2395.สำนักหลวงพ่อเปิ่นสักรูปแล้วมีตัวตน

สำนักหลวงพ่อเปิ่นสักรูปแล้วมีตัวตน

ในอดีตกาล ถึงในปัจจุบัน สำนักสักยันต์ ที่มีลูกศิษย์ลูกหามากที่สุด ไม่มีใครปฏิเสธได้ สำนักนั้นคือสำนักหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ สังเกตุได้จากงานไหว้ครู มีคนมาร่วมงานหลายหมื่นคนและยังเป็นสำนักสักยันต์ ที่สักรูปแล้วมีตัวตน

เรื่องนี้ อ.กฤษณะ พิสูจน์ด้วยตัวเองแล้ว จึงเชื่อมั่นว่า สำนักนี้สักรูปแล้วมีตัวจริงดั่งเคยเล่าแล้ว ช่วง อ.กฤษณะ ยังเป็นวัยรุ่น เวลาว่าง มักจะไปหาเกจิต่าง มีใครแนะนำว่าเก่ง ต้องหาโอกาสไปกราบนมัสการเป็นประจำ

ตอนที่ไปกราบหลวงปู่ผล วัดพันท้ายนรสิงห์ เพราะมีเพื่อนรุ่นพี่ แนะนำว่าองค์นี้เก่ง เมื่อได้สัมผัสท่านแล้ว ท่านเป็นพระที่น่านับถือ ยิ่งรู้ประวัติท่าน ยิ่งรู้ว่าท่านไม่ธรรมดา

หลวงปู่ผล ท่านมีความสนใจในไสยศาสตร์ ตั้งแต่ท่านยังเป็นเณร ท่านได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง ตอนที่ท่านไปเรียน ท่านได้พบหลวงพอ่ผล วัดหนัง และหลวงปู่โต๊ะ ก็มาเรียนเหมือนกัน แต่หลวงปู่โต๊ะกับหลวงพ่อผล ท่านโตกว่า ตอนนั้นท่านบวชเป็นพระแล้ว

เมื่อหลวงปู่เอี่ยม มรณะภาพแล้ว หลวงปู่ผล ท่านได้มาต่อวิชากับหลวงปู่แก่น วัดช่องลม ซึ่งหลวงปู่แก่น มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว และเรียนที่สำนักเดียวกันด้วย หลวงปู่บุญ มีวิชาอะไร หลวงปู่แก่น ก็มีเช่นกัน

อ.กฤษณะ เมื่อได้ไปกราบหลวงปู่ผลบ่อย ท่านก็เมตตาสอนวิชามาให้บ้าง แต่มีวิชาหนึ่ง ท่านว่าให้ใช้ปลุกเสือให้ตื่น เป็นธรรมดา อ.กฤษณะ ได้วิชาใดมา มักจะทดลองดูก่อน ก็เลยลองกับตัวเอง ภาวนาและลูบที่หน้าอก ที่เคยสักน้ำมันรูปเสือที่หน้าอกเมื่อภาวนาไปสักพัก เหมือนมีเล็บเล็กๆ มาข่วนที่อกด้านใน ตอนนั้น รู้สึกตื่นเต้นมาก ว่าเสือที่สักมายังอยู่ และมีตัวตนด้วย

จนวันหนึ่งมีเพื่อนมาหาที่บ้าน ก็เลยเล่าให้ฟัง เพื่อนฟังแล้วก็อยากทดลองกับตัวเอง เพราะเขาก็สักเสือมาเหมือนกัน อ.กฤษณะ จึงให้เขานั่งอยู่ข้างหน้า ส่วน อ.กฤษณะ นั่งข้างหลังเขา เอามือสองมือแตะที่หลัง ภาวนาไปไม่นานนัก เพื่อนตะโกนออกมาดังลั่นว่า เฮ้ยข่วนแล้วเว้ย อ.กฤษณะ ผ่านการทดลองกับตัวเอง และพิสูจน์กับคนอื่นด้วย จึงยืนยันได้ว่า สำนักหลวงพ่อเปิ่น สักรูปแล้วมีตัวจริง

ที่มา ศิษย์สายวัดสะพานสูง

แอพเกจิ