2379.แก้วทั้ง ๖ คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม

แก้วมีถึง ๖ แห่ง

ตาเป็นแก้ว คือตาใสไม่ใช่ตาที่ขุ่นมัว เพราะเห็นเขาจะทำอะไรก็ให้พิจารณาว่าสิ่งนี้ผิด สิ่งนี้ถูก ถ้าสิ่งที่เห็นนั้นเป็นมงคลก็ให้นำมาใช้ นึกจะดูหนังสือก็ดูได้เรียกว่าตาใสเป็นแก้ว

ไม่เพ่งโทษคนอื่น ไม่มองคนอื่นด้วยการเหยียดหยาม มองแล้วให้เป็นอุเบกขา ไม่ยินดียินร้าย เรียกว่าตาใสเป็นแก้วสารพัดนึก


คุณแม่บุญเรือน-โตงบุญเติม

หูเป็นแก้ว เมื่อฟังคำสอนก็รู้ได้ทันท่วงที และจำมาปฏิบัติ หรือจะฟังเสียงดีดสีตีเป่า ไม่ยินดีในสิ่งเหล่านั้น และไม่ติดในสิ่งเหล่านั้น จึงจะเรียกว่าหูที่เป็นแก้วสารพัดนึก

จมูกเป็นแก้ว นั้นคือ หายใจเข้าออก เมื่อสูดกลิ่นหรือหอมก็ไม่ให้ยินดีในสิ่งเหล่านั้น เมื่อครูหรือผู้ปกครองจะสอนก็ไม่ต้องทำจมูกฮึดฮัดในท่าขัดเคือง ดัดจมูกไม่ให้ยินดีในสิ่งต่างๆ ก็เรียกว่า จมูกเป็นแก้วสารพัดนึก

ปากเป็นแก้ว คือจะพูดสิ่งหนึ่งสิ่งใดก็ให้มีสัตย์จริงทุกคำ ตลอดจนกระทั่งรับประทานอาหารก็ไม่ให้ติชม จึงจะเรียกว่า ปากเป็นแก้วสารพัดนึก นึกจะพูดสิ่งใดก็มีแต่ประโยชน์ทั้งสิ้น มีคนเชื่อถือโดยการพูดจริง

มือเป็นแก้ว ไม่แตะต้องของผู้อื่น มือบริสุทธิ์ไม่เป็นโขมยและไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไม่ประทุษร้ายมิตรด้วยการลงมือทำร้ายผู้ใด ได้อาศัยเขียนหนังสือทำการบ้าน หรือเพื่อกิจการที่เป็นสัมมาอาชีวะทุกชนิด จึงจัดว่ามือเนรมิตเป็นมือแก้วสารพัดนึก

กายเป็น​แก้ว นั้นสำคัญมาก เพราะเป็นที่ตั้งของแก้วทั้ง ๕ ต้องอาศัยส่วนรวมของแก้วอยู่ที่กายทั้งสิ้น คือ กายนั้นตลอดกระทั่งกายกรรม วจีกรรม มโนกรรมรวมอยู่ที่กายทั้งสิ้น ถ้าไม่มีกายแล้วก็จะไม่มีที่ตั้งแห่งแก้วทั้ง ๕ นั้น “

คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม

Cr.Saran WiK

แอพเกจิ

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: