1983.ศิษย์นอกดงผู้มีพลังจิตอัศจรรย์

ஐ ปกิณกะ และเรื่องเล่า ஐ
…อาจารย์ฉลอง เมืองแก้ว…
ศิษย์นอกดงผู้มีพลังจิตอัศจรรย์
❀❀❀❀❀❀❀❀
…………
ในอดีตเรื่องงราวของศิษย์ในดง และศิษย์นอกดงเคยโด่งดังมาก เป็นที่รู้จักแพร่หลายในหมู่ผู้ชอบทางเข้มขลัง เรื่องราวของท่านอาจารย์ฉลอง เมืองแก้ว ผู้เสกข้าวสารเป็นกุ้งฝอยต่อหน้านักข่าวหนังสือพิมพ์ เรื่องราวของท่านโด่งดังมากช่วงก่อนปี พ.ศ. ๒๕๐๐ เมื่อแรกอาจารย์ฉลองบวชเป็นพระภิกษุ ชอบธุดงค์แสวงวิเวกไปในที่เร้นลับห่างไกล ท่านเดินเท้าเข้าสู่ผืนป่าดงพญาเย็นเขาใหญ่ ได้พบพระเถราจารย์เชี่ยวชาญอาถรรพ์เวทย์ และวิปัสสนากรรมฐานอย่างเอกอุนามว่า หลวงปู่สุข แจ้งฉาน ได้ฝากตัวเพื่อเรียนรู้วิชาได้มามากพอสมควร ภายหลังท่านอาจารย์ฉลองลาสิกขาบทแต่ยังดำรงตนอยู่ในเบญจศีล ท่านอาจารย์ฉลองเป็นผู้ทรงคุณทางจิตมีพลังจิตเป็นอัศจรรย์ สามารถแสดงฤทธิ์ได้หลากหลายประการ
…………
❀❀❀❀❀❀❀❀
…………

ในอดีตผู้ฅนหลากหลายวิชาชีพทั้งบุคคลสำคัญ ให้ความเคารพมาฝากตัวเป็นศิษย์ท่านอาจารย์ฉลอง การที่ผู้ฅนต่างเคารพนับถือท่านด้วยเห็นประจักษ์แต่สายตาว่า อาจารย์ฉลองแสดงฤทธิ์อัศจรรย์ได้จริง บุคคลสำคัญหลายท่านเห็นความอัศจรรย์ของท่านอาจารย์ฉลอง เช่น เสกข้าวสารให้เป็นตัวกุ้งฝอย เสกวิชาบังฟัน ให้สิ่งของขาดเป็นท่อน นำกระดาษลงยันต์รูปตัวแมลงภู่แล้วปลุกเสกจนกลายเป็นแมลงภู่บินปร๋อได้อย่างอัศจรรย์

**********
ตัวอย่างผู้ที่เคยได้พบเห็นการแสดงพลังอำนาจจิตอาจารย์ฉลอง คือ ท่านอดีตอธิบดีกรมอัยการ คุณหลวงอรรถปรีชาชนูปการ ท่านยืนยันว่าการเสกแปลงธาตุเป็นตัวแมลงภู่นี้มีจริง โดยท่านเคยเล่าให้ท่าน พ.ต.อ. ชลอ อุทกภาชน์ ฟังว่าคราวหนึ่งท่าน อาจารย์ฉลอง เมืองแก้ว เคยแสดงวิชาแปลงธาตุเสกกระดาษลงยันต์ให้เป็นตัวแมลงภู่ ให้ท่านเห็นได้จริงที่บ้านพักส่วนตัวของคุณหลวง อันมีเรื่องราวที่หยิบยกมาเล่าดังต่อไปนี้

**********
**เมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๔๙๖ กลางปี มีท่านผู้มีเกียรติ์ผู้หนึ่งป่วย แต่แพทย์แผนปัจจุบันตรวจแล้วไม่พบอาการป่วยของท่านผู้นี้ ปรากฏว่าที่แขนข้างซ้ายบวม และภายใต้ผิวหนังมีวัตถุเคลื่อนที่วิ่งขึ้นลง ระหว่างข้อมือกับต้นแขนได้ เวลาวัตถุนั้นเริ่มขยับตัวจึงขึ้นมาบนต้นแขน ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บปวดบริเวณแขนมาก นายแพทย์แผนปัจจุบันได้นำตัวฅนไข้ไปตรวจสอบทางเอ๊กซเรย์ แล้วไม่ปรากฏว่าพบอาการป่วยอย่างใดและวิจัยโรคไม่ได้

**********

ฅนป่วยคงถูกทรมานด้วยโรคอยู่ ๒ วัน บังเอิญศิษย์อาจารย์ข้าพเจ้าไปเยี่ยมอาการป่วยของฅนไข้ เห็นว่าอาการป่วยน่าจะเกิดจากผลของการกระทำทางไสยศาสตร์มากกว่าการเจ็บป่วยธรรมดา และแนะนำให้มาหาอาจารย์ข้าพเจ้าทันที บังเอิญข้าพเจ้ากำลังสนทนาอยู่กับอาจารย์ด้วย (อาจารย์ของ พ.ต.อ. ชะลอ อุทกภาชน์ คือ โยคีฮาเร็บ หรือ อาจารย์ชื่น จันทรเพชร)

**********
อาจารย์ข้าพเจ้าได้นั่งเข้าฌานตรวจอาการป่วยของท่านผู้นั้นแล้วท่านก็บอกทันทีว่า อาการป่วยที่เกิดขึ้นมิใช่อาการป่วยธรรมดา แต่ผู้หญิงผู้หนึ่งไปจ้างพวกหมอไสยศาสตร์ ปล่อยคุณแมลงภู่ใส่ตัวท่านผู้มีเกียรติ์นั้น เนื่องจากความเจ็บใจเรื่องชู้สาว หากปล่อยไว้ภายใน ๒๔ ชั่วโมง คุณแมลงภู่จะวิ่งเข้าหัวใจและฅนป่วยจะตายทันที และอาจารย์ข้าพเจ้าได้หันมาบอกข้าพเจ้าว่าวิชาลึกลับเรื่องนี้ เป็นวิชาของเขมรซึ่งถ่ายทอดไปจากวิชานัพนาฟี ซึ่งพวกอิสลามได้ถ่ายทอดไปจากวิชาดั้งเดิมของโยคี และต่อมาสักครู่อาจารย์ของข้าพเจ้าได้กระทำพิธีทางไสยศาสตร์ โดยทำน้ำมนต์ให้ผู้ป่วยรับประทานและนั่งอ่านมนต์ สักครู่หนึ่ง

**********
ข้าพเจ้าสังเกตเห็นว่าฅนไข้ตัวสั่นและแขนข้างซ้ายเริ่มสั่น และปรากฏว่ามีวัตถุในแขนของผู้ป่วยวิ่งขึ้นวิ่งลงสักครู่หนึ่ง และวิ่งดันเนื้อแขนนูนเริ่มต่ำลงมาทางข้อมือ และผลที่สุดมาพองอยู่ที่นิ้วชี้ อาจารย์ข้าพเจ้าได้หยิบขันอลูมิเนียมขนาดเล็กคอยจ้องครอบวัตถุสิ่งนั้น สักครู่หนึ่งวัตถุในนิ้วชี้ของผู้ป่วยค่อย ๆ เลื่อนออกจากปลายนิ้ว ปรากฏเป็นตัวแมลงภู่สีดำขนาดใหญ่กว่าแมลงภู่ธรรมดาสัก ๒ เท่า แต่ขณะออกมาในลักษณะนอนหงาย และพยายามดิ้นจะกลับเพื่อบินขึ้นสู่อากาศ พอผู้ที่อยู่ในที่นั้นได้เห็นตัวแมลงภู่พร้อมกันแล้ว อาจารย์ของข้าพเจ้าได้เอาขันครอบตัวแมลงภู่นั้นทันที

**********
ในขณะนั้นข้าพเจ้าได้ยินเสียงขลุกขลัก ๆ คล้ายตัวอะไรดิ้นสัก ๒ นาที แล้วเสียงก็เงียบหายไป อาจารย์ข้าพเจ้าก็เปิดขันครอบขึ้น ปรากฏว่าตัวแมลงภู่กลายเป็นเศษกระดาษว่าวแผ่นเล็ก ๆ กว้างประมาณ ๔ เซนติเมตร และมีรูปยันต์ตัวแมลงภู่เขียนอยู่ตรงกลางกระดาษนั้น อาจารย์ข้าพเจ้าได้นำแผ่นยันต์ไปเผาไฟและหันมาถามข้าพเจ้าว่า **เคยเห็นมาก่อนหรือไม่**

**********
ข้าพเจ้าตอบว่า **เกิดมาในชีวิตเพิ่งเห็นครั้งนี้เป็นครั้งแรก** และนอกจากข้าพเจ้าได้เห็นเหตุการณ์จากบ้านอาจารย์ของข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าได้มีโอกาสสนทนากับท่านอธิบดีกรมอัยการปัจจุบัน คือ คุณหลวงอรรถปรีชาชนูปการ ท่านก็เล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง เพราะท่านเคยเห็นอาจารย์ฉลองมาทำให้ท่านดูที่บ้านพักของท่าน**
…………
❀❀❀❀❀❀❀❀
…………

จากการที่ท่านอาจารย์ฉลองเป็นที่รู้จักของผู้ฅนทั่วไปในสังคมนี้เอง หลายคราวมีผู้ขอให้ท่านอาจารย์ฉลองช่วยเหลือในกิจต่าง ๆ รวมถึงเพื่อบำรุงพระศาสนาในหลายด้าน ท่านอาจารย์ฉลองมักเมตตาช่วยเหลือด้วยเต็มใจทุกคราวไป เช่น คราวสร้างพระรอดวัดพระสิงห์ เพื่อหาทุนในการสร้างพุทธสถานเชียงใหม่เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๖ เรื่องราวการสร้างตอนหนึ่งกล่าวถึงท่านอาจารย์ฉลอง เมืองแก้ว ดังนี้

**********
**ดินทั้งหมดที่ได้มานี้ ข้าพเจ้าได้ให้อาจารย์ผู้ทรงคุณละลายดินด้วยน้ำพระพุทธมนต์พุทธาภิเษก น้ำมนต์พระคาถาแสน น้ำมนต์ ร้อยที่และกลั่นกรองด้วยผ้าขาวสะอาดเอาแต่ผงละเอียดอ่อน ซึ่งมีลักษณะเหมือนแป้งแล้วผสมด้วยผงพระธาตุ, ผงพระเปิม, ผงพระเลี่ยง, ผงพระคง, ผงพระรอด, ผงพระสมเด็จพุฒาจารย์ประกอบด้วยผงตรีนิสิงเห ผงปัทมัง ผงพุทธคุณ และผงอิทธิเจของคณาจารย์รุ่นเก่า เช่น หลวงพ่อวัดมะขามเฒ่า, หลวงพ่อทองคำวัดหนามแตง และสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ผสมเคล้ากันจนเข้าเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว จึงปั้นเป็นก้อนกลมขนาดผลส้ม ส่งดินนี้ไปให้อาจารย์ฉลอง เมืองแก้ว ซึ่งท่านทั้งหลายจะทราบกิติศัพท์ว่าอาจารย์ผู้ที่เสกตะกรุดทองลอยน้ำ เสกข้าวสารเป็นกุ้ง เป็นผู้ทำพิธีใส่ธาตุสี่ที่กรุงเทพฯ เสร็จพิธีใส่ธาตุแล้ว นำไปจัดพิมพ์ที่จังหวัดลำพูนด้วยแม่พิมพ์ ๑๑ อันได้พระรอด ๑๑ สีพอดี…**
**********

เห็นได้ว่าท่านอาจารย์ฉลองเป็นที่รู้จักในวงสังคม ทั้งผู้ฅนให้ความเคารพท่านอย่างกว้างขวางในสมัยนั้น จากข้อมูลที่พอสืบค้นมาได้ไม่มากนัก ด้วยภายหลังท่านอาจารย์ฉลองปลีกตัวหลีกเร้นจากสังคม ภายหลังเรื่องราวของท่านจึงขาดหายไป เกรงว่าผู้ฅนยุคหลังอาจลืมเลือนท่านผู้นี้ ข้าพเจ้าจึงนำเรื่องราวของท่านอาจารย์ฉลอง ตลอดจนพระอาจารย์ในสายวิชาเดียวกับท่านมาเสนอ เพื่อให้ท่านทั้งหลายได้รู้ว่าสายวิชาที่เป็นของจริง คือ มีฤทธิ์จริง สามารถแสดงผลแห่งพลังจิตได้จริง เรียกว่าศิษย์สายในดง และศิษย์นอกดงนี้เคยมีอยู่จริง ดังเรื่องราวที่ได้นำเสนอไปแล้วดังนี้

Cr.แว่นส่องจักรวาล โดย พ.ต.อ.ชลอ อุทกภาชน์
ขอบคุณที่มา ฅนขลัง คลังวิชา
แอพเกจิ แอพรวมเรื่องราวประสบการณ์จริง เกี่ยวกับ พุทธคุณ ไสยศาสตร์ วิชาอาคม

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: