2208.หลวงพ่อหวาน วัดดอกไม้ ประลองวิชา หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง..

#สิงห์เหนือ ปะทะ  #เสือใต้
“…หลวงพ่อหวาน วัดดอกไม้
ประลองวิชา
หลวงพ่อหน่าย. วัดบ้านแจ้ง…”

นี่เป็นการลองวิชากันระหว่าง ๒ พระอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคหลังปีพ.ศ.๒๕๐๐ พระอาจารย์ที่ว่าก็คือ “หลวงพ่อหวาน วัดดอกไม้” กับ “หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง” โดยเรื่องนี้ “หลวงพ่อชด วัดดอกไม้”ผู้เป็นศิษย์ของพระอาจารย์ทั้ง ๒ กรุณาเล่าให้ผู้เขียนฟังกับหูความว่า…

เด็กสมัยก่อนที่ไว้ผมจุก พออายุได้ ๑๐ – ๑๒ ปี พ่อแม่จะจัดพิธีโกนจุกให้ หากบ้านไหนฐานะดีก็จัดงานใหญ่โตปลูกโรงพิธีเชิญแขกมาร่วมงานมากมาย มีการนิมนต์พระสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์ อาบน้ำมนต์ ให้ศีลให้พรแล้วค่อยตัดจุก จากนั้นในตอนกลางคืนก็จะจัดงานมหรสพสมโภช เรียกพิธีการนี้ว่า “โกนจุกโรง” ส่วนบ้านไหนฐานะไม่ดีจะพาลูกไปวัดแล้วให้พระผู้ใหญ่ตัดจุกให้

เมื่อปีพ.ศ.๒๕๑๗ มีเศรษฐีท่านหนึ่งอยู่ในอำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะทำพิธีตัดจุกให้กับลูกชาย แกเป็นลูกศิษย์ของ “หลวงพ่อหวาน วัดดอกไม้” และ “หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง” ๒ พระเกจิอาจารย์ผู้มีอาคมขลังแห่งยุค(พระอาจารย์ทั้ง ๒ ท่านเป็นเพื่อนกัน เก่งเรื่องเวทย์มนต์คาถาเหมือนกัน และได้รับคัดเลือกให้ไปเสกในพิธี ๒๕ พุทธศตวรรษเช่นเดียวกัน) แกจึงนิมนต์พระอาจารย์ทั้ง ๒ ท่านมาทำพิธี โดย “หลวงพ่อหวาน” จะมาสวดและอาบน้ำมนต์ให้ในตอนเช้า ส่วน “หลวงพ่อหน่าย”ก็จะมาตัดจุกให้ในตอนบ่าย

ถึงวันงานในตอนเช้า หลวงพ่อหวานก็ถามเศรษฐีผู้เป็นเจ้าภาพว่า “พระอาจารย์ท่านใด จะมาตัดจุกให้” เจ้าภาพว่า “หลวงพ่อหน่าย” พอหลวงพ่อหวานทราบเรื่อง ท่านก็ยิ้มให้กับเจ้าภาพอย่างเมตตาก่อนจะทำพิธีอาบน้ำมนต์ให้กับลูกชายเศรษฐี ตกตอนบ่ายหลวงพ่อหน่ายท่านได้ใช้มีดโกนตัดจุก ก็ปรากฏว่า “ผมของลูกชายเศรษฐีกลับแข็งเป็นเส้นลวดมีดตัดไม่เข้า ผมแข็งถึงขนาดใบมีดโกนหักคามือ” หลวงพ่อหน่ายจึงถามเจ้าภาพว่า “เมื่อเช้า ใครมาทำพิธีให้” เศรษฐีว่า “หลวงพ่อหวาน” พอท่านได้ยิน ท่านก็หัวเราะชอบใจแล้วพูดเบาๆกับเศรษฐีว่า “ท่านหวานทำฉันเข้าให้แล้ว”

เศรษฐีจะไปเอามีดโกนมาให้ใหม่ หลวงพ่อหน่ายว่าไม่ต้อง แล้วท่านก็ยกนิ้วชี้ขึ้นมาเป่าเข้าให้ ๑ พ่วง! จากนั้นท่านก็ใช้นิ้วตัดแทนมีด ผมของลูกชายเศรษฐีที่เคยแข็งเป็นเส้นลวด ก็ขาดได้หน้าตาเฉย ทั้งเศรษฐีทั้งแขกที่มาร่วมงานต่างตกตะลึงงงงัน…

พระเกจิอาจารย์ในยุคนั้นหากไม่เก่งจริง จะทำไม่ได้แก้ไม่เป็น และนี่เป็นเรื่องพิสูจน์ยืนยันว่า ทำไมพระอาจารย์ทั้ง ๒ ท่าน จึงได้ไปปลุกเสก ๑ ใน ๓ พิธีที่ใหญ่ที่สุดแห่งยุคกรุงรัตนโกสินทร์…
Cr: น้าเอก. เอกลักษณ์ เพริศพริ้ง

…..#หลวงพ่อหวาน วัดดอกไม้ เป็นสุดยอดพระเกจิ เมืองกรุงเก่า คนในพื้นที่ต่างให้ความรักและศรัทธากันมานาน ประสบการณ์วัตถุมงคลของท่าน “เหนียว แคล้วคลาด คงกระพัน” “เก่งเป็นหนึ่ง ไม่เป็นรองใคร” ยิ่งเรื่องประสบการณ์ เป็นที่ยอมรับของชาวบ้าน วัดดอกไม้ในสมัยนั้น..

หลวงพ่อหวาน วัดดอกไม้ โด่งดังมาคู่กับ หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง จนชาวบ้านขนานนามว่า “สิงห์เนือ เสือใต้”

#หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง ศิษย์ผู้สืบทอดวิชาอาคมมาจาก หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า และได้พบกับ “กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์” ศึกษาวิชากับท่านบ้าง แต่ส่วนมากจะได้วิชาจาก หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลากหลายแขนง

หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง ได้ฝึกฝนทบทวนสรรพวิชาอาคมต่างๆ อย่างเข้มขลัง “ถือว่าเป็นศิษย์รุ่นสุดท้ายของหลวงปู่ศุข อย่างแท้จริง”

หลังจากนั้นท่านได้ไปศึกษาวิชาสายเครื่องราง ของขลัง และวิทยาคมกับอาจารย์ย่ามแดง ซึ่งเป็นอีกท่านหนึ่ง ที่เป็นศิษย์เอก!! หลวงปู่ศุข หลังจากเรียนวิชาจากอาจารย์ย่ามแดง จึงกลับมาจำพรรษาที่วัดบ้านแจ้ง.

ที่มา​ จดหมายเหตุพระเกจิ

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: