1905.หลวงปู่แขก บิณฑบาตป่าช้า

หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์ บิณฑบาตป่าช้า
เดิมด้านหลังวัดเป็นป่าช้ากลางวันยังไม่มีใครเดินเลยเขากลัวผีกัน วัดอยู่ริมน้ำ พอหลวงพ่ออุปัชฌาย์มรณะ อาหารก็เริ่มขาดแคลน เวลาบิณฑบาตรก็ได้แต่ข้าว กับข้าวไม่ค่อยมี เพราะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ชาวบ้านก็น้อยคิดว่าจะทำยังไงดี ก็เลยไปปรึกษาพระผู้ใหญ่ท่านก็ให้การสนับสนุนก็ได้ไปทะเลาะกับผี ไล่ผีออกจากป่าช้า คือพื้นที่ที่เป็นป่าช้าทั้งหมดเป็นที่ของวัด มีทั้งหมด ๓๔ ไร่ ก็ไปขอผีไปบิณฑบาตรจากผี แล้วอาตมาก็เข้าไปฉันในป่าช้า ตอนที่เข้าไปขอหลังจากตอนเช้าบิณฑบาตรเสร็จแล้ว อาตมาก็เข้าไปฉันในนั้นเสร็จก็ยะถา สัพพี เรียกวิญญาณทั้งหลายที่อยู่ในที่นี้ ทั้งหมดมารับส่วนบุญส่วนกุศล รับอนุโมทนาส่วนกุศล

ทำทุกๆวันประมาณเดือนกว่า แล้วก็อ้างจุดประสงค์ของเราว่า ดวงวิญญาณทั้งหลายมารับส่วนบุญส่วนกุศลกันแล้วนะ อาตมาต้องการจะเอาที่ตรงนี้เพื่อให้ประชาชนไว้เป็นแหล่งทำมาหากิน หวังว่าจะไม่ขัดข้องกัน ใครมาอยู่ก็ไม่ได้ขับไล่ แต่ดวงวิญญาณไหนดื้อเกเรก็อย่าอยู่ด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้ไล่ส่ง ถ้าอยู่แล้วเขาทำมาหากินก็ช่วยส่งเสริมให้เขาทำมาหากินรุ่งเรือง ให้เขาอยู่เย็นเป็นสุขนำความเจริญมาสู่บ้านเรือน ทำมาค้าขายก็เจริญรุ่งเรือง ให้อยู่ด้วยกัน เมื่อเขาร่ำรวยมีฐานะดีแล้วเขาก็ทำบุญให้ทุกวัน ทุกเช้าตักบาตรทำบุญให้เขาก็แผ่ส่วนบุญกุศลให้ไม่ได้ขับไล่ ก็บอกกับเขาดีๆ อาตมาก็ทำแบบนี้มานานร่วมเดือนเลยนะ ตอนนั้นก็เข้าไปป่าช้าบอกกล่าวบิณฑบาตรกับผีอย่างนี้ทุกวัน

จากนั้นก็เอารถแทรกเตอร์จากกรมทางหลวงมาช่วยปรับพื้นที่ ถ้าเจอผีก็เอาขึ้น เจอกระดูกก็เอาขึ้นเผา ถ้าผีสดหน่อยก็ให้เจ้าของเขามารับไป ทำจนเสร็จแล้วก็ให้ทางช่างเทศบาลเขามาวางผังให้ จากนั้นก็ให้ชาวบ้านเขามาจอง ขอหน้าดินเขาช่องละสองพันบาท ทำถนน ทำตลาด ส่วนกลางมีที่จอดรถ ทุกวันนี้ค้าขายกันเจริญรุ่งเรือง อยู่มาจะร่วม ๓๐ ปี เกิดไฟไหม้ตลาดหมดเลย เมื่อก่อนนั้นสร้างด้วยไม้หลังจากไฟไหม้ก็ต้องมาเริ่มสร้งใหม่ ทีนี้สร้างเป็นตึก โดยให้บริษัทรับก่อสร้างเขามาประมูลสร้าง เขามาทำให้หมดทุกอย่าง พอเสร็จแล้วก็ให้ประชาชนเขาเซ้ง ก็อยู่มาจนถึงปัจจุบันนี้

ตอนนั้นอาตมาคิดแค่ว่าขอให้มีอาหารเลี้ยงพระเลี้ยงเณร ไม่ได้คิดถึงผลกำไรจากตลาด ตอนนั้นก็เก็บจากแม่ค้าแค่วันละบาทเดียว ก็ได้เงินบำรุงมาแต่ก็ได้น้อย ทีนี้พระผู้ใหญ่ท่านก็ว่าให้เรียกมาประชุมใหม่ เดี๋ยวนี้บาทหนึ่งให้เด็กมันก็ไม่เอาแล้วท่านว่า อาตมาก็บอกกับท่านว่า ไม่ได้คิดแบบพ่อค้า แต่ก็ไม่เถียงท่าน ที่ท่านพูดก็ถูกต้องแต่ชาวบ้านในถิ่นนี้เขาก็ให้มาทำบุญที่นี่ตลอด บางปีเรามีบุญนั่นบุญนี่ชาวบ้านเขาก็ร่วมบริจาคเป็นพันเป็นหมื่น แพงกว่าค่าเช่าอีก อาตมาก็อธิบายให้ท่านฟัง ท่านก็เข้าใจ งั้นไม่ต้องพูดไม่ต้องประชุมก็อยู่กันมาจนปัจจุบันสัญญา ๓๐ ปี

ทุกวันนี้ทั้งอำเภอบางระกำแล้วก็ที่ข้างเคียงก็เจริญหมด ก็พัฒนามาตลอด ต้องการอย่างเดียวคือ ขอให้มีอาหารเลี้ยงพระเณร แล้วก็ต้องการพัฒนาตัวอำเภอให้เจริญเท่าอำเภออื่น แต่ก็ยังด้วยเรื่องการพัฒนาวัด วัดต่างๆในเขตอำเภอนี้เป็นวัดล้มลุก ชาวบ้านยากจน วัดก็ยังไม่เจริญ ล้มลุกๆตลอด ไม่เหมือนอำเภออื่นเขาที่มีวัดใหญ่มั่นคง

ขอบคุณที่มา palungjit.org
แอพเกจิ แอพรวมเรื่องราวประสบการณ์จริง เกี่ยวกับ พุทธคุณ ไสยศาสตร์ วิชาอาคม

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: