2254.หลวงพ่อหวาน วัดดอกไม้ ผู้สำเร็จวิชา 9 เฮ ตอน ตวาดจนหอสวดมนต์สะเทือน

หลวงพ่อหวาน วัดดอกไม้ ตอน ตวาดจนหอสวดมนต์สะเทือน

“คุณธนากร ทรัพย์ล้อม” กรรมการวัดดอกไม้ ตำบลหันสัง อำเภอบางประหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เล่าให้ฟังว่า…

ตอนที่“หลวงพ่อหวาน”ยังมีสุขภาพแข็งแรง ท่านได้จำวัดอยู่ที่หอสวดมนต์ซึ่งมีพระพุทธรูปเนื้อทองสำริดเก่าแก่งดงามมากองค์หนึ่ง นามว่า “หลวงพ่อสำริด”ประดิษฐานอยู่ หลวงพ่อสำริดองค์นี้เป็นพระศักดิ์สิทธิ์ ท่านคือศูนย์รวมจิตใจของผู้คนในย่านนั้น

แล้วก็อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ต้น หลวงพ่อสำริดเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ที่มีความงดงามเป็นอย่างยิ่ง จึงทำให้ไปเข้าหูเข้าตาของพวกโจรใจบาปหยาบช้าเข้า พวกโจรพยายามหาลู่ทางจะมาขโมยหลวงพ่อสำริดที่หอสวดมนต์ พวกมันสืบทราบมาว่ามี “พระสูงวัย”นอนเฝ้าอยู่รูปหนึ่ง(หลวงพ่อหวาน) พวกมันคิดว่าเจองานหมูเข้าให้แล้ว แต่พวกมันคิดผิด!

วันหนึ่งเวลาประมาณตี ๓ กว่าๆ พวกโจรได้ใช้ชะแลงเหล็กงัดลูกกรงเข้าไปในหอสวดมนต์ พอพวกมันเข้าไปได้ มันก็แบ่งหน้าที่กันทำงาน สองคนเดินตรงไปยังหลวงพ่อสำริดเพื่อเตรียมการขโมย ส่วนอีกคนก็บุกเข้าไปในห้องที่หลวงพ่อหวานจำวัดอยู่ และโดยไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงอะไรให้มากความ

มันได้ใช้ “ชะแลงเหล็ก”อันที่งัดเข้ามา หวดเข้าที่ท้ายทอยของหลวงพ่อหวานเต็มแรง ๒ – ๓ ที จนท่านนอนแน่นิ่งไม่ไหวติง โจรใจบาปคิดว่าท่านคงมรณภาพแล้ว ก็เป็นอันว่าหมดอุปสรรคสำหรับการขโมยพระ จึงไปรวมตัวกันที่พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ตามแผนที่วางไว้

ขณะที่พวกโจรใจบาปหยาบช้ากำลังช่วยกันยกหลวงพ่อสำริดอยู่นั้น พวกมันก็เห็นหลวงพ่อหวานมายืนขวางอยู่ที่ประตู จากนั้นท่านก็“ตวาด”พวกโจรเสียงดังกึกก้องปานเสียงฟ้าผ่า และ “เสียงตวาดนั้นทำเอาหอสวดมนต์ถึงกับสั่นสะเทือนเลือนลั้น”…

พวกโจรพอเห็นหลวงพ่อหวานมายืนเด่นเป็นสง่าขวางทางอยู่ โดยไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ก็ถึงกับแข้งขาอ่อนเพราะกลัวท่านแทบช็อค!! (พวกมันนึกว่าหลวงพ่อมรณภาพแล้ว เพราะตีท่านสุดแรงเกิดกะเอาให้ตาย

แต่จู่ๆท่านกลับมายืนขวางทางหน้าตาเฉย จะไม่ให้พวกมันไม่ช็อคได้อย่างไร) เท่านั้นยังไม่พอ พอพวกโจรได้ยินเสียง“ตวาด”ของท่าน ก็ถึงกับขวัญหนีดีฝ่อ ตกใจกลัวสุดขีด พวกมันจึงลนลานทั้งวิ่งทั้งคลานสี่เท้าตาลีตาเหลือกหนีไปแบบไม่คิดชีวิต

และเสียง“ตวาด”นี้เอง ทำเอาเหล่าพระเณร และเด็กวัดพากันแตกตื่นตกใจ รีบวิ่งมาดูที่หอสวดมนต์ต้นเสียง แต่ก็ไม่พบพวกโจรใจบาปเสียแล้ว และที่ “หลวงพ่อหวาน”โดน “ชะแลงเหล็ก”ตีเข้าที่ท้ายทอยตั้ง๒-๓ครั้งแต่ไม่ยักจะเป็นอะไร รอยช้ำก็ไม่มีให้เห็น นั่นก็เพราะท่านสำเร็จวิชา“ชาตรี ๙ เฮ” บางคนเรียก“วิชาหินเบา”ซึ่งเรียนมาจากพระเดชพระคุณ “หลวงพ่อกลั่น แห่งวัดพระญาติ”

อนึ่ง พระอาจารย์ที่สามารถตวาดผู้คน จน“ขวัญเสีย” บางคนถึงกับ “เป็นบ้า”ได้นั้น ท่านต้องมีตบะมหาอำนาจแก่กล้า บารมีสูงส่ง ที่ผู้เขียนเคยได้ยินมาก็มีพระอาจารย์ทองเฒ่า และหลวงพ่อปาน จากสำนักวัดเขาอ้อ , พระอาจารย์เอียด วัดดอนศาลา , หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดงตะวันออก โดยพระอาจารย์ทั้ง ๔ ท่านอยู่ที่จังหวัดพัทลุง ฯลฯ ส่วนพระอาจารย์จากภาคอื่นที่เคยได้ยินมา ก็หลวงพ่อหวาน วัดดอกไม้ นี่แหละ…

Cr.

น้าเอก.

แอพเกจิ แอพรวมเรื่องราวประสบการณ์จริง เกี่ยวกับ พุทธคุณ ไสยศาสตร์ วิชาอาคม

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: