2282.หลวงปู่บุญทา ถาวโร ผู้สอนคาถาอาคมให้ หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่

#หลวงปู่บุญทา วัดบ้านเหล่าสวนปอ
อำเภอปทุมรัตต์ จังหวัดร้อยเอ็ด
หลวงปู่บุญทา ถาวโร พระเกจิอาจารย์ ผู้สอนคาถาอาคมให้ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่

หลวงปู่บุญทาเอ่ยถามหลวงพ่อคูณว่า .. “ท่านคูณสูบยามวนใหญ่โตมีเวทมนตร์อาคมไหม หลวงพ่อคูณตอบว่า”ไม่มีขอรับ” “ท่านควรมีบ้าง เพราะเมื่อควันยาลอยไปตามลม ใครได้กลิ่นเข้าจักได้เคารพศรัทธาเลื่อมใสมีเสน่ห์ นะท่าน” หลวงปู่บุญทาแนะ “ไม่รู้จะไปเรียนมนต์นี้จากใครได้เล่าท่าน” หลวงพ่อคูณกล่าวตอบ

หลวงปู่บุญทาเลยกระซิบว่า “ผมมี ได้ผลดีนักแล” “แล้วคิดค่ายกครูเท่าไหร่นะอาจารย์” หลวงพ่อคูณถาม “ก็ต้องมีค่ายกครู เพราะผมก็เรียนจากอาจารย์พระอุปัชฌาย์มาแต่ว่าท่านกับผมเป็นพระถือศีล ๒๗๗ เหมือนกัน ทำงานให้พุทธศาสนาผมไม่คิดสักสลึงเดียว อาจารย์เจ้าของคาถาอาคมคงอนุญาตให้ถ้าท่านคูณเอาก็เรียนเดี๋ยวนี้ ว่าตามผมได้เลย” หลวงปู่บุญทากล่าวจากนั้น หลวงพ่อคูณได้ยกมือพนามไหว้หลวงปู่บุญทา พร้อมกล่าวตาม

#พระคาถาเต่าเลือน
ว่านะโม3จบ
นะเลื่อน เปื่ยนสะเทือน นะหลงใหล โมวังเวง โสละวน สังประจักษ์ ให้เกิดแก่ตาแก่พญาเต่าเลื่อน โอมสะหมติด
“ผู้ใดให้แล้วให้อีก ผู้ใดมาแล้วมาอีก”
เคล็ดลับการใช้คาถา
อุปเท่ห์การใช้พระคาถานี้ ให้บริกรรมคาถาจนขึ้นใจ พยายามอยู่เหนือลม ลูกค้าติดใจหลงใหลมาอุดหนุนสินค้ากำไรดีนักแล ทีนี้หลวงพ่อคูณท่านก็เอาเต่าเลื่อนมาเขียนใส่ใบตองกล้วยแล้วก็ลงยันต์อักขระ7ตัว ควันยาสูบลอยไปถึงไหนคนได้กลิ่นมาให้หมด
#เมตตามหานิยมขึ้นโรงขึ้นศาลเต่าเลื่อนช่วยได้
เราก็ว่าพระคาถาเต่าเลื่อนนี้แหละ แต่ต้องเปลี่ยนคำลงท้ายจาก”โอมสะหมติด”เป็น”โอมสะหมเพิก”พอเราถึงบันไดก่อนที่จะขึ้นศาลหรือโรงพักให้กระทืบเท้าสามครั้งแล้วเอาส้นเท้าบดลงที่บันได ก่อนเดินขึ้นไป แล้วมันจะลืมหมด จากเรื่องร้ายๆจะกลายเป็นเรื่องที่ดี

#ประวัติโดยย่อหลวงปู่บุญทา
หลวงปู่บุญทา ถาวโร เป็นคนชาวบ้านหัวเรือ ต.หัวเรือ อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม บิดา มารดาพาหลวงปู่อพยพจากบ้านหัวเรือ มาตั้งบ้านใหม่ ชื่อบ้านเหล่าสวนปอ อาชีพในสมัยนั้น ทำไร่ทำนา บิดาได้พาหลวงปู่ได้บวชเณร อยู่กับหลวงปู่มูล วัดธรรมรังษี บ้านหัวเรือ อยู่หลายปีได้ศึกษาเล่าเรียน วิชาภาษาไทย บาลี จนอายุครบ 20 ปี จึงได้อุปสมบท ที่บ้านจานเหนือ

โดยมีหลวงปู่พระครูธรรมสังฆบาลเป็นอุปชาฌ์ หลวงปู่เป็นคนพูดจริทำจริงมีเมตตาเป็นพระหนุ่ม ได้คอยอุปฐากอุปชาฌ์ได้ร่ำเรียนวิชาอาคมต่างๆ จึงได้ขอเดินทางไปเล่าเรียน บาลีไวยกรณ์ที่วัดเทพสีดา จ.อุบลราชธานี เรียนจบในสมัยนั้นเกิดสงครามโลกหลวงปู่ต้องนั้งรถไฟกลับมา ไปแสวงหาวิชาอาคมเล่าเรียน มูลกะจาย อักษรขอม อักขระตัวธรรมอีสานเดินทางไปจำพรรษากับหลวงปู่คูณ ปริสุทโธ

สอนวิชาให้หลวงปู่คูณจำพรรษาร่วมกันอยู่ 2 ปีเต็ม ได้ไปเล่าเรียนบาลีไวยกรณ์วิชาอาคมจากหลวงปู่ซุน บ้านเสือโก๊ก กลับมาเล่าเรียนวิชาอาคมจากหลวงปู่นนท์ บ้านหนองแคน ไปฝึกกรรมฐานจากหลวงปู่ อ่วม โชติโก วัดสุวรรณาราม จึงร่ำลาไปจาริกธุดงธ์ไปเลื่อยๆจนถึง
ภูเขาควายประเทศลาว

หลวงปู่มีใจเด็ดเดี่ยว ตั้งมั่นต่อการปฏิบัติต่อการละกิเลส หลวงปู่ได้พบเจอกับภูตผี และเสือ ช้างป่า แต่ก็ไม่มาทำอันตราใดๆหลวงปู่ได้หลวงปู่แผ่เมตตาให้กับพวกเขา หลวงปู่จาริกขึ้นมาทางภาคเหนือของไทยจนถึงจ.แม่ฮ่องสอน ได้พบเจอว่านและสมุนไพรได้ช่วยรักษาผู้คนในแถบนั้น จึงเดินทางกับมาที่บ้านสวนปอ ต่อมาหลวงปู่นนท์ได้ในไปเป็นครูสอนวิชาบาลี ที่บ้านหนองแคนเป็นเวลาอีก 20 ปี

ครูบา อาจารย์ของหลวงปู่
มีดังนี้
1หลวงปู่พระครูธรรมสังฆบาล
2หลวงปู่นนทสิทธิรังสรรค์
3หลวงปู่ซุน บ้านเสือโก๊ก
4หลวงปู่วรพต
5หลวงปู่อ่วมโชติโก
6หลวงพ่อทองสุข
7หลวงปู่อินทร์
ฯลฯ
หลวงปู่บุญทา ถาวโรได้มรณภาพอย่างสงบที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ เมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๕

ที่มา​ จดหมายเหตุพระเกจิ

cr. Weera Sittinet

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: