2047.ตำนานหนังเหนียวเมืองสุพรรณ หลวงพ่อปุย วัดเกาะ

ตำนานหนังเหนียวเมืองสุพรรณ หลวงพ่อปุย วัดเกาะ

“เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำท่าคอย ๑ใน๔สิงห์แห่งลุ่มน้ำท่าคอย”
จอมขมังเวทย์ผู้มีอายุยืนยาว ๕ แผ่นดิน
หลวงพ่อปุย วัดเกาะ จังหวัดสุพรรณบุรี ท่านเป็นพระคณาจารย์เมืองสุพรรณที่มีชื่อเสียงในอดีต ความเฉียบขาดและความดุของหลวงพ่อปุยโด่งดังมากจนพวกนักเลงใหญ่และบรรดาเสือร้าย(โจร)ทั้งหลายของเมืองสุพรรณเกรงกลัวบารมีของท่านมาก
ท่านเป็นพระคณาจารย์ผู้มีเวทย์วิทยาคมแก่กล้ามีพลังจิตสูง สามารถกำราบปราบภูตผีต่างๆได้(ไล่ผีได้) ทั้งยังมีความเชี่ยวชาญในเวทย์มนต์คาถาอาคมต่างๆ วิชาต่างๆ อักขระเลขยันต์ แพทย์แผนโบราณ วิปัสสนากรรมฐาน และยังเทศน์เก่งจนเป็นที่จับใจผู้ฟัง ท่านเคยได้รับการกล่าวยกย่องจากสมเด็จพระสังฆราช(ปุ่น ปุณณสิริ) วัดพระเชตุพลวิมลมังคลาราม เป็นการส่วนพระองค์ ทั้งยังเป็นที่โปรดปรานของพระองค์มากถึงขนาดเสด็จมาหาและฝากถามไถ่เรื่องราวต่างๆผ่านลูกศิษย์อยู่เสมอๆ

หลวงพ่อปุยท่านมีความขยันหมั่นเพียร เคร่งครัดในพระธรรมวินัย สวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็นไม่เคยขาด มีจิตใจเด็ดเดี่ยว พูดจริงทำจริง แต่แฝงไว้ด้วยความเมตตา ให้ความอนุเคราะห์แก่ผู้คนเสมอ ใครมานิมนต์เป็นไม่ขัดศรัทธา ไม่ว่าจะใกล้หรือไกลท่านไปเสมอ ท่านเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบที่ชาวบ้านต่างให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างมาก ดำรงตนเป็นที่พึ่งแก่ศิษยานุศิษย์ทั้งหลายตลอดอายุขัยของท่าน เป็นพระนักพัฒนาอีกท่านหนึ่งตลอดระยะเวลา๕๓ ปีที่ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเกาะ ซึ่งเป็นเวลากว่าครึ่งศตวรรษท่านได้พัฒนาวัดเกาะจากวัดที่มีสภาพทรุดโทรมให้เจริญรุ่งเรือง จวบจนปัจจุบันจัดว่าวัดเกาะเป็นวัดที่ใหญ่โตอีกวัดหนึ่งในเมืองสุพรรณ
หลวงพ่อปุยท่านเป็นผู้เคร่งขรึมและดุ มีวาจาสิทธิ์ประดุจพระร่วง มีความจำเป็นเลิศ ชอบส่งเสริมเรื่องการศึกษา ให้ความอุปการะแก่บุคลทั่วไป ท่านถึงพร้อมด้วยบุญบารมีและอิทธิบารมี วัตถุมงคลของท่านมีปาฏิหาริย์ศักดิ์สิทธิ์มีประสบการกล่าวขานกันมามากมายทางด้านมหาอุด คงกระพันชาตรีและแคล้วคลาดจนเป็นที่ยอมรับกัน

ทำไม? พระเครื่องของท่านเป็นที่หวงแหนกันมาก
สำหรับพระเครื่องของหลวงพ่อปุย วัดเกาะ หากในวงการพระเครื่องทั่วไปอาจไม่เป็นที่รู้จักกันมาก แต่หากวงการพระเครื่องเมืองขุนแผน ส่วนใหญ่แล้วรู้จักแน่นอน วัตถุมงคลท่านประสบการณ์ล้วนๆ โดยเฉพาะนักสะสมรุ่นเก่าๆย่อมรู้จักกันมากกว่ารุ่นใหม่ๆ พระเครื่องของท่านราคาค่านิยมไม่แพง แต่ทว่าประสบการณ์ดีทีเดียว สำหรับนักเลงแถวศรีประจันต์-ดอนเจดีย์รุ่นเก๋าและรุ่นใหม่หวงกันนัก หลวงพ่อท่านตั้งใจสร้างพระมากครับท่านเจนจบในวิชาอาคมมากจึงไม่แปลกที่วัตถุมงคลของท่านจะมีความศักดิ์สิทธิ์ ขนาดท่านเอาสายสิญจน์โยงปลุกเสกแป๊ปเดียวไม่กี่นาที แล้วแจกเลย ยังขลังเลย(รุ่นบล็อกแตก)
เมื่อท่านมรณภาพลงลูกศิษย์พบตำราเก่าๆของท่านที่ท่านเคยคัดลอกมาจากครูบาอาจารย์และสหธรรมมิกต่างๆมารวมกันนั้น แล้วลูกศิษยืที่พบลองเอายันต์นั้นมาลงแผ่นทองแดง ม้วนเป็นตะกรุด และไปลองยิงเล่นกันหลังโบส ปรากฏว่ายิงไม่ออกสักนัดครับ (ตะกรุดอาจารย์ชุบ รักขิโต ที่ชาวบ้านรู้จักกันดีนี่เอง)

ทำไม? พระเครื่องของท่านจึงไม่เป็นที่รู้จักนัก
ตอบได้คำเดียว คือ ขาดการเผยแพร่ครับ มีแต่คนที่รู้กันแล้วเงียบ เซียนพระในสุพรรณหลายคนรู้ดี แต่เงียบครับ ไม่ยอมเผยแพร่ กลัวพระแพงมั๊ง …..แต่เพชรย่อมเป็นเพชรวันยันค่ำ ไม่เห็นแสงเจิดจรัสกันวันนี้ วันหน้าสักวันหนึ่งต้องเห็นแน่นอนครับ

ประสบการณ์ของวัตถุมงคล บางส่วน

นายห่ง นักเลงรุ่นเก๋าและกว้างขวางของศรีประจันต์ ประวัติไม่ย่อยเลยทีเดียว แม้แต่สารวัตร ตำรวจทุกคนที่โรงพักสมัยนั้นเมื่อประมาณ 20-30 ปียังรู้จักดีเลยทีเดียว จากคำบอกเล่าของชาวบ้านว่า นายห่งเคยเดินขึ้นโรงพักแล้วตบตำรวจที่โรงพักคนหนึ่งหน้าคะมำไปกับโต๊ะทำงาน เพราะไม่พอใจเหตุที่ตำรวจจับกุมลูกชายตนเองในการกระทำผิด แต่ตำรวจกลับไม่เอาความ ไม่ทำอะไรกับนายห่ง เพราะรู้กิตติศัพท์ของนายห่งนี้ดี หากทำอะไรไปแล้ว อาจโดนนายห่งเอาคืนหนักกว่านี้
นายห่งนี้เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อปุย ในคอของนายห่งจะมีพระเครื่องของหลวงพ่อปุย วัดเกาะ คล้องอยู่ตลอดเวลา
นายห่งถูกยิงถึงสองครั้งสองครา แต่ไม่เป็นไร โดยในแต่ละครั้งที่โดนยิงก็มีพยานผู้รู้เห็นอยู่ในเหตุการณ์ประมาณ4-5 คนอยู่ตลอด และพยานนี้ปัจจุบันก็ยังมีชีวิตอยู่

– ครั้งแรก ถูกยิงด้วยปืนพกขนาด 11 มม. ระยะห่างประมาณ10 เมตรกว่าๆ ผลปรากฏว่าตามร่างกายของนายห่ง เป็นแค่รอยไหม้เป็นจุดๆ

– ครั้งที่สองถูกยิงด้วยปืน M16. กราดกระสุนเข้ามา เป็นแค่รอยช้ำ รอยไหม้เป็นจุดๆ หลายจุดด้วยกัน แล้วนายห่งยังใช้ปืนยิงสวนกลุ่มคู่อริที่มาลอบยิงนั้นตายไป1ศพ และบาดเจ็บอีกหลายคน (ฝีมือยอดมาก) ขณะที่นายห่งกำลังยิงต่อสู้กับกลุ่มของคู่อริอยู่นั้น ภรรยาของนายห่ง ซึ่งตอนนั้นยืนอยู่หน้าประตูบ้าน ได้คว้ารูปถ่ายขนาดบูชาของหลวงพ่อปุย รุ่นพัดยศปี๐๙ ที่แขวนอยู่บริเวณนั้น มาโอบกอดไว้กับตัว แล้วภรรยานายห่งนั้นก็โดนยิงด้วย เมื่อสิ้นเสียงปืนปรากฏว่าบานประตูบ้าน ซึ่งอยู่ด้านหลังภรรยาของนายห่ง มีรอยกระสุนปืนที่ยิงมามากมาย ราวกับว่าลูกกระสุนผ่านร่างกายภรรยาของนายห่งไป โดยที่ภรรยานายห่งไม่เป็นอะไรเลย

– อีกราย สามี-ภรรยาคู่หนึ่ง เดินทางระหว่างทางประสบอุบัติเหตุรถพลัดตกเหว สภาพรถพังยับแต่ สองสามี-ภรรยานั้น ไม่ตาย ปรากฏว่าในคอของ สองสามี-ภรรยาคล้องพระเครื่องของหลวงพ่อปุย วัดเกาะทั้งคู่

– และเมื่อช่วงสงกรานต์ปี๒๕๕๑ที่ผ่านมา วัยรุ่นชื่อเล่นว่า โม นามสกุล โพธิ์หอม บ้านละหาร ศรีประจันต์พร้อมพรรคพวกบ้านวังพลับรวมแล้ว4คน ไปเที่ยวร้านอาหารแล้วเกิดเรื่องวิวาท ทุกคนถูกฝันบาดเจ็บหมด คนหนึ่งแขนแทบขาด แต่นายโมถูกมีดดาบฟันเข้ากลางกะบาล แต่ไม่เข้า ไม่แตก คนฟันเห็นแล้วยอมเลย ปล่อยให้กลับบ้านไปโดยไม่ทำร้ายรต่อแล้ว

– ( เหรียญรุ่น ๒ ) ถูกไขควงเวคี้ยงใส่หน้าอกอย่างแรง ปรากฏว่าไม่เป็นไร เหรียญหลวงพ่อรับไขควงแทนหน้าอก

– พระผงรูปเหมือนรุ่นแรก นายทหารเหยียบกับระเบิด ปรากฏว่ากับระเบิดด้าน ไม่ทำงาน

– ( เหรียญรุ่น ๓ ) วัยรุ่นถูกฟันด้วยดาบไม่เข้า

– ( เหรียญรุ่นพิเศษ ) ถูกมีดเหน็บแทงไม่เข้า , ตำรวจถูกผู้ร้ายยิงในระยะประชิด เป็นเพียงรอยช้ำเป็นจุดๆ , ฟ้าผ่า ไม่ตาย

– ( เหรียญรุ่นวัดหนองเพียร ) ถูกตีหัวไม่แตก , รถแหกโค้ง คนที่คล้องเหรียญหลวงพ่อปุยไม่มีแม้แต่แผล ส่วนคนที่ไม่ได้คล้องพระอาการสาหัส , ลูกมะพร้าวหล่นใส่ศีรษะ ปรากฏว่าศรีษะไม่แตก ไม่เป็นอะไรเลย

– รถเก๋งชนกับรถสิบล้อ สภาพยับเยินซ่อมไม่ได้ แต่คนขับไม่ตาย ( เหรียญรุ่นพระราชทานเพลิงศพ )

– ช่วงสงกรานต์ปี ๕๑ วัยรุ่นชื่อเล่นว่า โม นามสกุล โพธิ์หอม บ้านละหาร ศรีประจันต์พร้อมพรรคพวกบ้านวังพลับรวมแล้ว4คน ไปเที่ยวร้านอาหารแล้วเกิดเรื่องวิวาท ทุกคนถูกฝันบาดเจ็บหมด คนหนึ่งแขนแทบขาด แต่นายโมถูกมีดดาบฟันเข้ากลางกะบาล แต่ไม่เข้า ไม่แตก คนฟันเห็นแล้วยอมเลย ปล่อยให้กลับบ้านไปโดยไม่ทำร้ายรต่อแล้ว

– ล่าสุด หน้าฝน ปี๕๒ นี้เองชาวบ้านถูกฟ้าผ่า แต่ไม่ตาย เพียงแค่สลบไป ด้วยเหรียญ ท้องกระทะ และ ช่อฟ้า วัดหนองเพียร

ที่มา “เล่า เรื่อง พระ”