1925.ตำนานหลวงพ่อเฮง วัดบ้านขอม เทพเจ้าแห่งชาวประมง ย่านมหาชัย

หลวงพ่อเฮง วัดบ้านขอม ….

หลวงพ่อเฮง พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง แห่งวัดบ้านขอม หรือวัดโสภณาราม ท่านเป็นพระที่ชาวบ้านทั้งย่านตำบลโคกขามและชาวมหาชัยต่างก็ให้ความเคารพศรัทธากันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาผู้ที่ประกอบกิจการประมง เกี่ยวกับเรือหาปลา เวลาจะออกเรือหรือเจิมเรือก่อนลงน้ำเป็นต้องมาบอกกล่าวหลวงพ่อเฮง เพื่อความเป็นสิริมงคล มีเถ้าแก่เรือปลาเป็นจำนวนมากร่ำรวยเพราะหลวงพ่อเฮงมาแล้ว หลวงพ่อเฮงท่านเป็นพระอาจารย์ ผู้ขมังเวทย์อีกรูปหนึ่งของจังหวัดสมุทรสาครเลยทีเดียว

หลวงพ่อเฮง ฉายา อินทโชโต ท่านเป็นชาวกัมพูชาบวชเป็นพระธุดงค์รอนแรม จากกัมพูชาเข้ามาประเทศไทย ร่ำเรียนวิชาอาคมจ แก่กล้า ฝ่าอุปสรรคภยันตรายนานาประการ จนกระทั่งมาปักกลดธุดงค์รุกขมูลที่วัดบ้านขอม หรือ วัดโสภณาราม ตั้งอยู่ในเขตตำบลโคกขาม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ขณะนั้นที่วัดมีหลวงตาแฉ่งรักษาการณ์เจ้าอาวาสวัดบ้านขอม ตอนนั้นทรุดโทรม มีพระจำพรรษาไม่กี่รูป และเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสงครามโลกครั้งที่ 2 พอดี วัดบ้านขอม หรือวัดโสภณาราม สันนิษฐานว่าตั้งขึ้นมาประมาณเกือบ 200 ปีแล้ว เล่ากันว่าพระอธิการสะ เป็น เจ้าอาวาสรูปแรกและเป็นผู้ก่อตั้งวัด ประวัติความเป็นมาแรกเริ่มเป็นวัดไม่มีใครทราบแน่ชัด

หลังจากสิ้นพระอธิการสะลงไปพระอธิการอ่อนก็เป็นเจ้าอาวาสสืบแทน พอหมดยุคพระอธิการอ่อนวัดก็ว่างเจ้าอาวาส ทางการคณะสงฆ์ จึงแต่งตั้งพระสงฆ์ขึ้นมารักษาการณ์สมภารเจ้าวัดอีกหลายรูปด้วยกัน เท่าที่ทราบก็มีหลวงตาเจิม หลวงตาสา แล้วก็มาถึงยุคของหลวงตาแฉ่งขึ้นรักษาการณ์ ในวันที่หลวงพ่อเฮงมาที่วัดบ้านขอมนั้น เล่ากันว่าสภาพวัดทรุดโทรมเต็มที่ วัดมีพระอยู่ 2 รูปคือหลวงตาแฉ่ง กับหลวงตาจ๋อง สำหรับหลวงพ่อเฮงเท่าที่ทราบท่านเป็นชาวจังหวัดพระตระบอง ประเทศกัมพูชาหรือเขมร ท่านบวชเณรตั้งแต่ยังเด็กๆ ศึกษาเล่าเรียนอักขระเลขยันต์ และวิชาอาคมต่างๆ จนกระทั่งอุปสมบทเป็นพระภิกษุมี วิชาอาคมแก่กล้า จากนั้นท่านก็ออกธุดงค์จากประเทศเขมรเข้ามายังประเทศไทย

การธุดงค์ของท่านเป็นการธุดงค์แบบรุกขมูลคือ จะต้องพักปักกลดอยู่ที่โคนไม้เท่านั้น ท่านรอนแรมบุกป่าฝ่าเขา ฝ่าอันตรายทั่วทิศา จนกระทั่งมาถึงที่วัดบ้านขอม การที่ท่านมุ่งตรงมาที่วัดบ้านขอม เล่ากันว่าท่านอาจจะมาหาพรรคพวกที่เป็นชาวเขมรด้วยกันเอง เพราะเห็นว่าชื่อวัดเรียกขานว่าวัดบ้านขอม ท่านคงเข้าใจว่าหมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านชาวขอมหรือเขมรอาศัยอยู่ ด้วยตัวท่านเองก็เป็นเขมรเช่นกัน

แต่จริงๆ แล้วบรรดาชาวขอมหรือเขมร เคยมาอยู่ที่หมู่บ้านและวัดโสภณารามจริง ผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านเล่าว่า ในสมัยโบราณพวกขอมมาขุดคลองไว้ที่หน้าวัด จึงเรียกว่า “คลองบ้านขอม” หรือ “คลองขอม” และพวกขอมก็เข้ามาอยู่อาศัยจึงเรียกว่าบ้านขอม แต่วันที่หลวงพ่อเฮงเดินทางมา ถึงวัดบ้านขอม ขณะนั้นไม่มีชาวขอมหรือเขมร หลงเหลืออยู่แล้ว วันแรกที่หลวงพ่อเฮงมาถึงวัดบ้านขอมท่านพูดภาษาไทยไม่ได้ ท่านเข้ามาถามเด็กด้วยภาษาเขมร เด็กวัดก็ฟังไม่รู้เรื่องสอบถามใครๆ ก็ฟังไม่รู้เรื่อง ชาวบ้านเมื่อทราบว่ามีพระธุดงค์ชาวเขมรมาปักกลดอยู่บริเวณวัดพูดภาษาไทยไม่ได้ก็ ไปตามตาพุ่ม ซึ่งมีเชื้อสายชาวเขมรพอพูดภาษาเขมรได้มาเจรจากับหลวงพ่อเฮง

ตอนนั้นท่านอายุราว 30 ปี ท่านบอกว่าจะขอพักที่วัดและจำพรรษาอยู่ด้วย ทางหลวงตาแฉ่งเองก็ไม่ขัดข้องจะได้มีเพื่อนจำพรรษาด้วย ที่วัดบ้านขอมสมัยนั้น พระที่ไหนจะไปจะมาพักไม่ขัดข้องไม่เข้มงวดกวดขันแต่อย่างใด ชาวบ้านเองก็ยินดีต้อนรับและให้ความเคารพพระอาคันตุกะทุกรูป หลวงพ่อเฮงอยู่จำพรรษาแรก ที่วัดบ้านขอม ท่านหัดพูดภาษาไทยกับเด็กวัดบ้างกับหลวงพ่อแฉ่งและหลวงตาจ๋องบ้าง จนสามารถพูดภาษาไทยได้ดีในเวลาอันรวดเร็ว หลังออกพรรษาท่านก็หายไปจากวัด 1 พรรษา แล้วก็กลับมาอีกครั้งหนึ่งคราวนี้เป็นการกลับมาอยู่อย่างถาวรจวบจนกระทั่งมรณภาพเลย หลวงพ่อเฮง เป็นพระนักปฏิบัติ ท่านเคร่งครัดในพระวินัยมาก ฉันอาหารมื้อเดียว

ท่านเคยเล่าให้กับพระเณรฟังว่า ท่านบวชมาตั้งแต่เป็นสามเณรที่พระตระบองเรียนวิชาคาถาอาคมต่างๆ มากมาย นอกจากนั้นยังเรียนบาลีสันสกฤตอีก เวลาเรียนตอนกลางคืนไม่มีไฟฟ้าต้องใช้ธูปดอกใหญ่ๆ จุดพอมีแสงสว่างให้ท่องอ่านตำรับตำราได้ นับว่าท่านเป็นภิกษุผู้มีความเพียรเป็นเลิศ นอกจากนี้ท่านยังมีความอดทนชอบแสวงหาความสงบ โดยการออกธุดงค์แบบรุกขมูลไปตามท้องถิ่นต่างๆ ร่ำเรียนวิชาไปเรื่อยๆ เจอพระอาจารย์รูปไหนกลางป่าเขาก็ถ่ายทอดวิชาซึ่งกันและกัน จนกระทั่งท่านเป็นพระที่มีวิชาอาคมแก่กล้าหลวงพ่อเฮง ท่านพูดภาษาฝรั่งเศสเก่งมากเนื่องจากประเทศกัมพูชา สมัยนั้นยังตกเป็นเมืองขึ้นแก่ฝรั่งเศส ประชาชนต้องพูดภาษาฝรั่งเศสตามผู้ปกครองไปด้วย ความเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ

ท่านจำพรรษาที่วัดบ้านขอมมาหลายปี ชาวบ้านก็ให้ ความเคารพศรัทธากันมาก พอหลวงตาแฉ่ง มรณภาพลง ผู้ใกล้ชิดท่านก็พาไปพบกับหลวงพ่อเชย หรือพระครูมหาชัยบริรักษ์ ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลในสมัยนั้น หลวงพ่อเชยก็พาท่านไปฝากตัวกับหลวงพ่อชด วัดคอกกระบือ พระอาจารย์ทั้งสองรูปมีความเห็นต้องกันคือให้หลวงพ่อเฮงขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านขอมสืบแทนหลวงพ่อแฉ่ง

ท่ามกลางความยินดีปรีดาจากชาวบ้านที่ให้ความเคารพนับถือ ท่านเป็นอย่างมาก แต่แล้วก็มีเรื่องขึ้นมาจนได้ เมื่อมีเสียงร้องเรียนไปยังท่านเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวหาว่าหลวงพ่อเฮงเป็นเพียงแค่พระปฏิบัติถือศีลบำเพ็ญเพียรเพียงอย่างเดียว ไม่มีความรู้ความสามารถอะไร ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งเจ้าอาวาสที่จะปกครองวัดได้ อีกทั้งเป็นพระที่ไม่พัฒนาอีกด้วย ซึ่งทางท่านเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาครก็เรียกหลวงพ่อเฮงไปทดสอบความรู้ ขอให้ท่านสอบนักธรรมให้ได้ ซึ่งหลวงพ่อท่านก็รับปฏิบัติ แถมยังข้ามขั้นจากนักธรรมตรีไปถึงนักธรรมโทเลยทีเดียว ปรากฏว่าท่านเจ้าคณะจังหวัดต้องให้ท่านสอบผ่าน แต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส วัดบ้านขอมอย่างเป็นทางการในเวลาต่อมา

กาลต่อมาหลวงพ่อเฮงท่านก็ได้รับ แต่งตั้งให้เป็นประธานคุมสอบนักธรรมจังหวัดสมุทรสาครอีกด้วย หลวงพ่อเฮงท่านเป็นพระที่แปลกมาก คือท่านจะห่มจีวรอยู่เสมอ ไม่ว่าอากาศจะหนาว จะร้อนอบอ้าวสักเพียงใดก็ตาม ท่านก็จะห่มจีวรอยู่ตลอดเวลาไม่มีใครเคยเห็นท่านคลายจีวรหรือ เปลี่ยนจีวรมาเป็นลดไหล่เลย แม้แต่ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดก็ไม่เคยเห็นร่างกายของท่าน และยิ่งไปกว่านั้น ท่านไม่เคยสรงน้ำ แต่ร่างกายก็ไม่มีกลิ่นเหม็นคราบเหงื่อไคลแต่ประการใดจากคำบอกเล่าของลูกศิษย์ เวลาเอาจีวรแช่น้ำในถังน้ำถึงกับเน่าเหม็นเลยทีเดียว แต่เนื้อตัวท่านกลับไม่มีกลิ่นเหม็น ใครเข้าใกล้ชิดจะได้กลิ่นร่างกายท่านหอมเหมือนดอกพิกุล เป็นเรื่องที่ชวนสงสัยมากว่าท่านไม่เคยสรงน้ำเลยยังอยู่สุขสบายดี

สมัยที่หลวงพ่อเฮงเป็นสมภารปกครองวัดบ้านขอม ชาวบ้านย่านบ้านขอม ย่านโคกขาม ย่านบ้านฝาง บ้านโคก และย่านมหาชัยต่างก็ให้ ความเคารพเวียนไปกราบท่านมิได้ขาดบรรดา เถ้าแก่เรือประมง พอต่อเรือเสร็จก่อนนำเรือลงน้ำ หาปลา จะต้องเอาเรือไปให้หลวงพ่อเฮงเจิมทุก ครั้งไป พุทธคุณจากคาถาที่หลวงพ่อบริกรรมภาวนานั้นศักดิ์สิทธิ์นัก เรือลำนั้นจะโชคดีทำมาค้าขึ้น

ใครต่อเรือเสร็จจึงมักไปให้หลวงพ่อเฮงเจิมก่อน และเวลาออกเรือหาปลาก่อนออกปากอ่าวมหาชัย เรือผ่านวัดโกรกกรากลูกเรือจะต้องจุดธูป บอกกล่าว พร้อมทั้งจุดประทัดขอความเป็นสิริมงคลจงบังเกิด และให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งหลายทั้งปวงในท้องทะเลกับหลวงพ่อปู่ วัดโกรกกราก ทุกลำ นี่ก็เป็นอีกวัดหนึ่งที่ชาวประมงมหาชัยให้ความเคารพนับถือกันมากเพราะมีความศักดิ์สิทธิ์ไม่แพ้กัน ในเรื่องของวัตถุมงคลนั้น หลวงพ่อเฮงทำเสื้อยันต์และผ้ายันต์ออกมาแจกจ่ายทหารหาญ ตลอดจนชาวบ้านประชาชนทั่วไป

เมื่อครั้งสงครามอินโดจีนมีชาวบ้านบ้านขอมไปเป็นทหารจำนวนมาก หลวงพ่อท่านเป็นห่วงก็เลยทำเสื้อยันต์และผ้ายันต์แจก การทำเสื้อยันต์ของท่านจะพิถีพิถันมากปลุกเสกเดี่ยวอยู่นานจนมั่นใจ จึงนำออกแจกจ่าย ซึ่งประสบการณ์ในเวลาต่อ มาเล่ากันว่า เสื้อยันต์และผ้ายันต์ของหลวงพ่อเฮงวิเศษยิ่งนัก อยู่ยงคงกระพันเป็นเลิศ

ชาวมหาชัย และชาวบ้านบ้านขอมที่ไปเป็นทหารออกรบไม่มี ใครเป็นอะไรเลย เป็นที่เล่าลือโจษขานกันมาก หลังจากทำเสื้อยันต์ ผ้ายันต์ครั้งแรกไปแล้ว หลวงพ่อเฮงก็ไม่ยอมทำวัตถุมงคลอะไรอีกเลย ทิ้งช่วงประมาณ 10 ปีเห็นจะได้ท่านก็ทำวัตถุมงคลครั้งที่สองออกมาอีก เป็นเหรียญสี่เหลี่ยมเนื้อทองแดงผสม ด้านหน้าเป็นรูปพระประธานมีรัศมีรูปไข่ครอบ ประทับบนกลีบบัวสองชั้น เหรียญยกขอบนูน จารอักขระขอมทั่ว ด้านหลัง เป็นยันต์ และเหรียญพิมพ์น้ำเต้าเนื้อทองแดง ด้านหน้าเป็นรูปพระประธาน ด้านหลังเป็นยันต์ เป็นวัตถุมงคลรุ่นแรกของหลวงพ่อเฮง

นอกจานนี้ ก็มีพระเมฆพัด และผ้ายันต์ ทั้งหมดสร้างในปี 2497 ในการจัดทำวัตถุมงคลนั้น หลวงพ่อเฮงทำเองทั้งหมด ไม่มีใครทราบว่าหลวงพ่อไปให้ใครทำ และตอนทำท่านก็ไม่บอกใครด้วย พุทธคุณวัตถุมงคลของท่านจะแคล้วคลาด อยู่ยงคงกระพันเป็นเลิศ ต่อมาปี 2498 ท่านก็ทำวัตถุมงคลออก มาเป็นรุ่นที่สองมีตะกรุดทองแดง เหรียญสมเด็จ เนื้อทองเหลือง และผ้ายันต์

ปี พ.ศ.2499 หลวงพ่อทำวัตถุมงคลรุ่นสาม โดยทำตะกรุดทองแดงหนา ทำพระสมเด็จเนื้อผงถือว่าเป็นรุ่นแรกของพระเนื้อผง และ ผ้ายันต์ นับจากนั้นท่านก็ไม่ได้ทำวัตถุมงคลอีกเลย จวบจนกระทั่งมรณภาพเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ.2508 ท่ามกลางความโศกเศร้าอาลัยของชาวบ้านขอม และชาวมหาชัยเป็นอย่างมาก

เล่ากันว่างานพระราชทานเพลิงศพของท่านนั้น มีผู้คนแห่แหนกันไปร่วมงานจนแน่นวัด ขณะที่สัปเหร่อเปิดดูศพหลวงพ่อครั้งสุดท้าย บรรดาลูกศิษย์ลูกหาต่างก็ยื้อแย่งเอาผ้าจีวรที่ห่มร่างอสุภท่าน เพื่อนำไปเก็บไว้บูชา เล่นเอาโกลาหลเป็นที่สุด แม้แต่ตายไปแล้วร่างของท่านก็แทบไม่เหลืออะไรเลย ก่อนจะถูกไฟเผาผลาญมอดไหม้ไป หลวงพ่อเฮงจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ เหลือไว้แต่เพียงชื่อให้สาธุชนรุ่นหลังได้รับทราบถึงคุณงามความดี

เมื่อครั้งที่ท่านมีชีวิตอยู่ ต่อมาทางวัดได้หล่อรูปของท่านไว้ให้สักการะ กราบไหว้กัน ในแต่ละวันจะมีผู้คนเดินทางไป กราบไหว้ขอพรกันมิได้ขาด หลังสิ้นบุญหลวงพ่อเฮงไปแล้ว ทางวัดก็ ได้พระอาจารย์สง่า จากวัดราษฎร์รังสรรค์ (วัดคอกควาย) มาเป็นเจ้าอาวาสแทนเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2509 และได้รับแต่งตั้งเป็น “พระครูสมุทรธรรมโสภณ” ในเวลาต่อมา

พระครูสาครธรรมโสภณ มาอยู่วัดบ้านขอม ก็พัฒนาวัดจนรุ่งเรือง จัดหมู่กุฏิสงฆ์ให้เป็นระเบียบ สร้างโบสถ์หลังใหม่ขึ้นมาแทนหลังเก่า จัดงานปิดทองฝังลูกนิมิตในปี พ.ศ. 2536 การเฉลิมฉลองปิดทองฝังลูกนิมิตของ แต่ละวัดมักจะสร้างวัตถุมงคลออกมาเป็นที่ระลึก สำหรับผู้ที่ไปร่วมงานทางวัดบ้านขอมก็เช่นกัน ท่านพระครูสาครธรรมโสภณท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้หลายรูปแบบมี พระสมเด็จเนื้อผง, พระเหรียญสี่เหลี่ยมเนื้อทองแดง ด้านหน้าย้อนยุค เหมือนเหรียญรุ่นแรก แต่ด้านหลังใต้ยันต์ระบุชื่อวัด, เหรียญพิมพ์น้ำเต้าด้านหน้ารูปพระประธาน ใต้องค์พระระบุชื่อวัดโสภณาราม (บ้านขอม) ด้านหลังเป็นยันต์

นอกจากนี้ก็มีผ้ายันต์ รูปถ่ายหลวงพ่อเฮงกับเหรียญใบสาเกเนื้อทองแดง ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อเฮงนั่งสมาธิ บนฐานด้านล่างมี อักษรเขียนว่าหลวงพ่อเฮง รอบเหรียญเป็นลายกนก คมชัดสวยงาม ด้านหลังเหรียญเป็นลายกนก คมชัดสวยงาม ด้านหลังเหรียญเป็นยันต์มีข้อ ความด้านล่าง 3 แถว เขียนว่า “งานผูกพัทธสีมา ปิดทองฝังลูกนิมิต วัดโสภณาราม (บ้านขอม) จังหวัดสมุทรสาคร วันที่ 21-29 มกราคม 2536

สำหรับเหรียญใบสาเกนี้ ทางวัดแจกฟรีให้กับผู้ไปซื้อดอกไม้ธูปเทียนทองปิดทองลูกนิมิต พอเริ่มงานวันแรกมีทหารเรือเกณฑ์เป็นลูกบ้านละแวกวัดนั่นแหละ ได้เหรียญหลวงพ่อเฮงมาเกิดนึกสนุกเอาเหรียญไปลองปืนที่ข้างวัด ปรากฏว่ายิงไม่ออก หลายๆ คนไม่เชื่อทดลองดูบ้างผลก็เหมือนกันยิงไม่ออก แต่พอทดลองยิงปืนขึ้นฟ้าปืนลั่นตูม ทำอย่างนี้หลายครั้งเล่นเอาผู้ที่พบเห็นขนลุกซู่ไปตามๆ กัน ข่าวคราวเหรีญยในสาเกหลวงพ่อเฮงแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว บางคนได้ฟังไม่เชื่อลองดูบ้างก็จริงดังนั้น เพียงแค่ 3 วันเท่านั้นเหรียญที่ทำออกมาแจกมากพอสมควรเกลี้ยงไม่เหลือติดวัดเลย

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

บางรายพอได้เหรียญไปเกิดไม่มั่นใจอีกเอาปืนมาลองยิง ลั่นปากกระบอกแตกถึงกับส่งโรงบาลช ครั้งนั้นเป็นข่าวเกรียวกราวมาก นักเลงพระวิ่งหาเช่ากันสดๆ 1,000 บาทต่อเหรียญ ตอนนั้นยังแทบหาคนเอามาปล่อยไม่ได้เลย

แม้ปัจจุบันนี้เหรียญใบสาเกหลวงพ่อเฮง งานปิดทองฝังลูกนิมิตก็ยังเป็นที่นิยมกันอยู่ ที่วัดบ้านขอมนั้น นอกจากจะมีรูปหล่อหลวงพ่อเฮงแล้วยังมีหลวงพ่อโตพระประธานเก่าแก่ในโบสถ์เก่า

ปัจจุบันเป็นวิหารประดิษฐานหลวงพ่อโตโดยเฉพาะ อันว่หลวงพ่อโต วัดบ้านขอมนั้น ชาวบ้านนับถือกันมากจัดว่าเป็นพระประธานที่ศุกดิ์สิทธิ์อีกองค์หนึ่งของจังหวัดสมุทรสาครเลยทีเดียว ใครจะไปจัดงานรื่นเริงอะไรในวัดถ้าไม่ไปจุดธูปบอกกล่าวหลวงพ่อโตก่อนรับรองงานล่ม

ถ้าเป็นหน้าฝนจุดธูปบอกหลวงพ่อโตระงับฝนหรือปัดเป่าได้ ขณะงานฝนจะตกบริเวณรอบๆ ข้างหรือตำบลใกล้เคียงหมดพองานเลิกเสร็จพิธีฝนเป็นตกทันที เห็นมามากต่อมากงานแล้ว หลวงพ่อโตวัดขอมศกดิ์สิทธิ์ไปบอกกล่าวขอโชคลาภขอความเป็นสิริมงคลจะประสบความสำเร็จ …

ขอบคุณที่มา https://sites.google.com/…/wad-sophn-a-ram-ban-khxm-prawati…
แอพเกจิ แอพรวมเรื่องราวประสบการณ์จริง เกี่ยวกับ พุทธคุณ ไสยศาสตร์ วิชาอาคม

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: