1984.อภิชิโต ภิกขุ ศิษย์น้องหลวงปู่เทพโลกอุดร

ஐอภิชิโต ภิกขุ ศิษย์น้องหลวงปู่เทพโลกอุดรஐ
…………

**สำเร็จวิชาจากในดงแดนลี้ลับ**
…………
**ผู้สร้างความอัศจรรย์เสกใบไม้เป็นนก**
…………
❀❀❀❀❀❀❀❀
…………
✪พิสูจน์ฤทธิ์เสกใบไม้กลายเป็นนก✪
…………
เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๖ เคยมีข่าวดังครึกโครม เรื่องพระสงฆ์ผู้ทรงฤทธิ์ แสดงอำนาจพลังจิตเสกใบไม้กลายเป็นนก เรื่องราวดังกล่าวเป็นข่าวใหญ่พาดหัวหนังสือพิมพ์ในยุคนั้น ผู้ฅนตื่นตะลึงพากันติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างมาก ท่านที่ข้าพเจ้ากล่าวถึงนี้ คือ ท่านอภิชิโต ภิกขุ (ชาญณรงค์ ศิริสมบัติ) ท่านเป็นลูกของมหาเศรษฐีในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง บิดาท่านมีนามว่า พระยาศึกษา ศิริสมบัติ ต่อมาท่านอภิชิโต ภิกขุ บวชเป็นสามเณรเพื่อแก้บน แต่ภายหลังท่านได้พบพระอาจารย์ลึกลับนาม **หลวงตาดำ หรือหลวงพ่อดำ** ท่านผู้นี้ได้นำท่านเข้าไปศึกษาวิชาภายในสถานที่ลึกลับ ที่เรียนสืบกันมาว่า **ในดง** เมื่อสำเร็จวิชาแล้วท่านได้ฝึกตาย เรื่องราวของท่านคล้ายกับหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน ด้วยทั้งสองท่านต่างเป็นศิษย์ในสายเดียวกัน
…………
❀❀❀❀❀❀❀❀

ท่านอภิชิโต ภิกขุ เป็นพระสงฆ์ที่ทรงฤทธิ์มีพลังจิตสูงมาก สามารถแสดงอำนาจของพลังจิตไปจริง ศิษย์ของท่านเป็นผู้มีความสำคัญในวงสังคมมากมาย เรื่องการแสดงฤทธิ์ของท่านเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๖ เนื่องจากช่วยศิษย์ คือ พ.อ.(พิเศษ)ชม สุคันธรัต เพื่อให้พ้นคำครหาว่า **ฤทธิ์อำนาจจิตไม่มีจริง** เนื่องจาก พ.อ.ชม ได้ไปเป็นวิทยากรพูดเรื่องพลังจิต ทั้งแสดงอำนาจพลังจิตตามที่ได้ฝึกมาเช่น คงกระพัน, ดับพิษไฟล้วงน้ำมันเดือด, ฯลฯ แต่ช่วงที่เป็นวิทยากร มีผู้ถามเกี่ยวกับการเสกแปลงธาตุ เสกใบไม้ให้เป็นต่อแตน หรือให้เป็นสัตว์ต่าง ๆ ว่ามีจริงหรือไม่ ท่าน พ.อ.ชม กล่าวตอบว่ามีจริง ผู้ถามจึงให้ท่านเสกให้ดู แต่ด้วยพลังจิตท่านเวลานั้นไม่สูงพอ ไม่สามารถเสกแปลงธาตุได้จึงโดนเขาดูแคลน จึงได้มาขอให้อาจารย์อภิชิโต ภิกขุ ช่วยเสกแปลงธาตุเพื่อพิสูจน์เรื่องดังกล่าวว่ามีจริง อ้อนวอนอยู่นานท่านอภิชิโต ภิกขุ จึงยอมแสดงฤทธิ์ เป็นเหตุให้เกิดการพิสูจน์ฤทธิ์วิชาแปลงธาตุจนเป็นข่าวโด่งดัง
…………
❀❀❀❀❀❀❀❀
…………
เหตุการณ์ประวัติศาสตร์นี้ มีการบันทึกภาพไว้หลายช่วง ตั้งแต่เด็ดใบไม้เสกจนเป็นนกทีละช่วง แต่กาลเวลาทำให้ข้อมูลหลายส่วนสูญหายไป เหลือเพียงภาพที่เคยใช้พาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ เหลือเพียงภาพเดียวในปัจจุบัน ท่านอภิชิโต แสดงฤทธิ์เมื่อวันอังคารที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ. ๒๔๙๖ เวลา ๑๘.๐๐ น. โดยมีนักหนังสือพิมพ์ทำการบันทึกภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหว แต่เมื่อถึงเวลาถ่ายทำจริงแสงสว่างไม่พอ ทั้งกำลังไฟฟ้าในบริเวณนั้นไม่เพียงพอ ทำให้ไม่สามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้ ในการพิสูจน์คราวนี้มีบุคคลสำคัญในยุคนั้นหลายท่าน เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ด้วย

✪ผู้สังเกตการณ์ในคราวนี้✪
…………
๑..พระยาสารกิจพิลาศ พร้อมครอบครัว
…………
๒.. นางสาวไทย หรือ นางสาวสยามในสมัยนั้น
…………
๓.. อาจารย์บุญมี เมธางกูร ผู้เขียนหนังสือความมหัศจรรย์ทางจิต และประธานผู้ก่อตั้งมูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ
…………
๔.. นางแนบ มหารีรานน์ อาจารย์สอนกรรมฐาน และสอนพระอภิธรรม ท่านมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั่วไป
…………
๕.. พระพุทธทาสภิกขุ (พุทธทาส อินทปัญโญ) ผู้เขียนหนังสือธรรมะ อันโด่งดังเป็นที่รู้จักกันดี
…………
๖.. อาจารย์ชุม ไชยคีรี ฆราวาสจอมขมังเวทย์ ศิษย์สำนักเขาอ้อผู้มีชื่อเสียงทางเข้มขลัง

❀❀❀❀❀❀❀❀
…………
ในการพิสูจน์ฤทธิ์ครั้งนี้ความจริงยังมีผู้ร่วมสังเกตการณ์อีกมาก แต่มีการบันทึกไว้หรือพอสืบทราบได้เพียงเท่านี้ ช่างภาพผู้ถ่ายภาพทั้งเป็นผู้นำเรื่องราวลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ คือ คุณบรรจง มีแสงพราว ในการแสดงฤทธิ์คราวนี้ท่านอภิชิโต ภิกขุ เสกใบมะม่วงเป็นนกน้อยสีสันสดใส เป็นนกที่สีแปลกไม่เคยพบเห็นในธรรมชาติ ลำตัวมีสีสันคล้ายสีรุ้ง โดยท่านอภิชิโต ภิกขุกล่าวว่า
…………
**นกชนิดนี้ท่านจำสีสันลักษณะมาจากในดงลี้ลับ สถานที่ที่ท่านฝึกว่าจากหลวงตาดำ ในสถานที่นั้นมีนกเช่นนี้อยู่ทั่วไป ท่านจึงเสกทำด้วยความเคยชินมาตั้งแต่ครั้งสมัยฝึกวิชา**
…………
เมื่อเสกนกได้แล้วท่านยังได้ให้ศิษย์นำเชือกมาผูกจานกน้อยนั้นไว้ แล้วส่งปลายเชือกให้ท่าน พระพุทธทาสภิกขุ จับเชือกที่ผูกนกน้อยนี้ไว้ เหตุการณ์นี้สร้างความอัศจรรย์ให้แก่ผู้พบเห็นอย่างมาก ขนาดว่าพระพุทธทาสภิกขุ ยังออกปากยอมรับ ว่าเป็นเรื่องอัศจรรย์หาคำตอบไม่ได้ ในตอนสุดท้ายท่านอภิชิโต ภิกขุ ยังได้เสกงูขึ้นมาจากผ้า กลายเป็นงูเห่าขนาดใหญ่ ชูคอแผ่แม่เบี้ยอยู่เบื้องหน้าคณะผู้พิสูจน์ จนทุกท่านที่อยู่ในเหตุการณ์ต้องทึ่งไปตาม ๆ กัน
…………
❀❀❀❀❀❀❀❀
…………
✪เหตุการณ์นี้ถูกนำเยแพร่เป็นข่าว✪
…………
➸ ข่าวหนึ่งหนังสือพิมพ์เดลิเมล์ ฉบับวันจันทร์ที่ ๑๒ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๙๖ โดยมีรายละเอียดในการสัมภาษณ์ และภาพถ่ายหลายภาพ ทั้งภาพขณะนั่งเสกใบไม้ จนกลายเป็นนก มีภาพที่จับนกอยู่ในมือด้วย แต่ภาพได้สูญหายไปตามกาลเวลา ส่วนภาพที่เคยได้เห็นในหอสมุดแห่งชาติ ปัจจุบันมีมือดีฉีกออกหายไปจนหมดสิ้น
…………
➸ นำเผยแพร่อีกครั้งในหนังสือพิมพ์บางกอกไทม์ ฉบับวันจันทร์ที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๐๖
…………
➸ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันอาทิตย์ที่ ๒๘ , วันจันทร์ที่ ๒๙, วันอังคารที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๙ เป็นการนำเรื่องราวของท่านมาลงติดต่อกันถึง ๓ ฉบับ ผู้ฅนให้ความสนใจเป็นอันมาก พากันสืบหาท่าน อภิชิโต ภิกขุ แต่ในเวลานั้นท่านมรณภาพไปแล้วราว ๓ ปี
…………
❀❀❀❀❀❀❀❀

ภายหลังเหตุการณ์พิสูจน์ฤทธิ์ แสดงการแปลงธาตุเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๖ นำมาซึ่งความเดือดร้อนวุ่นวาย ด้วยผู้ฅนจากทั่วทุกสารทิศต่างเดินทางมาพบท่าน อภิชิโต ภิกขุ ซึ่งขณะนั้นจำพรรษาอยู่ที่ วัดลาดบัวขาว ถนนเจริญกรุง ที่ผู้ฅนมาพบท่านก็เพื่อขอให้ท่านเสกแปลงธาตุ ผู้ฅนมามากมายแน่นขนัดลานวัดเต็มไปด้วยผู้ฅนและร้านค้า ผู้ฅนมาเพื่อให้ท่านเสกแปลงธาตุจนภายหลังท่านหลบลี้ผู้ฅน ออกเดินธุดงค์เดี่ยวเข้าสู่ป่าเขาหายไปนานแรมปี ภายหลังได้ย้ายไปจำพรรษา ณ วัดเงินคลองบางพรม ธนบุรี แล้วเก็บตัวเงียบ ปิดตัวจากสังคมมาพบใคร
…………

ภายหลังศิษย์ได้สร้างสถานที่ถวายท่าน แต่นั้นมาท่านได้ย้ายไปจำพรรษาในสถานที่ส่วนบุคคล ไม่พบผู้ฅนทั่วไปส่งเดชอีกด้วยเบื่อหน่าย เรื่องราวของท่านจึงเป็นความลับมาตลอด จนพึ่งมีการเปิดเผยเป็นครั้งแรกอย่างละเอียดให้สังคมได้รู้จักท่าน ว่าครั้งหนึ่งท่านผู้นี้เคยแสดงความอัศจรรย์ พิสูจน์อำนาจพลังจิตว่ามีอยู่จริงให้มายากล หรือเป็นเพียงเรื่องนิทานเล่าสู่กันฟังเอาเพลินเท่านั้น จึงขอนำเรื่องราวของท่านมาเผยแพร่ให้ทุกท่านได้ทราบดังนี้

ขอบคุณที่มา ฅนขลัง คลังวิชา
แอพเกจิ แอพรวมเรื่องราวประสบการณ์จริง เกี่ยวกับ พุทธคุณ ไสยศาสตร์ วิชาอาคม

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: