1968.ประวัติปาฏิหาริย์มหัศจรรย์ในการสร้างถนนขึ้นบนพระธาตุดอยสุเทพ ฯ

ประวัติปาฏิหาริย์มหัศจรรย์ในการสร้างถนนขึ้นบนพระธาตุดอยสุเทพ ฯ
ความจริงจากประสพการณ์จริงและได้ยินได้ฟังมาจากคนยุคนั้นได้ร่วมสร้างมา และได้ประสบพบเห็นด้วยตนเองจากการปฏิบัติธรรม และสัมผัสกับสิ่งลึกลับตลอดเส้นทางขึ้นบนดอยสุเทพ ตอนนั้น ได้รับรู้สัมผัสกับภพภูมิต่างๆ สถานในที่นั้น ไห้รู้ว่าพวกเขาเหล่านั้นอยากให้บอกไปถึงมนุษย์ในยุคหลังให้ได้ทราบถึงเรื่องราวต่างๆ ถึงความ ศรัทรา ความลำบาก ของพวกเขาในการสร้างถนนมาว่า ขออย่าทิ้งขว้าง เศษ ปาสิ่งสกปรก ไม่สมควรตลอดเส้นทางขึ้นไปข้างบน เพราะทางขึ้นข้างบนนั้น เป็นถนนแห่งศรัทธา ที่ชาวบ้านชาวเมืองได้เสียสละทั้งแรงกายแรงใจ บางคนเจ็บป่วยไข้ ก็ไม่ยอมกลับบ้าน ยอมสละแม้กระทั้งชีวิตอุทิศเพื่อการสร้างถนน ก็มีมากหลาย

ในการสร้างถนน ขึ้นไปครูบาเจ้าจะเป็นผู้ให้กำหนดเขตแนวทางเอาไว้ ให้คนแต่ละหมู่บ้าน แบ่งกันทำ เป็นช่วงๆ ของในส่วนที่คนใช้จอบเสียมทำได้ ส่วนที่เป็นหินผาสูงใหญ่แข็งแกร่ง ท่านก็ให้เว้นไว้ พระเณรชาวบ้าน ก็ช่วยกันถากถางสร้างถนนกันทั้งวันมาแล้ว ต่างเหน็ดเหนื่อย พอตกกลางคืนสงัด บางคนก็หลับสนิดเพราะตรากตร่ำทำงานทั้งวัน

เมื่อผู้คนมาอยู่จำนวนมากเช่นนี้ มีบางคนปวดเบาปวดฉี่ ลุกมาทำธุระส่วนตัว แล้วก็ได้มาพบเจอในสิ่งที่พวกเขาไม่เคยพบเคยเห็นที่ไหนมาก่อนในชีวิต ต่างพากันตกใจ เมื่อเห็นคนกลุ่มหนึ่งทำงานตอนกลางคืน คนกลุ่มนี้ไม่ทราบว่ามาจากที่ไหน ทำงานโดยไม่พูดจากับใคร ก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างเดียว คนเหล่าเหล่านี้ มีร่างกายกำยำใช้ค้อนทุบหินผาที่แข็งแกร่ง บางก้อนโตเท่ากับรถปิ๊กอับกระเด็นออกมาซ้อนเรียงกัน เป็นระเบียบลงมาด้านล่าง โดยที่แม้กระทั้งเศษหินก็ไม่กระเด็นลงมาถูก ชาวบ้านที่อยู่ข้างล่างเลย คนที่เห็นเข้า ก็ไปปลุกคนที่หลับอยู่ขึ้นมาดูกันว่า เป็นคนหรืออะไรกันแน่

ทำไมมีแรงมหาศาล แปลกประหลาด พอตกสว่างที่เป็นหินผาอยู่นั้นราบเรียบ เรื่องนี้เป็นที่โจทย์เล่าขานกันมาก ในหมู่คนที่มาสร้างถนน บางคนบางหมู่กลับไปบอกให้ญาติพี่น้องมาดูมาช่วยสร้างให้เห็นกับตา ยิ่งนับวันคนยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น จากเรือนพันเป็นหมื่นเป็นแสน เพราะเหตุนี้เอง จึงทำให้ถนนนี้เสร็จได้ไว ในระยะเวลาได้ ๕ เดือนกับ ๒๒ วันเท่านั้น รวม ๑๑ กิโลเมตร ในสมัยนั้นยังไม่มีเทคโนโลยี่อย่างปัจจุบัน จะเห็นแรงศรัทธาผู้คนในยุคนั้นมีมากจริงๆ มีคนไปถามครูบาเจ้าศีลธรรมว่า มีใครมาช่วยสร้างถนนบ้าง เพราะตอนดึกๆ

มีคนกลุ่มหนึ่ง ไม่รู้มาจากไหน ทำงานสำเร็จไวเกินกำลังที่ ผู้คนธรรมดาที่พึงจะทำได้ ก็ได้คำตอบว่า ผู้คนยังมาจากทุกที่ทุกแห่ง เพื่อหวังสร้างบุญกุศล แล้วพวกเทพเทวดา ยักษ์ กุมภัณฑ์ ลับแล บังบด นาค ท่านเหล่านี้ก็อยากได้บุญกุศลเหมือนชาวมนุษย์เช่นกัน เรื่องนี้เป็นที่อัศจรรย์มาก สิ่งศักดิ์เหล่านี้แหละ ท่านมาช่วยสร้าง ให้เสร็จเร็ว ลำพังกำลังมนุษย์จะทำเสร็จในระยะเวลานี้ได้หรือ ถ้าปราศจากสิ่งเหล่านี้มาช่วย นี่คือสิ่งที่พวกเทพเหล่านั้น ได้บอกผ่านเรา ให้ชาวมนุษย์รับรู้

เวลามนุษย์ขึ้นไปทำบุญบนพระธาตุ อย่าอธิษฐานเอาแต่บุญให้เองอย่างเดียว ควรรู้จักเผื่อแผ่แบ่งปันบุญไปให้กับท่านเหล่านั้นด้วย นี่คือเจตจำนงของผู้เล่า เพราะไปรับรู้ สัมผัสกับสิ่งเหล่านี้มาด้วยตนเอง จึงบอกบุญผ่านมาให้รับทราบกัน

บันทึกนี้ ขอยกความดีทั้งหลายบูชา แด่ ครูบาศรีวิชัย ไว้ด้วยความเคารพอย่างสูงสุด และเคารพน้ำใจเทพ เทวา และมนุษย์ทั้งหลายที่ได้ร่วมสร้างถนนในครั้งนั้น
ป.ล. จากผู้บันทึก พระภิกษุยุทธพงศ์ กิตติวณฺโณ ได้มอบหมายให้มหาจันทร์ กิตติธโร ได้นำไปเผยแผ่ ผู้บันทึกรู้สึกโล่งใจ ที่บันทึกนี้ ได้ถูกเผยแพร่ออกไป

ตอนหลังมีคนไปถามครูบาเจ้าศีลธรรมว่า ใครมาช่วยสร้าง ทุบหินผาที่แข็ง เกินกำลังมนุษย์ที่จะทำได้เช่นนั้น ครูบาศรีวิชัยก็ยิ้ม ท่านถามตอบย้อนว่า ขนาดผู้คนมีศรัทธามาจากที่ต่างๆ แล้วพวกเทพเทวา ทุกหมู่เหล่าเขาก็อยากได้บุญเหมือนชาวมนุษย์เหมือนกัน งานนี้เป็นงานเพื่อพระศาสนา จึงทำให้เป็นที่เข้าใจกันในผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้น ฯ

นี่คือจุดมุ่งหมายของเราผู้เล่ามีทั้ง เทพ เทวา ยักษ์ กุมภัณฑ์ ลับแล ท่านผู้อ่านจะสังเกตเห็นว่าทางขั้นดอยสุเทพ ไม่มีดินถล่ม สะไล้เลย ตลอดเส้นทาง นี้ก็ปาฏิหาริย์ อีกส่วนหนึ่ง เรื่องนี้ ผู้เล่าได้จดบันทึกไว้นานแล้ว แต่ผู้เล่า ทำไม่เป็นที่จะนำไปเผยแพร่ได้ในสื่อปัจจุบัน จึงมอบหมายให้มหาจันทร์ (ทรงพล) นำไปพิมพ์ลงเผยแพร่

Cr. พระภิกษุยุทธพงษ์ กิตติวณฺโณ ผู้เล่า
แอพเกจิ แอพรวมเรื่องราวประสบการณ์จริง เกี่ยวกับ พุทธคุณ ไสยศาสตร์ วิชาอาคม

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: