2414.หลวงปู่แหวนเป็นศิษย์องค์หนึ่งของหลวงปู่สี

หลวงปู่แหวนเป็นศิษย์องค์หนึ่งของหลวงปู่สี

หลวงปูสี วัดถ้ำเขาบุญนาค ท่านเป็นศิษย์รุ่นสุดท้าย สมเด็จโต วัดระฆัง เป็นสหธรรมมิก กับ หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า และ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาตฯ ท่านนับเป็นเกจิ รุ่นโตกว่า หลวงพ่อจาด จง คง อี๋อีกแต่เนื่องจากหลวงปู่สี ท่านอายุยืนนานมาก มีอายุถึง ๑๒๙ ปี จึงมามรณะภาพทีหลัง คนบางคน ไม่รู้เลยนึกว่าท่านเป็นเกจิรุ่นหลัง

หลวงปู่สี วัดถ้ำเขาบุนนาค

เหตุที่ทำให้มีคนรู้ว่า หลวงปู่แหวนเคยเป็นศิษย์หลวงปู่สี เมื่อคณะศิษย์ตาคลี ได้สร้างเหรียญหลวงปู่สี รุ่นโภคทรัพย์ เมื่อปี ๒๕๑๙ เมื่อสร้างเสร็จ เหล่าคณะผู้สร้าง จึงนำเหรียญทั้งหมด ไปให้หลวงปู่สีเสก รุ่นนี้ นับว่าแปลก ท่านแค่มองเฉยๆ แล้วก็ถามคนสร้างว่า ดีไหม คณะคนสร้างเห็นท่านยังไม่ทำอะไร จะดีได้อย่างไร จึงนั่งเงียบกัน

เหรียญหลวงปู่สี รุ่นโภคทรัพย์ เมื่อปี ๒๕๑๙

หลวงปู่สี ท่านจึงถามประโยคเดิมอีกว่า ดีไหม พวกนั้นก็พากันนิ่งเงียบอีก หลวงปู่สี ท่านจึงถามอีกเป็นครั้งที่สามอีกว่า ดีไหม จนคนหนึ่งเห็นท่านถามถึงสามครั้งสามครา อดไม่ได้ จึงตอบท่านว่า ดีครับ หลวงปู่สี ท่านจึงพูดว่า เอ่อ ดีแล้วเอากลับไปได้

พอคณะผู้สร้าง ได้ยินว่า ดีแล้ว เอากลับไปได้ ทำเอาถึงกลับหน้าเสีย เพราะไม่เห็นท่านทำอะไรเลย เมื่อขนของออกมาแล้ว คณะผู้สร้างก็ปรึกษากันว่า เดี๋ยวเราเอาไปปลุกเสกอีกที แล้วค่อยออกดีกว่า จะเห็นว่า นักสร้างพระสมัยก่อน เขารับผิดชอบต่อของที่สร้าง เพราะยังไม่มั่นใจว่าดี เขาต้องนำไปเสกจนว่าดีจึงพอ

เมื่อปรึกษากันแล้ว ก็มีคนหนึ่งเสนอว่า นำไปให้หลวงปู่แหวน เสกดีกว่า เพราะเขาพอมีคนรู้จักที่นั่น เมื่อคณะนี้ นำเหรียญรุ่นนี้ ไปวางหน้าหลวงปู่แหวน หลวงปู่แหวนก็บอกพวกนั้นว่า เหรียญนี้ หลวงปูสีเสกมาแล้วนี่

หลวงปู่แหวน

คณะผู้สร้าง จึงเรียนหลวงปู่แหวนว่า หลวงปู่สี ท่านไม่ได้เสก ท่านแค่มองเฉยๆ หลวงปู่แหวนจึงบอกพวกนั้นว่า หลวงปู่สี ท่านแค่มอง ดีกว่าฉันปลุกเสกเป็นวันๆ อีก แต่เพื่อไม่เสียกำลังใจ หลวงปู่แหวนสวดสรรเสริญนิดหน่อยกับพรมน้ำมนต์ พอเป็นพิธี

หลวงปู่แหวน จึงเล่าให้ฟังว่า สมัยธุดงค์ ได้พบกับหลวงปู่สี จึงได้ฝากตัวเป็นศิษย์ท่าน อยู่สองสามเดือน เรื่องที่หลวงปู่แหวน เคยเรียนวิชากับ หลวงปู่สี นับว่าเป็นครั้งแรกที่คนเพิ่งทราบ สมัยก่อน จะคิดว่า ท่านเป็นศิษย์สายพระอาจารย์มั่น อย่างเดียว

ที่มา ศิษย์สายวัดสะพานสูง

แอพเกจิ

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: