีไปขอปืนจาก นายเหลียง โคศุพ, นายละมุด หรือนายยุทธ์ ตันอุดม นายกเทศมนตรีเมืองหล่มสักก็ไม่ทันแล้ว ทั้งไม่มีใครช่วยยิงป้องกันให้ด้วย ปลัดวิโรจน์คิดในใจว่าวันตายคงเป็นวันสุดท้ายของตนเสียแล้ว พวกผู้ร้ายได้ระดมยิงปลัดวิโรจน์ เสียงปืนดังสนั่นปาน ประทัดแตก ปัง !! ปัง !! ปัง !! เสียงปืนรัวกระหน่ำกึกก้อง กระสุนปืนพุ่งเข้าใส่ร่างปลัดวิโรจน์ดั่งฝูงผึ้ง ร่างปลัดวิโรจน์ตั้งแต่ปลีน่องถึงศีรษะ สั่นสะท้านตามแรงกระสุนปืน

หลวงพ่อทบ วัดชนแดน

น่าแปลกที่ไม่มีเลือดสักหยดให้เห็น กระสุนปืนไม่อาจเจาะผ่านผิวหนังเข้าไปทำอันตรายได้ เป็นแต่เพียงรอยเลือดออกเป็นยางบอนเท่านั้น บารมีของหลวงพ่อทบทั้งคุณบิดามารดาคุ้มครอง ปลัดวิโรจน์ตัดสินใจกระโดดเกาะหน้ารถเมล์ด้านขวา และสั่งให้คนขับรถหนีไปอย่างเร็ว คนร้ายยิงด้านหลังรถเมล์อีก ๑ นัด เห็นเป็นรูทั้งหมด ๙ รู ยิงขึ้นบนหลังคาอีก ๑ นัด ไปโดนไม้แตกฉีกออก ผู้โดยสารปลอดภัยดีทุกฅน ที่สำคัญไม่มีใครเสียทรัพย์สินให้คนร้ายไปเลย

รถวิ่งมาถึงบ้านผู้ใหญ่เอ็บ ตลาดเขาทราย อำเภอตะพานหิน ซึ่งห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ ๔ กิโลเมตร ท่านปลัดวิโรจน์เล่าเหตุการณ์ให้ผู้ใหญ่เอ็บฟัง แล้วขอให้ช่วยจับคนร้ายด้วย ผู้ใหญ่เอ็บได้นำทีมลูกบ้าน ๑๐ กว่าคนขึ้นรถไปจับคนร้ายในที่เกิดเหตุ แต่ฅนร้ายได้หลบหนีไปก่อนแล้ว สรุปการต่อสู้ปลัดวิโรจน์ฅนเดียวปะทะกับคนร้ายพร้อมอาวุธถึง ๙ คน โดนในตัวปลัดวิโรจน์มีปืนเพียงกระบอกเดียวกับกระสุน ๖ นัด ได้ยิงฅนร้ายตายไป ๒ ฅน บาดเจ็บ ๑ ฅน ส่วนปลัดวิโรจน์ถูกฅนร้ายยิงบาดเจ็บรวมทั้งสิ้น ๕๓ แผล แบบนี้เรียกว่าเกิดเรื่องบังเอิญหรือโชคดีไปมากโข


ท่านปลัดวิโรจน์ พรหมประเสริฐ

เหตุการณ์นี้เชื่อได้อย่างเดียวว่าท่านปลัดต้องมีดีทั้งใจกล้าอย่างที่สุด นับเป็นตัวอย่างข้าราชการหัวใจสิงห์อย่างแท้จริง ภายหลังปลัดวิโรจน์ได้รับความดีความชอบเลื่อนขั้นให้ ๒ ขั้น พลตำรวจเอกเผ่า ศรียานนท์ ซึ่งเป็นอธิบดีกรมตำรวจ และเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้น ได้เรียกตัวเข้าพบภายหลังยังได้มอบแหวนอัศวินทองคำให้ ๑ วง อีกทั้งคณะกรรมการศูนย์อาชญากรรมกองปราบปรามสามยอดได้พิจารณาได้ให้เงินเดือน ๔ ขั้น เงินรางวัลเกี่ยวกับการปราบปรามผู้ร้ายอีก ๕,๐๐๐ บาท พร้อมด้วยเงินค่ารักษาพยาบาล นอกจากนี้ให้สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ยังได้ดำเนินการขอพระราชทานเครื่องอิสริยาภรณ์ให้อีก นำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยพิจารณาเห็นชอบด้วย

เรียบเรียง โดย : ฅนขลัง คลังวิชา
Cr. ข้อมูลและภาพประกอบบทความจาก
บทความข้อเขียนของ อาจารย์ วีรวัฒน์ วงศ์วาน
คุณ Thosak Yaisamlee
g-pra.com

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: