1946.สองอาจารย์ใหญ่ แห่ง ” ท้องทุ่งบางบาล ” ลองวิชา

สองอาจารย์ใหญ่ แห่ง ” ท้องทุ่งบางบาล ” ลองวิชา

หลวงพ่อสุ่น ท่านเคยลงกระหม่อม รัชกาลที่ 6 และเสกปืนถวาย ร.6 และอีกคนที่ได้รับการลงกระหม่อมจากหลวงพ่อสุ่นที่ หลายคนในวงการพระ หรือวงการไสยศาสตร์รู้จัก คือ

จอมขมังเวทย์สายมอญรามัญ “ปู่วร ก้อนใบ”

ปู่วรท่าน ก็ได้รับการลงกระหม่อมจากหลวงพ่อสุ่น เช่นกัน ท่านมีอายุยืนเป็น 100 ปี ท่านไม่กินเหล้าตลอดชีวิต ด้วยที่ว่า ท่านลงกระหม่อมไว้กับหลวงพ่อสุ่น นอกจากนี้ก็มี ปู่มา หาศักดิ์ศรี อาจารย์ของหลวงพ่อโบ วัดโคกหิรัญ

นอกจากนี้หลวงพ่อสุ่น ยังเป็นพ่อบุญธรรม ของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

ทั้งหลวงพ่อสุ่น และ หลวงพ่อปั้น ในแถบทุ่งบางบาล สมัยนั้นไม่มีใครดังเกิน 2 รูปนี้ แม้แต่หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก หลวงพ่อห่วง วัดบางยี่โท หลวงพ่อสังข์ วัดน้ำเต้า ยังต้องมาขอเป็นศิษย์

หลวงพ่อสุ่น กับ หลวงพ่อปั้น ท่านมีความสนิทสนมกันมาก ด้วยว่าวัดอยู่ใกล้กัน ไปมาหาสู่กันตลอด แต่เจอกันคราใดเป็นต้องขอลองวิชากันเป็นประจำ

ในสมัยก่อนผู้มีวิชาเวลาพบกันจะมีการลองวิชากันเปรียบเสมือนการทักทาย อย่างหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ กับ หลวงพ่อนวม วัดกลาง เวลาหลวงพ่อนวมจะมาหาหลวงพ่อกลั่น หลวงพ่อกลั่นจะรู้ด้วยจิต ท่านก็จะลงวิชานะจังงังไว้ หลวงพ่อนวมจะเข้าวัดได้ต้องแก้คาถาให้ได้ จึงจะเข้าวัดได้

หรือ แม้แต่หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว กับ หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย หลวงพ่อขอม เสกตะปูใส่ หลวงพ่อมี ก็แก้ได้ แต่จะไม่ทำขนาดเอาชีวิต เพียงแค่เย้าแหย่ ตามประสาผู้มีวิชา

ท่านพระมหาประเสริฐ ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ ได้เล่าให้ฟัง ถึงเรื่องราวของหลวงพ่อสุ่น ว่าหลวงพ่อสุ่นนั้นเป็นสหธรรมิก กับหลวงพ่อปั้น วัดพิกุลโสคัณธ์ ครั้งหนึ่งเมื่อหลวงพ่อปั้น

แจวเรือผ่านหน้าวัดบางปลาหมอ เทศน์ที่อำเภอผักไห่ ช่วงที่เรือแจวของท่านกำลังพายผ่านวัดบางปลาหมอ ทันใดนั้นเรือแจวของหลวงพ่อปั้นได้หยุดลงกระทันหัน จะออกแรงพายสักเท่าไรเรือก็ไม่สามารถขยับเคลื่อนไหวได้

ลูกศิษย์ของหลวงพ่อปั้นเห็นว่าน่าจะมีอะไรที่ผิดปกติ เพราะที่วัดบางปลาหมอแห่งนี้เป็นวัดของพระเกจิอาจารย์ท่านหนึ่งคือหลวงพ่อสุ่น ผู้ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นพระวิปัสสนากรรมฐานผู้ทรงอภิญญาและมีวิชาอาคมไสยเวทย์เปี่ยมล้น

ครั้นพอหลวงพ่อปั้นท่านออกมาดูเหตุการณ์และมองไปบนฝั่งก็พบว่า หลวงพ่อสุ่นท่านกำลังนั่งตำหมากอยู่

หลวงพ่อสุ่น ท่านก็ทักทายหลวงพ่อปั้น ว่า “เอ้า…ท่านจะไปไหนล่ะ”

หลวงพ่อปั้นตอบไปว่า “จะไปผักไห่”

หลวงพ่อสุ่นได้พูดขึ้นว่า “แล้วทำไมไม่ไปหล่ะ รออะไรอยู่”

หลวงพ่อปั้นก็ตอบกลับว่า “ก็ท่านมาขวางไว้จะไปได้อย่างไรเล่า”

หลวงพ่อปั้นก็ถามหลวงพ่อสุ่น เช่นกันว่า “แล้วท่านทำอะไรอยู่เหรอ”

หลวงพ่อสุ่น จึงว่า “กำลังจะกินหมากน่ะ”

หลวงพ่อปั้น จึงพูดต่ออีก “แล้วทำไมไม่ตำซะทีหล่ะ”

หลวงพ่อสุ่น บอกว่า “จะตำได้ยังไงหล่ะ ก็ท่านขัดไว้เหมือนกันนี่”.

ซึ่งตอนนั้นหลวงพ่อปั้น หลวงพ่อสุ่น ท่านจะใช้วิชาอะไรก็ไม่อาจทราบได้ ต่างคนต่างใช้พลังจิตบังคับอีกฝ่าย หลวงพ่อปั้น ก็พายเรือไม่ได้ หลวงพ่อสุ่น ก็ขยับตำหมากไม่ได้

และเมื่อหลวงพ่อสุ่นตำหมากไม่ได้ เรือของหลวงพ่อปั้นจึงค่อยๆ วิ่งต่อไปได้จนถึงวัด

” ตำนาน 2 ปรมาจารย์ใหญ่ แห่งท้องทุ่งบางบาล ”

พระเครื่องของ ทั้งหลวงพ่อสุ่น หลวงพ่อปั้น(เนื้อผง วัดสี่รัอย) มีราคาไม่แพง มาก หากเทียบกับความยิ่งใหญ่ เข้มขลังของทั้ง 2 ท่าน

ที่ไม่ด้อยไปกว่าหลวงพ่อกลั่น หลวงพ่อชม หลวงพ่อเพ็ชร หลวงพ่อขัน หลวงพ่อปาน หลวงพ่อจง ที่ทะยานไปหลักแสน

ถือเป็นพระเครื่องที่ คนมองข้ามกันไปเยอะ

ขอบคุณที่มา พระเกจิอยุธยา
แอพเกจิ แอพรวมเรื่องราวประสบการณ์จริง เกี่ยวกับ พุทธคุณ ไสยศาสตร์ วิชาอาคม

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: