2454.“กูไม่อยากอยู่กับมึง มึงต้องเอากูไปส่งที่เก่าของกู”

“กูไม่อยากอยู่กับมึง มึงต้องเอากูไปส่งที่เก่าของกู”

ในครั้งที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 นายอุดมได้ติดตามกองทัพไทยไปพักอยู่ในวัดเก่าแก่แห่งหนึ่ง ในเมืองเชียงตุง ประเทศพม่า(Republic of the Union of Myanmar) โดยไปพักอยู่ในวิหารร้าง

ในตอนค่ำขณะที่จะนอน แต่ยังไม่หลับ ได้เห็นแสงสว่างพุ่งมาจากหัวนอน จึงเกิดความสงสัยว่าเป็นแสงอะไร? ก็ได้รีบลุกขึ้นตรวจดู

ได้เห็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์สีดำองค์หนึ่ง สูงคืบเศษ ขนาดหน้าตักกว้างประมาณ 3 นิ้ว ผิวองค์พระเป็นมันวาวเหมือนกับคนมาขัดถูอยู่ทุกวัน นายอุดมเกิดพอใจในองค์พระพุทธรูปจึงจัดแจงรีบคว้าพระพุทธรูปองค์นั้นใส่กระเป๋าไว้

นับตั้งแต่นายอุดมได้พระพุทธรูปองค์นี้มา ฐานะความเป็นอยู่ต่างๆ ก็ดีขึ้นอย่างประหลาด

ต่อมาเมื่อสงครามสงบลง นายอุดมได้เดินทางมาพักอยู่ที่ริมฝั่งแม่จัน แล้วคืนนั้นพระพุทธรูปองค์นั้นก็ได้เข้าฝันนายอุดมว่า

“อ้ายดม มึงจะเอากูข้ามไป กูไม่ไปกับมึง”

แต่นายอุดมก็ไม่ได้สนใจอะไร ในที่สุดก็นำพระพุทธรูปองค์นั้นกลับไปอยู่ที่จังหวัดจันทบุรี ตนเองก็ได้ลาออกจากราชการ ไปทำการค้าขาย

ปรากฏว่าระหว่างนี้หน้าตาของนายอุดมกลับหมองคล้ำ ร่างกายซูบผอมลง ฐานะก็ฝืดเคืองลงทุกที ต่อมาลูกเมียก็พากันเจ็บป่วยไปตามๆ กัน รักษาอย่างไรก็ไม่หาย พระพุทธรูปได้มาเข้าฝันอีกว่า

“กูไม่อยากอยู่กับมึง มึงต้องเอากูไปส่งที่เก่าของกู”

พอดีปีนั้นท่านพ่อลีได้เดินทางธุดงค์ไปถึงจังหวัดจันทบุรีเป็นครั้งแรก และได้มีโอกาสพบกับนายอุดม นายอุดมจึงได้เล่าเรื่องของเขาให้ฟังและบอกว่า

“ผมแย่ครับหลวงพ่อ ลูกเมียก็เจ็บตัวเองก็แย่ การทำมาหากินก็ฝืดเคืองยากจน พระพุทธรูปก็เข้าฝันผมว่าให้นำกลับไปไว้ที่เดิม ผมจะทำอย่างไรดี?”

ท่านพ่อจึงบอกว่า

“หลวงพ่อท่านชอบอยู่ป่าอยู่วิเวก เอามาไว้กับอาตมาก็ได้”

นายอุดมจึงนำพระพุทธรูปองค์นั้นมามอบไว้ให้ ท่านพ่อก็รับไว้บูชาตามธรรมดา นับแต่นั้นมาลูกเมียของนายอุดมก็หายป่วย และนายอุดมได้ย้ายเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ ในเวลาต่อมา

ท่านพ่อลี ธัมมธโร
Cr.SaRaN WiKi

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: