2315.”ผีกองกอย กลัวอำนาจจิตหลวงปู่ฝั้น”

เรื่อง “ผีกองกอย กลัวอำนาจจิตหลวงปู่ฝั้น”

(คติธรรม หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)

แปลกๆ อันหนึ่งก็คือ ท่านไปพักอยู่ที่ ทางภาคอีสาน เขาเรียกว่า “ผีกองกอย” มันร้องกลางคืน เขาว่าถ้าผีชนิดนี้มาเยี่ยมบ่อยๆ คนมักตายบ่อยๆ มันกินคนอย่างลึกลับ เขาเรียกผีกองกอย ท่านก็ไปพักอยู่ที่นั่น คนที่มาพักเขาก็บอกว่า ที่แถวนี้มีผีกองกอย

เขาเล่าให้ท่านฟัง ตอนนั้นดูว่าท่านมีพระไปด้วย เป็นสององค์กับท่าน แล้วก็มีตาปะขาวคนหนึ่งรวมเป็นสามไปพักอยู่นั้น พอสามทุ่มล่วงไปแล้ว คืออยู่ในป่ามันเหมือนดึกนะ เขาบอกว่าแถวนี้มีผีกองกอย ถ้าผีกองกอยเที่ยวไปแถวไหนแล้วคนมักจะเป็นไข้ป่วยแล้วตาย เขาว่าผีพวกนี้มันกินตับคน เขาเล่ากันไปอย่างนั้นแหละท่านก็ฟังไป จึงได้เห็นผีนี้ชัดเจน นั่นเห็นไหมล่ะ

พอมันร้อง ตาปะขาวอยู่ที่นั่น ตรงนั้นละ สามทุ่มกว่าๆ ท่านกำลังนั่งภาวนาอยู่ เสียงกองกอยๆ มา ได้ยินชัดเจนเงียบๆ กลางคืน ที่เขาว่าเสียงกองกอยๆ มันเสียงอย่างนั้นจริงๆ เขาเรียกผีกองกอย พอมาถึงตาปะขาว ท่านก็วิตกถึงตาปะขาว กลัวมันจะมาทำไมตาปะขาวเพราะมันเป็นสัตว์ลึกลับ มองด้วยตาไม่เห็น

พอมันมาได้จังหวะแล้วท่านก็กำหนดจิตดู ท่านพูดเองนะ โอ๋ย มันตัวเหมือนลิงท่านว่า มันเหมือนลิง พอจิตท่านส่งไป โอ๋ย มันกลัวมากที่สุดเลย พอตามันรับกับใจของท่าน เหมือนว่าตามันรับกับตาเราว่างั้นเถอะ แต่ตาเราเป็นตาใจ พอมองเห็นปั๊บวิ่งปรู๊ดเลย กลัวมากที่สุดเลย กลัวอย่างมากทีเดียว

เราเห็นมัน จ้องดูอยู่นี่ พอมันแพล็บเข้ามามองเห็นเรานี้ปรู๊ดวิ่งเลย ตั้งแต่วันนั้นเงียบเลย โอ๋ ได้เห็นแล้วมันเหมือนลิง ท่านว่างั้น สัตว์ตัวนี้เหมือนลิง คือมันไม่ได้เป็นรูปวัตถุนะ รูปเป็นนามธรรมแต่เหมือนลิง ท่านว่างั้น

ท่านอาจารย์ฝั้นท่านเล่าให้ฟัง ท่านรู้สึกพิสดารเกี่ยวกับพวกเปรตพวกผี พวกเทวบุตรเทวดา ท่านอาจารย์ฝั้นเด่นอยู่องค์หนึ่ง นั่นละเด่นไปคนละทางๆ บรรดาพระเจ้าพระสงฆ์ที่เป็นนักภาวนาด้วยกัน มีนิสัยวาสนาเด่นทางไหนก็เป็นไปทางนั้นๆ จะเป็นขึ้นมาเองรู้เอง

ครูบาอาจารย์ที่เป็นนักภาวนา ท่านรู้ของท่านธรรมดาๆ แต่เรื่องของโลกมันกีดมันขวาง ท่านจึงไม่นำออกมาใช้ ไม่พูด พูดก็มีแต่การแนะนำสั่งสอนไปธรรมดาที่อยู่ในฐานะซึ่งควรจะสอนได้ แต่เรื่องภายในแล้วท่านไม่พูด เฉย นอกจากพวกเดียวกัน

ถ้าพวกเดียวกันท่านพูดเสมอ ไปอยู่ที่นั่นมีอย่างนั้นๆ เช่นอย่างในถ้ำ มีผีมีเทวดารักษา ท่านรู้ แต่ท่านพูดในวงของท่านเองพวกนักภาวนากรรมฐานด้วยกัน คือใจนี้เป็นนักรู้ เมื่อเปิดออกๆ นิสัยวาสนาของใครจะเด่นทางไหนๆ มันจะรู้ของมันเห็นของมันไปตามนั้น จะไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับนิสัยวาสนา ไปคนละทิศละทาง

Cr.Opas Westly
แอพเกจิ แอพรวมเรื่องราวประสบการณ์จริง เกี่ยวกับ พุทธคุณ ไสยศาสตร์ วิชาอาคม

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: