2453.“ค้อนไล่ผี”

“ค้อนไล่ผี”

พระอาจารย์จันทร์เรียน คุณวโร ท่านพาพระอาจารย์สมศรี อัตตสิริ และสามเณรอีกสองรูปมาพักที่หอผีปู่ตา บ้าน…(ขอสงวนชื่อ)
พระอาจารย์สมศรีท่านบอกที่หมู่บ้านแห่งนี้มีหอผีปู่ตาแปลกกว่าที่อื่น หอผีปู่ตาบ้านนี้เขาไม่สร้างเป็นอาคาร เหมือนกับหอผีปู่ตาทั่วไปที่ท่านเคยเห็นมา บริเวณหอผีของหมู่บ้านที่นี่จะเป็นดงต้นหมากค้อเขียว รอบบริเวณหอผีแห่งนี้ชาวบ้านร้านถิ่นเขาจะเอาขันตอกดอกไม้
เครื่องเซ่นสรวงต่างๆ นานามาวางเรียงรายเพื่อบูชาผี พระอาจารย์จันทร์เรียนท่านเห็นที่นี่สะอาดสะอ้าน จึงบอกให้หมู่คณะพักค้างคืนกันที่นี่…


พระอาจารย์สมศรี อัตตสิริ

พระอาจารย์จันทร์เรียนท่านบอกว่า ผีที่นี่มันดื้อดึงเอาเรื่องอยู่นะ
พวกเราไม่ต้องกลัว มันทำอะไรพวกเราไม่ได้หรอก
พระอาจารย์จันทร์เรียนท่านบอกให้พากันไหว้พระสวดมนต์
นั่งภาวนาของใครของมันอยู่ในกลด เรื่องทุกอย่างเราจะจัดการเอง
เณรน้อยสององค์ที่มาด้วยกลัวผี
จึงขอท่านพระอาจารย์จันทร์เรียนไปนอนรวมกันอยู่ในกลดเดียว
ท่านพระอาจารย์จันทร์เรียนว่า กลัวมันทำไมประสาผีเฉยๆ

ท่านเปรียบเปรยให้เณรฟังว่า
ธรรมชาติแขกไปไทยมาเขาก็มาหาพ่อแม่
เขาไม่ไปหาพวกลูกๆ ดอก
เณรน้อยทั้งสองเชื่อในคำพูดของท่าน
แต่คืนนี้ขอนอนด้วยกันเพราะกลัวผีหอปู่ตาหมากค้อเขียว
พระอาจารย์จันทร์เรียนท่านก็ไม่ว่าอะไร
เพราะเห็นใจในความกลัวของเด็ก…

พอเข้ากลดภาวนาแล้ว พระอาจารย์สมศรีท่านบอก
ผีอยู่หอปู่ตาหมากค้อเขียวเป็นร้อยๆ
พากันไปหาท่านพระอาจารย์จันทร์เรียน
โดยไม่มารบกวนท่านกับเณรน้อยสององค์เลย
ท่านบอกที่ผีไม่เข้ามารบกวนท่านกับสามเณร
เพราะพระอาจารย์จันทร์เรียนใช้อำนาจพิเศษปิดกั้นคุ้มภัยไว้ให้
พวกผีจึงเข้ามารบกวนท่านกับสามเณรน้อยไม่ได้

พระอาจารย์สมศรีท่านได้เห็นในอำนาจธรรม
ของพระอาจารย์จันทร์เรียนศิษย์ผู้พี่
ท่านจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงปู่ชอบ
จึงไว้วางใจมอบหมายให้ท่านพระอาจารย์จันทร์เรียน
เป็นครูฝึกภาวนาให้กับพระเณรรุ่นน้อง
ตั้งแต่พระอาจารย์จันทร์เรียนท่านพรรษาสี่

เหตุการณ์ภายในพระอาจารย์จันทร์เรียน
ท่านเล่าให้พระอาจารย์สมศรีฟังในภายหลังว่า
พวกผีไม่พอใจที่พวกเราเข้ามาพักอยู่ที่นี่
พวกผีจึงจำแลงเป็นหมาดำใหญ่มาข่มขู่ให้เรากลัว
พระอาจารย์จันทร์เรียนท่านว่า ป๊าดติโธ่…พวกนี่มึงเก่งมาแต่ใส


พระอาจารย์จันทร์เรียน คุณวโร

พระอาจารย์จันทร์เรียนท่านกำหนดจิต
เหาะขึ้นเหนือพวกหมาดำใหญ่ผีจำแลง
ท่านกำหนดไม้ค้อนขึ้นมาหนึ่งดุ้นทำท่าเหมือนจะฟาดใส่ผีพวกนี้
พวกผีเกรงในอำนาจธรรมของท่าน
จึงพากันแตกหนีกระเจิงไปจนหมดหอผีปู่ตาหมากค้อเขียว
พระอาจารย์จันทร์เรียนบอกพระอาจารย์สมศรีว่า
เฮาหยอกมันเล่นซื่อๆ พวกผีมันหนีไปหมดแล้ว…

พักภาวนาอยู่หอผีปู่ตาหมากค้อเขียวหนึ่งคืน
พระอาจารย์จันทร์เรียนพาพระอาจารย์สมศรีมาฝึกภาวนาที่บ้านสานตม
ออกจากบ้านสานตมก็ไปพักภาวนาที่บ้านกลาง ตีนภูหลวง
ที่บ้านกลางแห่งนี้องค์ท่านหลวงปู่ชอบ
เคยพาพระอาจารย์จันทร์เรียนมาฝึกภาวนา
ว่ามาถึงตรงนี้ขอเขียนแทรกเรื่องที่ท่านพระอาจารย์จันทร์เรียน
ศิษย์ผู้พี่ท่านเล่าให้ฟังซักเล็กน้อย…

:b44:

พระอาจารย์จันทร์เรียนบอกท่านเป็นคนกลัวช้างมาแต่ไหนแต่ไร
ตอนพรรษาที่สาม องค์ท่านหลวงปู่ชอบพาท่านมาฝึกภาวนาที่บ้านกลาง
พระอาจารย์จันทร์เรียนบอก หลังสรงน้ำพ่อแม่ครูอาจารย์แล้ว
หลวงปู่ชอบท่านบอกให้รีบสรงน้ำก่อนตะวันตกดินเด้อ
สรงน้ำแล้วก็ให้พากันกลับไปเดินจงกรมภาวนาอย่ามานั่งคุยกัน
ค่ำมาแลงมาเสือช้างสัตว์ป่ามันจะออกหากิน
พระอาจารย์จันทร์เรียนท่านบอก
วันนั้นไม่รู้เป็นอะไรเราเปรี้ยวปากอยากคุยหลาย
จึงชวนเณรมานั่งคุยกันจนค่ำโพล้เพล้…

พอค่ำลงช้างป่าภูหลวงลงมาหากินทางวัดบ้านกลาง
เรานั่งคุยกับเณรได้ยินเสียงช้างหักไม้ไผ่ดัง โพล๊ะเพละๆ เข้ามาทางวัด
พอตนเองมองเห็นช้างเท่านั้น
เราบอกเณรให้กลับที่พักช้างป่ามันมาแล้ว
ตนเองรีบกลับที่พักเอากลดลงนั่งมองดูช้างมันกินใบไผ่
คิดในใจว่า ช้างเอ้ยมึงอย่ามาทางนี้เด้อกูย่าน (กูกลัว)
คิดในใจบ่อยากให้ช้างมันมาทางเจ้าของ ปานบอกให้มันมาหา…

ช้างมันเดินมาทางที่เฮาอยู่ ช้างมันเอางวงมาดมกลด
เฮาตกใจย่านช้างหลาย (กลัวช้างมาก)
เฮาฮ้องพุทโธแฮงๆ ในใจบาดเดียวเท่านั่น
จิตรวมพรึ่บสว่างไสวอยู่ในอัปปณาสมาธิ
ตั้งแต่หกโมงแลงจนถึงหกโมงเช้า
พอจิตรวมแล้วช้างกะช้างเถอะ จิตสงบแล้วกูบ่ย่านมึงดอก”

พระอาจารย์จันทร์เรียนท่านเล่าไปหัวเราะไปอย่างขำขัน
ตนเองขำกลิ้งขำหงายกับเรื่องที่ท่านพระอาจารย์จันทร์เรียน
ศิษย์ผู้พี่ท่านเล่าให้ฟัง บอกท่าน
ท่านอาจารย์เป็นลูกศิษย์ของพ่อแม่ครูอาจารย์ชอบอีกรูปหนึ่ง
ที่อาจหาญชาญชัยในธรรมทำไมท่านอาจารย์ต้องกลัวช้างด้วย
กระผมยังไม่แจ้งใจ…

ท่านบอก

“ฮ่วย…บ่ย่านมันจั๋งใด๋ ซ้างมันโตใหญ่กว่าเฮาแหม๋
ไปหือไปเก่งกับมันตี้ มันสิเหยียบเอาขี้แตกตาย
เรื่องนี้อย่าไปว่าให้ผู้ใด๋ฟังเด้อ”

ตนเองบอกท่านอย่างมั่นเหมาะ
“บ่รับปาก ผมเป็นคนปากบอน กล้วยรู้ โลกรู้”

พระอาจารย์จันทร์เรียนท่านเลยสรรเสริญ
ด้วยคำมูลสมัยพ่อขุนรามคำแหงเป็นที่สนุกสนาน
ในการสนทนากันแบบพี่น้องร่วมอุทรธรรมขององค์ท่านหลวงปู่ชอบ

พระอาจารย์จันทร์เรียนบอก

“ตอนเช้าพอจิตถอนออกมา เห็นพ่อแม่ครูจารย์ชอบยืนอยู่หน้ากลด
เพิ่นบอก เรียนไปเอาบาตร เฮาจะบิณฑบาตแล้ว
พ่อแม่ครูจารย์เพิ่นว่าให้ อาจารย์ชอบนี่บ่มีวาสนาสอนลูกศิษย์
ให้จิตสงบคืออาจารย์ช้างเน๊าะ ต่อไปให้ท่านเรียนเอาช้างเป็นอาจารย์เด้อ
ว่าให้แล้วพ่อแม่ครูจารย์เพิ่นกะยิ้มย้วยๆ (ยิ้มหวาน)
พ่อแม่ครูจารย์เพิ่นฮู้ว่าจิตเฮาเป็นจั่งใด๋
เพิ่นรอให้เฮาถอนจิตออกมาก่อนเพิ่นถึงบอก”

“การได้อยู่ฝึกฝนอบรมธรรม
กับครูบาอาจารย์ผู้รู้จริงอย่างหลวงปู่ชอบนี่
เป็นบุญวาสนามหาศาลหลาย
เกิดอีกร้อยชาติล้านชาติจะได้พบจะได้พ้อ
กับพระอรหันต์ผู้ทรงฤทธิ์ ทรงธรรม อย่างหลวงปู่ชอบอีกบ้อ”

พระอาจารย์จันทร์เรียนศิษย์ผู้พี่ท่านเตือน

“คนเราถ้าเชื่อปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว
เฮารับรองได้ว่าบ่มีทางที่ผู้นั่นตกจะอบายภูมิ
ผู้ใดเชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้วมีแต่เจริญไปหน้า
ที่ตกนรกอบายภูมิอยู่ทุกวันนี้เพราะมันบ่เซื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้า
มันรั้นเกินธรรมพระพุทธเจ้า เอาแม้คนเราถ้าใจมั่นคง
อยู่กับพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์แล้ว ใจผู้นั่นบ่มีทางตกนรกดอก”

องค์หลวงปู่จันเรียน คุณวโร

วัดถ้ำสหายจันทร์นิมิตร ต.ทับกุง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: