2107.”ถ้าขาดพระมหากษัตริย์..” พระอริยบุคคลก็หายไปด้วย..!

คำยืนยันจากหลวงปู่มั่น…

“ศาสน์-กษัตริย์” เปรียบเสมือนเสาหลักค้ำจุนกันและกัน!! “ถ้าขาดพระมหากษัตริย์..”
พระอริยบุคคลก็หายไปด้วย..!

# เทศนาหลวงปู่มั่น ..

“ถ้าขาดพระมหากษัตริย์” …อริยบุคคลก็
ขาดไปด้วย..!


เรื่องของพระอริยบุคคลนี้ “พระอาจารย์มั่นปรารภไว้หลายสถานที่ หลายวาระต่าง ๆ กัน แล้วแต่เหตุ

# ท่านกล่าวว่า

ชาวพุทธมีหลายประเทศ แต่จะขอกล่าว
เฉพาะที่ใกล้เคียง คือ เขมร ลาว เวียดนาม
และพม่า นอกนี้ไม่กล่าว

# พระอาจารย์มั่นบอกว่า

“เราไม่ได้ว่าเขาเหล่านั้น … แต่ได้พิจารณาแล้ว ไม่มีก็ว่าไม่มี มีก็ว่ามี”

ท่านหมายถึงว่า พระอริยบุคคลในประเทศเหล่านี้มีที่ประเทศพม่าเพียงคนเดียว อยู่ในหมู่บ้านที่ท่านไปจำพรรษา เป็นผ้าขาว
(อุบาสกผู้ถือศีล) ซึ่งเล่ากันว่า บุตรสาว บุตรเขย และบุตรชายของผ้าขาวคนนั้นล่ะ ที่มาจัดเสนาสนะของบิดาเพื่อถวายพระอาจารย์มั่นและท่านเจ้าคุณบุญมั่นครั้งจำพรรษาที่ประเทศพม่า

# ท่านว่า

“ยกเว้นสยามประเทศแล้ว…นอกนั้นไม่มี!

สำหรับสยามประเทศตั้งแต่บัดนั้นมาจนถึงปัจจุบัน…มีติดต่อมาโดยไม่ขาดสาย ทั้งคฤหัสถ์ชายหญิงและบรรพชิต แต่มรรคขั้นต้นคฤหัสถ์มากกว่าทั้งปริมาณ และมีสิกขาน้อยกว่า”

# พระอาจารย์มั่นกล่าวต่อไปว่า..

“เราไม่ได้ว่าเขา! เราไม่ได้ดูหมิ่นเขา! เพราะประเทศเหล่านั้นขาดความพร้อมคือคุณสมบัติหลายอย่าง เช่น เรื่องอักขระที่ไม่เป็นพุทธภาษา (คือเป็น ‘ฐานกรณ์วิบัติ’) และองค์ประกอบอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือ ‘องค์พระมหากษัตริย์ของประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนา’ … นี้ก็สำคัญ ขาดไม่ได้ ถ้าขาดไป อริยบุคคลก็ขาดไปด้วย!!”

# ท่านยังกล่าวอีกว่า

“เมื่อพระพุทธเจ้าจะประกาศพระศาสนา ทรงหาหลักค้ำประกันอันมั่นคง คือมุ่งไปที่พระเจ้าพิมพิสาร … ความสำคัญอันนี้มีมาตลอด หากประเทศใดไม่มีองค์ประกอบนี้ซึ่งเป็นเอกอัครศาสนูปถัมภก…ก็ปฏิเสธได้เลย

เปรียบเหมือนกับก้อนเส้า (ก้อนหินที่นำมาตั้งเป็นเตาทำอาหาร) สามก้อน ก้อนที่หนึ่งคือความเป็นชาติ ก้อนที่สองมีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ ก้อนที่สามมีพระมหากษัตริย์เป็นเอกอัครศาสนูปถัมภก หากขาดไปก้อนใดก้อนหนึ่งก็จะขาดความสมบูรณ์ไป ไม่สามารถจะใช้นึ่งต้มแกงหุงหาอาหารได้”!!

# ที่มา : หนังสือ “รำลึกวันวาน”
( หนังสือรวบรวมเกร็ดประวัติ ปกิณกธรรม )
และพระธรรมเทศนาแห่งหลวงปู่มั่น
จากบันทึกความทรงจำของ
(หลวงตาทองคำ จารุวัณโณ)

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: