1837.พระอธิการพราย วัดมะขาม หลวงปู่เทียน วัดโบสถ์ ยังเคยชมว่าเสกเมตตามหานิยมได้ขลังนัก

ประวัติ พระอธิการพราย วัดมะขาม (ปทุมธานี)

(พระอธิการพลาย ถาวโร) วัดมะขาม เป็นพระอริยสงฆ์เชื้อสายรามัญ ตามประวัติท่านไม่ค่อยมีจดบันทึกไว้มากนัก วันนี้กระผมจึงอยากนำประวัติพระเกจิเมืองปทุม ท่านนี้มาให้อ่านเพื่อเผยแพร่เป็นวิทยาทานครับ
“พระอธิการพราย ถาวโร” ท่านถือกำเนิด เมื่อราวปี พ.ศ.๒๔๓๓ เป็นศิษย์ของ (พระอาจารย์เปิง วัดชินวราราม) จังหวัดปทุมธานี ได้ศึกษาวิปัสนากรรมฐาน สูตรมูลกัจจายน์วิธีเขียนและลบผงวิเศษต่างๆ เช่น ผงอิทธิเจ ผงปถมัง และพระเวทย์วิทยาคมต่างๆกับอาจารย์เปิงเป็นเวลาถึง ๕ พรรษา

ตอนที่ท่านมาเป็นเจ้าอาวาสวัดมะขาม เมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๐ ท่านเคยออกธุดงค์ไปเมืองพม่า บุกป่าดงดิบผจญกับสัตว์ร้ายมาเป็นเวลา ๑ ปีเต็ม ภายหลังกลับจากธุดงค์แล้ว ท่านได้เริ่มพัฒนาวัดมะขาม สร้างถาวรวัตถุมากมาย พร้อมกันนั้นท่านได้เริ่มเขียนผงอิทธิเจ ผงปถมัง ไว้อยู่เสมอ เพื่อสะสมไว้สร้างมงคลวัตถุ
พระอธิการพราย ท่านได้สร้างพระเครื่อง เป็นเนื้อผงคลุกรัก จำนวนไม่มากนัก แค่ไม่กี่ร้อยองค์ มี ๓ พิมพ์ (พิมพ์พระปิดตา, พิมพ์พระพุทธ ๕ เหลี่ยม ฐาน ๒ ชั้น, และ พิมพ์นางพญา)

พระปิดตาของพระอธิการพลาย ท่านสร้างไว้เมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๙ นับเป็นพระปิดตาที่โด่งดังมากของจังหวัดปทุมธานี เพราะท่านเป็นพระที่มีพลังจิตสูงมาก แม้แต่ (หลวงปู่เทียน วัดโบสถ์) ยังเคยชมเชยและบอกว่า “ต้องมีพลังจิตเข้มแข็งอย่างพระอธิการพลาย จึงจะทำผงเมตตามหานิยมได้ขลังนัก” ลูกศิษย์ลูกหา ผู้ที่ได้รับไปจากท่าน ต่างประจักษ์ในสุดยอดพุทธคุณด้านเมตตามหานิยม และแคล้วคลาด ส่วนผสมมีผงอิทธิเจ ผงปถมัง ที่ท่านได้เขียนสะสมเอาไว้ ผสมกับว่านอีกหลายชนิดซึ่งถูกบดและกรอง นำมาคลุกกับน้ำรัก ท่านทำไป ปลุกเสกไป และแจกไป ตอนแรกๆที่แจกไป ไม่ใคร่มีใครสนใจเท่าไรนัก ได้กันไปคนละองค์สององค์ เก็บไว้ใช้บ้าง แจกต่อไปบ้าง มาในตอนหลังจนมีผู้นำไปใช้แล้วเกิดประสบการณ์ด้านเมตตามหานิยม และแคล้วคลาดเป็นเยี่ยม เช่น ติดต่อการงาน เข้าหาผู้ใหญ่มักจะประสพความสำเร็จ เด็กตกน้ำไม่จม รถคว่ำไม่เป็นไร ผู้คนเลยแห่กันมาวัดมะขาม เพื่อขอพระปิดตาไปบูชาเป็นการใหญ่ จนสร้างไม่ทันแจก หลังจากท่านมรณภาพไปแล้ว พระปิดตาก็หาไม่ได้ ใครมีอยู่ก็หวงแหนกันมาก สนนราคาแพงกว่าในตอนแรกที่ออกให้บูชากันแค่องค์ละ ๕-๑๐ บาทเท่านั้น บางครั้งก็แจกให้ฟรีด้วยซ้ำไป

พระอธิการพลายมรณภาพ
ขณะที่ท่านกำลังสร้างโรงเรียน ท่านก็อาพาธด้วยโรคลำไส้พิการ บรรดาญาติมิตร และลูกศิษย์ ได้เชิญแพทย์มาทำการักษา แต่อาการของท่านก็ไม่ดีขึ้นเลย ในที่สุดท่านก็ได้มรณภาพลง เมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๖ สิริอายุรวม ๖๓ ปี ๔๓ พรรษา เป็นพระอธิการวัดมะขาม มานานถึง ๒๖ ปี
พระอธิการพลาย ท่านเป็นพระเถระเชื้อสายรามัญที่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก แม้ในยามสิ้นชีวิตไปแล้ว ก็ยังแสดงความศักดิ์สิทธิ์ให้เป็นที่ประจักรแก่สายตาของผู้คน โดยเฉพาะร่างกายของท่านหลังจากสิ้นลมไปแล้วไม่เน่าเปื่อย วันที่นำร่างท่านขึ้นสู่เมรุ และจุดไฟเผาไปได้หลายชั่วโมง ทางคณะกรรมการวัดและพระมหาประสิทธิ์ ปัญญาพโล เจ้าอาวาสรูปต่อมา ได้เปิดดูที่เตาเผาเพราะคาดว่าร่างของท่านคงกลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว สิ่งที่ปรากฏก็คือ ไม่เพียงแต่ร่างท่านที่ยังปกติ แต่จีวรของท่าน เปลวไฟที่ลุกโชนก็ไม่สามารถที่จะเผาผลาญได้เลยแม้แต่น้อย จนพระมหาประสิทธิ์ได้จุดธูปขอขมาท่าน ทันทีที่ปักธูปลงกระถาง จีวรก็ลุกพรึบพร้อมกับร่างที่มอดไหม้ในทันที ตอนเช้าเมื่อข่าวได้แพร่ออกไป ก็ทำให้คนส่วนใหญ่เข้ามาเช่าบูชาพระเครื่องของท่านจนแทบหมดสนาม แม้ในปัจจุบันก็หาพระเครื่องของท่านแทบจะไม่เจอกันแล้ว

พระอธิการพลาย ถาวโร ขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ท่านเป็นพระเถระที่สมบูรณ์ด้วยคุณธรรม สนับสนุนการศึกษา และศึกษาค้นคว้าธรรมมะ นำมาสอนศิษย์และชาวบ้านให้ประพฤติอยู่ในธรรมเสมอ ดำรงตนอยู่ในสมณวิสัย ตั้งแต่บรรพชา กระทั่งได้อุปสมบถ จวบจนถึงกาลมรณภาพ

พระอธิการพราย ท่านถึงแก่มรณะภาพลง เมื่อวันพุธที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๙๖ สิริอายุ ๖๓ ปี ๔๓ พรรษา

ขอบคุณที่มา เล่า เรื่อง “พระ ”
แอพเกจิ แอพรวมเรื่องราวประสบการณ์จริง เกี่ยวกับ พุทธคุณ ไสยศาสตร์ วิชาอาคม

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: