2359.หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค สยบงูจงอาง

อภินิหาร ‘หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค
สยบอสรพิร้าย “งูจงอาง” ช่วยชีวิตเด็ก
เหนือลิขิต ประกาศิตฟ้าดิน ฉบับนี้ขอนำ “นาทีระทึกขวัญ” ขณะเด็กน้อยผู้หนึ่งต้อง “ผจญภัย” กับอสรพิษร้ายที่เรียกกันว่า “งูจงอาง” กลางหลุมลึกทั้งที่ “เด็กน้อย” ผู้นี้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลยแต่กลับ “รอด” จากถูกอสรพิษร้ายฉกกัดได้ดุจปาฎิหารย์

ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้น “ผู้พ่อ” ที่มาพบเห็นจึงเชื่ออย่างสนิทใจเป็นเพราะ “พุทธบารมี” และอำนาจแห่ง “พุทธานุภาพ” ของ “เหรียญคุณพระ” ที่เด็กชายคนนั้นแขวนอยู่บนคอแสดงปาฏิหารย์เป็นที่น่าอัศจรรย์ “อ่านความจริง…อ่านเดลินิวส์” ฉบับนี้จึงขอนำ “เรื่องอันน่าพิศวง” เรื่องนี้มาเสนอท่านผู้อ่านเช่นเคย

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2517 ที่ จังหวัดตรัง และเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับ “คุณสาธร ตีระกานนท์” ซึ่งเป็นนักสะสมพระเครื่องอีกผู้หนึ่งได้เผยว่า “ในปี 2517 ได้ปลูกบ้านหลังใหม่ที่อยู่ในบริเวณเดียวกันกับบ้านหลังเก่า ซึ่งก่อนปลูกบ้านก็จะต้องมีพิธี “ยกเสาเอก” ตามแบบอย่างโบราณจึงขุดหลุม “สี่เหลี่ยม” กว้างเมตรครึ่งและลึกเมตรเศษเพื่อทำพิธียกเสาเอก หลังจากขุดหลุมเสร็จจึงไปหาซื้อข้าวของสำหรับจัดพิธีในตัวตลาด

แต่พอกลับมาถึงบ้านก็ไม่เห็น “ลูกชาย” อายุขวบเศษที่ปล่อยให้นอนอยู่ยังบ้านหลังเดิมเพียงลำพัง จึงเดินตามหารอบๆบ้านพร้อมทั้งตะโกนเรียกก็ไร้เสียงตอบ จึงเดินไปดูตรงที่ขุดหลุมไว้เพื่อยกเสาเอกก็เห็นลูกชายตัวน้อยตกลงไปในหลุม

ที่มี “งูจงอางตัวเขื่อง” ยาวประ มาณเมตรเศษตัวดำเมี่ยมนอนขดตัวอยู่ตรงหน้า “ลูกชาย” ที่ขณะนั้นมีทีท่าหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัดจนไม่กล้าส่งเสียงใดๆเลย “คุณสาธร” จึงรีบยื่นมือคว้าเอาตัวลูกชายขึ้นจากหลุมอย่างระมัดระวังพร้อมถาม “โดนงูกัดหรือเปล่าลูก” ลูกชายสั่นหัวแทนคำตอบเนื่องจากขณะนั้นพูดอะไรไม่ออก “คุณสาธร” จึงสำรวจเนื้อตัวลูกชายเมื่อไม่พบ “รอยถูกงูกัด” จึงโล่งใจแต่ก็เกิดอาการฉงนไฉนลูกชายจึงไม่ถูก “งูฉกกัด” ทั้งที่อยู่ในหลุมแคบๆด้วยกันชั่วครู่จึงมองไปที่คอลูกชายก็พบว่ามี “เหรียญหลวงพ่อพรหมวัดช่องแค” รุ่น “แจกทาน” ที่ตนเองเป็นผู้ให้ลูกชายแขวนไว้จึงยกมือขึ้นสาธุ


เพราะรู้ทันทีว่าด้วยบารมี อันศักดิ์สิทธิ์ของ “หลวงพ่อพรหม” ที่ช่วยชีวิตลูกชายไว้เนื่องจากสัญชาติ “อสรพิษร้าย” อย่างงูจงอางหากอยู่ใกล้คนเป็นต้องฉกกัดทันทีดังนั้นเมื่อ “ลูกชาย” รอดจากถูกงูฉกกัดเช่นนี้จึงนับเป็น “ปาฏิหาริย์” ที่ “หลวงพ่อพรหม” บันดาลขึ้นโดยแท้ต่อมาหลังจากทำพิธี “ยกเสาเอก” เสร็จเรียบร้อยโดยจับ “งูจงอาง” ปล่อยเข้าป่าไป “คุณสาธร” ก็พาลูกชายพร้อมครอบครัวไปทำบุญกับ “หลวงพ่อพรหม” ที่วัดช่องแคพร้อมกราบขอบพระคุณที่ท่านช่วยลูกชายทั้งที่ท่านได้ละสังขารไป นานแล้ว

“หลวงพ่อพรหม ถาวโร” แห่ง “วัดช่องแค” ตำบลพรหมนิมิตร อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ถือกำเนิดเมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ปีมะแม ตรงกับวันที่ 12 เมษายน พ.ศ.2426 ณ ตำบลบ้านแพรก อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในขณะยังเยาว์วัยได้ศึกษาอ่าน-เขียนกับพระในวัดใกล้บ้าน พออ่านออกเขียนได้แล้วหลวงพ่อก็เรียนอักษรขอมควบคู่กับภาษาไทย จึงมีความรู้ภาษาขอมพอสมควร

ครั้นอายุครบบวชได้อุปสมบทที่ วัดเขียนลาย ตำบลบ้านแพรก อำเภอบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อ 15 มีนาคม พ.ศ.2447 โดยมี หลวงพ่อถมยา วัดเขียนลาย เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “ถาวโร” และได้ศึกษาเล่าเรียนภาษาขอมเพิ่มเติมจนชำนาญ จากนั้นเริ่มปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานหลวงพ่อเคยเล่าให้ลูกศิษย์ใกล้ชิดฟังว่า หลวงพ่อเริ่มศึกษาวิชาไสยศาสตร์และคาถาอาคม จากอาจารย์ซึ่งเป็นฆราวาสชื่อ อาจารย์พ่วง ต่อมาหลังจากอุปสมบทแล้วจึงได้ศึกษา อสุภกรรมฐาน สมถกรรมฐาน วิปัสสนา จาก หลวงพ่อดำ ประมาณ 4 ปีในพรรษาที่ 5 อาจารย์พ่วง ซึ่งเป็นอาจารย์คนแรกได้พาไปฝาก อาจารย์ปู่วอน ซึ่งเป็นฆราวาสและได้ศึกษาวิชาแขนงต่าง ๆเป็นเวลา 5 ปีเต็ม

จากนั้นหลวงพ่อไม่ได้ไปศึกษาวิชากับอาจารย์ท่านใดโดยตรงอีก แต่อาจมีการแลกเปลี่ยนวิชากับอาจารย์รุ่นพี่ระหว่างธุดงค์บ้าง เช่น หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ หลวงพ่อพรหมเคยเดินธุดงค์ไปยังประเทศพม่า จนถึงเมืองร่างกุ้งและไปนมัสการ พระเจดีย์ชะเวดากอง หลวงพ่อได้เดินธุดงค์อยู่ในประเทศพม่านานพอสมควร จึงเดิน ทางลัดเลาะตามแม่น้ำสายต่างๆ ผ่านมาทาง ด่านแม่ละเมา จังหวัดตาก และเดินทางเรื่อยมาจนถึง เขาช่องแค ตำบลพรหมนิมิตร อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์

เกิดฝนตกหนักจึงไปหลบฝนในถ้ำเล็กๆ บนเขาช่องแค ต่อมาหลวงพ่อเห็นว่าเขาช่องแคนี้เป็นที่วิเวก เหมาะแก่การบำเพ็ญธรรมจึงปฏิบัติธรรมอยู่ ณ เขาช่องแค ซึ่งขณะนั้นมีภิกษุจำพรรษาอยู่เพียง 2 รูป โดยไม่ได้ย้ายไปอยู่วัดใดอีกเลยตลอดระยะเวลา 58 ปี จำพรรษาอยู่ วัดช่องแค หลวงพ่อได้สร้างประโยชน์โดยการทำนุบำรุงศาสนาก่อสร้างเสนาสนะต่างๆ ภายในวัด พร้อมทั้งให้การอุปถัมภ์ โรงเรียนวัดช่องแค กระทั่งมรณภาพเมื่อวันที่ 30 มกรา คม พ.ศ.2518 ณ โรงพยาบาลบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี รวมอายุ 91 ปี 71 พรรษา

หลังจากหลวงพ่อพรหมมรณภาพแล้ว คณะกรรมการวัดได้บรรจุศพของท่าน ซึ่งปรากฏว่าไม่เน่าเปื่อย มด ไร มอด และแมลง ไม่ได้รบกวนทำลายชิ้นส่วนใดในร่างกายของท่านแม้แต่น้อย คล้ายกับหลวงพ่อนอนหลับเฉยๆถึงแม้ว่าท่านจะมรณภาพมาแล้วถึง 33 ปี ก็ตามนับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นเหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไป ซึ่งเกิดขึ้นกับสังขารของท่านหลังจากละสังขารแล้วก็คือ
1. เส้นผมงอกยาว
2. เส้นขนคิ้วงอกยาว
3. เส้นขนตางอกยาว
4. หนวดงอกยาว
5. เคราใต้คางยาว
6. เล็บมืองอกยาว
7. เล็บเท้างอกยาว

ซึ่งนับเป็นปรากฏการณ์อันน่าอัศจรรย์อย่างยิ่งหากท่านผู้อ่าน มีโอกาสก็สามารถเดินทางไปกราบนมัสการ ขอพรจากสังขารของท่านที่นอนสงบนิ่งอยู่ ณ วัดช่องแค ได้เพราะบารมีแห่งความศักดิ์สิทธิ์ของท่านยังคงปรากฏให้เห็นอยู่เสมอ สำหรับวัตถุมงคลของหลวงพ่อมีหลายรุ่นมักจะมีรูประฆังไม่ว่าจะเป็น “เหรียญ” หรือ “พระเนื้อผง” มีรูปหลวงพ่อนั่งอยู่ในระฆังจนดูเหมือนวัตถุมงคล “รูประฆัง” จะเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของหลวงพ่อนอกจากนั้นก็มีวัตถุมงคลรุ่นต่างๆ อีกมากมายหลายแบบล้วนมีพุทธคุณเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาทั่วไป ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านทุกรุ่นได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ทำให้มีการปลอมแปลงมากมายแทบทุกรุ่นทุกแบบ ท่านที่ต้องการแสวงหาควรพิจารณาอย่างรอบคอบ มิเช่นนั้นอาจเสียทรัพย์ไปโดยไม่ได้ของแท้มาสักการบูชา

ที่มา
http://ddpra-neung.blogspot.com/

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: