1877.หลวงพ่อฤๅษีลิงดำนัดพบหลวงปู่สีทางจิต

หลวงพ่อฤๅษีลิงดำนัดพบหลวงปู่สีทางจิต
ถอดข้อความส่วนหนึ่งมาจากหนังสือ สู่แสงธรรม โดย พล.อ.ต. มนูญ ชมภูทีป (อยากอ่านเต็ม ๆ ซื้อได้ที่วัดท่าซุงและซอยสายลมครับ)
เมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๕๑๔ ในวันหนึ่งหลวงพ่อได้มาแสดงธรรมะออกอากาศที่สถานีวิทยุกระจายเสียง ๐๔ ตาคลี จ.นครสวรรค์ เหมือนเช่นเคย และหลังจากที่หลวงพ่อได้แสดงธรรมะออกอากาศเสร็จก็ได้มานั่งพักผ่อนสนทนากับ ข้าพเจ้าและพ.อ.อ. กริช บำรุงพงษ์ ที่ห้องรับแขก ข้าพเจ้าจึงได้ฉวยโอกาสเล่าถึงอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่สีให้ หลวงพ่อฟัง พอสรุปใจความสั้น ๆ ได้ดังนี้

มีพ่อค้าชาวตาคลี กลุ่มหนึ่งได้ไปกราบนมัสการหลวงปู่แหวนที่ วัดดอยแม่ปั๋ง จังหวัดเชียงใหม่ และเมื่อหลวงปู่แหวนทราบว่าเป็นพ่อค้ามาจากตาคลี ก็หัวเราะพูดว่า ท่านมีอาจารย์อยู่องค์หนึ่งอายุมากแล้วชื่อหลวงปู่สี ขณะนี้อยู่ที่ตาคลีค้นหาให้ดี เพราะท่านเก่งมากดังนั้นเมื่อผู้คนนั้นกลับมา ก็พยายามติดตามค้นหาในที่สุดก็ได้พบว่าหลวงปู่สี พำนักอยู่ที่วัดเขาถ้ำบุญนาค มีอายุชราภาพมากแล้วถึง ๑๒๑ ปี

อภินิหารหลวงปู่สี ขณะนั้นเป็นที่ร่ำลือกันมากคือ ไม่มีใครถ่ายรูปหลวงปู่สีติด หากไม่ขออนุญาตท่านเสียก่อน และชานหมากของหลวงปู่สีหากผู้ใดได้ไว้แล้วพกติดตัวไปก็จะเป็นสิริมงคล และป้องกันอันตรายต่าง ๆ ได้

ข้าพเจ้าได้เล่าให้หลวงพ่อฟังต่อไปว่า “ กิตติศัพท์ของหลวงปู่สีดังกล่าว เมื่อได้รับฟังมาผมก็มิได้สนใจนักจนกระทั่งวันหนึ่งผมได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ที่ป่าหลังกองร้อยทหารสารวัตร(ในขณะนั้นข้าพเจ้าเป็นผู้บังคับกองร้อยทหาร สารวัตร และเป็นนายทหารรักษาความปลอดภัยกองบิน ๔ ด้วย) ผมจึงชวนเรือโทสังวร สมหวัง รองผู้บังคับกองร้อย และเรืออากาศ ครรชิต บัวอำไพ นายทหารสารวัตรซึ่งได้นั่งปรึกษางานอยู่กับผมลงไปดู ก็เป็นจ่าอากาศสารวัตร ๒ คน คนหนึ่งกำลังถือปืนตั้งท่าจะยิงไก่นัดต่อไป อีกคนหนึ่งยืนดู จึงตะโกนสั่งให้หยุดยิงและสอบถามว่าทำไมจึงขัดคำสั่งผู้บังคับกองร้อยฯ (ข้าพเจ้าได้เคยสั่งให้ยิงปืนได้เฉพาะในสถานที่ที่จัดไว้ให้ยิง และยิงได้เฉพาะวัน, เวลาที่ทางกองร้อยฯกำหนด) ซึ่งทั้งสองคนก็ยอมรับผิด และอธิบายสาเหตุให้ฟังว่าจ่าประสิทธิ์ไปได้ชานหมากจากหลวงปู่สีมาเล่าให้จ่า

 

ชิตฟังถึงอภินิหารต่าง ๆ จ่าชิตได้ฟังก็ไม่เชื่อก็เกิดการพนันกันขึ้น โดยจ่าประสิทธิ์ไปขอซื้อไก่ในกองบิน๔ มาแล้วให้จ่าชิตยิง หากจ่าชิตยิงไก่ตาย จ่าชิตก็ได้ไก่ไปแต่ถ้าหากจ่าชิตยิงไก่ไม่ตายก็ต้องจ่ายเงินให้จ่าประสิทธิ์ แล้วให้จ่าประสิทธิ์เอาไก่ไป การยิงสัญญากันไว้ว่าจะยิง ๖ นัด ขณะนี้จ่าชิตยิงไปแล้ว ๓ นัด ยังไม่ถูกไก่ และยังมีสิทธิ์ยิงได้อีก ๓ นัด ผมจึงให้เรืออากาศโท สังวร และเรืออากาศตรีครรชิต ซึ่งเป็นมือปืน P.P.C.เหรียญเงินทั้งสองคน ยิงไก่คนละนัดก็ไม่ถูกอีก ผมจึงให้คนโทรศัพท์ไปเรียก พ.อ.อ. ชลอ ผาสุกมือปืน P.P.C. เหรียญทอง มายิงในนัดสุดท้ายซึ่งก็ไม่ถูกไก่อีก (ในตอนนั้น พ.อ.อ. ชลอ ผาสุก โมโหมากขอให้เอาเหรียญบาทไปตั้งที่ตอไม้ทั้ง ๓ เหรียญ ก็ยิงถูกเหรียญกระเด็นไปทั้ง ๓ เหรียญแต่ยิงไก่ตัวใหญ่โต ซึ่งมัดติดกับต้นไม้ไม่ถูก) ผมจึงให้จ่าประสิทธิ์พาไปหาหลวงปู่สีในวันนั้น และพอไปกราบหลวงปู่สี หลวงปู่ก็กล่าวตำหนิว่าพวกผมทำให้ท่านเจ็บปากไปหมด เพราะชานหมากไปผูกติดกับคอไก่ท่านก็จะต้องคุ้มครองให้ไก่และเมื่อเอาปืนไป ยิงไก่ ลูกปืนมันไม่ถูกไก่แต่วันมาถูกปากท่านทุกนัด ผมและพรรคพวกที่ไปจึงต้องกราบขอขมาหลวงปู่ ซึ่งหลวงปู่ท่านก็เมตตา มอบชานหมากมาให้แต่ขอสัจจะว่า อย่าได้นำชานหมากของท่านไปทดลองที่ไหนอีก”

หลวงพ่อฤๅษีลิงดำได้นั่งฟังข้าพเจ้า เล่าถึงหลวงปู่สีด้วยความสงบ พอข้าพเจ้าเล่าจบหลวงพ่อฤๅษีลิงดำก็พูดว่า “คุณมนูญ ฉันบอกหลวงปู่สีเมื่อตะกี้นี้แล้วว่า ฉันจะไปหาหลวงปู่ดีใจมาก จะคอยต้อนรับอยู่ที่กุฏิ ไปเราไปกันได้เลย”

ข้าพเจ้าและ พ.อ.อ. กริช ได้ฟังก็งงมาก เพราะหลวงพ่อฤๅษีลิงดำก็นั่งอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ลุกไปโทรศัพท์ และโทรศัพท์ที่กุฏิหลวงปู่สีก็ไม่มี หลวงพ่อฤๅษีลิงดำจะบอกกับหลวงปู่สีได้อย่างไร แต่เมื่อเป็นเจตจำนงของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำเช่นนั้น ข้าพเจ้าก็จำต้องขับรถพาหลวงพ่อฤๅษีลิงดำไป

เมื่อไปถึงกุฏิหลวงปู่สี(ตั้งอยู่หน้าถ้ำวัดเขาบุญนาค) ข้าพเจ้าก็ยิ่งฉงนสนเท่ห์ใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะหลวงปู่สีซึ่งตามปกติท่าจะนุ่งสบงอยู่ตัวเดียว บัดนี้ท่านแต่งชุดใหญ่ครบเยี่ยงพระภิกษุสงฆ์ที่พร้อมจะเข้าพิธีในโบสถ์ มีเสื่ออย่างดีปูได้เรียบร้อยพร้อมด้วยชุดน้ำชา และ หมากพลู อีกทั้งมีพระภิกษุสงฆ์ในวัดอีก ๒-๓ รูป รวมทั้งเจ้าอาวาสมานั่งคอยต้อนรับหลวงพ่อฤๅษีลิงดำอยู่กันพร้อมหน้า

ในขณะที่หลวงพ่อฤๅษีลิงดำนั่งคุยกับหลวงปู่สี ข้าพเจ้าก็ได้แอบไปสอบถามท่านมหาองค์หนึ่ง ซึ่งใกล้ชิดกับหลวงปู่สีว่า “หลวงปู่สีทราบได้อย่างไรว่า หลวงพ่อฤๅษีลิงดำจะมา” ท่านมหาองค์นั้นก็ตอบว่า “อาตมาก็ไม่ทราบเห็นหลวงปู่นอนจำวัดอยู่ตามปกติ จู่ ๆ ก็ลุกพรวดพราดขึ้นมาแล้วสั่งให้อาตมาคุมกวาดลานวัดและเช็ดกุฏิแล้วให้เตรียม น้ำชา หมากพลูโดยเร่งด่วน ท่านบอกว่า ประเดี๋ยวจะมีพระผู้ใหญ่ระดับสูงมากมาหา พร้อมกันนั้นหลวงปู่ก็เข้าไปนุ่งห่มจีวรใหม่เอี่ยม รอหลวงพ่อฤๅษีลิงดำดังที่โยมเห็นนี้แหละ

เรื่อง ที่ข้าพเจ้าและพรรคพวกได้ประสบในครั้งนี้ไม่มีผู้ใดจะพิสูจน์หรือหาเหตุผลใด ๆ ได้เลย นอกจากจะคิดกันไปว่า หลวงพ่อฤๅษีลิงดำได้นัดพบกับหลวงปู่สีทางจิตเท่านั้น หรือท่านผู้อ่านจะเข้าใจว่าอย่างไร

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : พระเกจิ-คณาจารย์ นครสวรรค์
แอพเกจิ แอพรวมเรื่องราวประสบการณ์จริง เกี่ยวกับ พุทธคุณ ไสยศาสตร์ วิชาอาคม

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: