2471.ฝรั่งเล่าเรื่องราวของหลวงพ่ออี๋ พุทธสโร วัดสัตหีบ

ฝรั่งเล่าเรื่องราวของหลวงพ่ออี๋ พุทธสโร วัดสัตหีบ

ชาวอเมริกัน ชื่อ เทเลอร์ ยังค์ แม่เป็นคนฮาวาย พ่อเป็นทหารอเมริกัน เล่าให้ฟังว่า

ฉันเป็นคนอเมริกัน เป็นนักบิน มีเงินเดือนหลายหมื่นบาท เป็นทหารก็ไปประจำที่เกาะโอกินาวา มาเมืองไทยสมัยสนามบินอู่ตะเภา เคยได้ไปนมัสการ หลวงพ่ออี๋ ซึ่งก็เป็นพระภิกษุ เป็นรูปปั้นธรรมดา (ตอนนั้นท่านมรณภาพแล้ว) ที่ไปไหว้ก็เพราะผู้หญิงเขาชวนไป แล้วก็ซื้อรูปของท่านมาแขวนคอด้วย เพราะเห็นว่าไม่เสียหายอะไร… น่านับถืออยู่ เพราะท่านอยู่ได้โดยไม่มีเมียได้

พวกเพื่อนๆ มันก็ถามว่า

แกเอารูปพระชาวพุทธมาแขวนคอทำไม ?
.
ฉันเลยบอกพวกเขาไปว่า
พระภิกษุนี่ ท่านชื่อหลวงพ่ออี๋ เป็นผู้บริสุทธิ์ ท่านมีศีล ไม่มีเมียอย่างพวกแกด้วย ท่านไม่เอาอะไรทั้งนั้น ท่านเก่ง

เพื่อนๆ ก็พูดอีกว่า

เฮ้ย.. แกนับถือคริสต์ ไปเอาพระพุทธมาแขวน ไม่เอาพระเยซูมาแขวน แกผิดนะ

ฉันก็ตอบมันไปว่า

ถ้าฉันผิด แกก็ต้องผิดด้วย เพราะตัวแกเอง ไปซื้อกระดูกปลา เขี้ยวหมา เขี้ยวแมว มาแขวนคอเหมือนกัน

ทำไมฉันจึงศรัทธานัก สำหรับหลวงพ่ออี๋องค์นี้ ก็เพราะ หลังจากที่ฉันได้รับรูปของท่านแล้ว ได้ไปที่เวียตนาม ขับเครื่องบิน ก็ถูกยิงขึ้นมาอย่างหนัก คิดว่าตายแน่นอน ส่วนเครื่องสลัดระเบิดก็ไม่ทำงาน ปลดไม่ได้เสียอย่างนั้นเอง

แต่ขณะที่กำลังวุ่นวายใจนั้น ก็มองเห็นพระภิกษุ ท่านนั่งอยู่ตรงข้างส่วนหัวเครื่องบิน เอามือปัดไปมาหลายครั้ง ฉันก็มาคิดว่า ตาคงไม่ฝาดแน่แล้ว จึงเกิดสงสัยว่า พระองค์นั้นไปนั่งอยู่ได้ยังไง… หรือว่าเป็นผี ขณะที่คิดอยู่นั้นท่านก็หันมาแล้วหายไป จำได้แม่นยำว่า องค์ที่ซื้อรูปท่านมานี่เอง… จึงไม่กลัวลูกปืน เพราะท่านปัดให้พ้นอันตราย มองเห็นลูกปืนวิ่งไขว่ไปมา พอถึงทะเล ก็ปลดลูกระเบิดลงทิ้งเสีย เครื่องปลดก็ดีอยู่ทำงานได้คล่องแคล่ว เลยรู้ว่า ท่านไม่ให้ทำบาป น่ะเอง

นอกจากนี้ เขายังได้เล่าเรื่องอันน่าระทึกใจ และเขายังจดจำวันนี้ไว้ชั่วชีวิต ว่า

อีกคราวหนึ่ง ตอนได้กลับไปอยู่บ้าน เพราะได้พักผ่อน สิทธิพิเศษนี้ จะได้ก็เป็นนายทหารเท่านั้น วันหนึ่งขับรถไปตามถนน ก็พบกับอุบัติเหตุเข้า รถเทรลเลอร์คันโต วิ่งสวนมาปิดทางหมดเลย หลบไม่ได้ เราเบรคแล้ว แต่เขาไม่เบรค เลยทำให้ปะทะกันอย่างแรง รู้สึกตัวเฮือกสุดท้ายว่า หลวงพ่อท่านมาอุ้มออกไปนอกรถ ท่านวางไว้ข้างๆ ต้นไม้ แล้วลูบหัว สอง-สามครั้ง ท่านก็ยิ้มให้

ฉันต้องนอนสลบอยู่อาทิตย์เต็มเลยทีเดียว พอฟื้นขึ้นมา ก็ต้องตกใจ เพราะหารูปของหลวงพ่อไม่พบ พอสอบถามหา เขาก็บอกว่า.. เอาไปทิ้งแล้ว เพราะเห็นว่าเปื้อนเลือด แม้แต่เสื้อผ้า เขาก็ทิ้งไปพร้อมๆ กัน ฉันเศร้าใจ และเสียใจมาก
.
เมื่อหายจากเจ็บป่วย ซึ่งก็เล็กน้อย เนื้อตัวไม่เป็นอะไรมากนักหรอก เนื้อตัวบาดเจ็บนิดหน่อย แต่แรงปะทะมันมาก แล้วก็พอสอบถาม ได้ความว่า ไปนอนอยู่ข้างต้นไม้จริงๆ สภาพรถนั้นเละ แต่ตัวไม่เป็นไร พากันอัศจรรย์ในเหตุการณ์ ครั้งนั้นเป็นอันมาก

เมื่อได้มาเมืองไทยอีกครั้ง ก็ได้มากราบท่านอีก และได้ยื่นหัวไปตรง เท้า-มือ ให้ท่านลูบอีกครั้งหนึ่ง… ซื้อรูปของท่านหลายรูป และมีรูปเป็นโลหะด้วย (เหรียญ) เคยกำชับบอกลูกสาว และลูกชายว่า
.
“นอกจากพ่อแม่นี้แล้ว เธอต้องเคารพรัก หลวงพ่ออี๋ เมืองไทยด้วย ตลอดชีวิต”
.
ลูกๆ พากันเรียกท่านว่า “คุณพ่ออี๋ ไทยแลนด์” … ”
.
ขอขอบคุณ dharma-gateway .com

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: