1767.ตามรอยตำนานหลวงพ่อครน วัดบางแซะ พระเถราจารย์ผู้เข้มขลัง

ตามรอยตำนานหลวงพ่อครน วัดบางแซะ พระเถราจารย์ผู้เข้มขลัง มีตบะบารมีธรรมแก่กล้า พระปิดตาที่ท่านได้เมตตาสร้างไว้ จัดว่าเป็นอันดับหนึ่งของพระปิดตาแดนใต้ที่บรรดาผู้นิยมพระเครื่องต่างถวิลหา และมีราคาการเช่าบูชาที่สูงถึงหลักล้าน

ประวัติหลวงพ่อครนนั้น เป็นชาวบางแซะ โดยกำเนิด เกิดเมื่อปี ๒๔๑๘ เมื่อถึงวัยจึงได้เข้าบรรพชาอุปสมบทที่วัดบางแซะ แล้วได้ศึกษาสรรพวิชาจากพระเถราจารย์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังของแถบนั้น เช่นหลวงพ่อปาน วัดโคกสมานคุณ เป็นต้น

หลวงพ่อครนเป็นพระเถราจารย์เพียงรูปเดียวที่วัดอยู่ต่างแดน คือ วัดตั้งอยู่ ณ รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย
วัตถุมงคลของท่านที่รู้จักแพร่หลาย และนิยมเล่าหากันคือ พระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก และเป็นพระปิดตาที่ราคาแพงที่สุดของภาคใต้ โดยเริ่มสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๘๐ การสร้างใช้กรรมวิธีการปั้นหุนทีละองค์ แล้วลงเหล็กจารไว้ทั่งทั้งองค์ ซึ่งนานทีจะพบพระแท้ ๆ สักองค์ ส่วนเหรียญรุ่นแรกเป็นรูปดอกจิก สร้างปี พ.ศ.๒๕๐๐ รุ่น ๒ เป็นเหรียญรูปไข่ สร้างปี ๒๕๐๕ วัตถุมงคลของท่านที่รู้จักแพร่หลาย และนิยมเล่าหากันคือ พระปิดตาเด่นทางด้านเมตตามหานิยม
หลวงพ่อครน เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดบางแซะ ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศมาเลเซีย ท่านสร้างพระเครื่องที่มีชื่อเสียงมากในรูปแบบพระปิดตา เป็นที่นิยมมาก ในหมู่ชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ แม้จนปัจจุบันนี้ คนไทยในประเทศไทยนิยมสมเด็จวัดระฆังอย่างไร ชาวสิงคโปร์และมาเลเซียที่เป็นพุทธก็นิยมพระปิดตาของหลวงพ่อครนไม่แพ้กัน กล่าวกันว่าวัดบางแซะนั้น แวดล้อมไปด้วยชาวบ้านที่เป็นมุสลิมเป็นส่วนใหญ่ แต่หลวงพ่อครน ท่านก็ได้รับความเคารพนับถือและเกรงใจอย่างยิ่งจากชาวบ้าน และวัดบางแซะก็สามารถดำรงอยู่ได้ แม้จนปัจจุบันนี้ ด้วยบารมีของท่านนั่นเอง ด้วยการอยู่ท่ามกลางแขกมุลลิม แต่ด้วยคุณธรรมและตบะบารมีธรรมอันแก่กล้าของหลวงพ่อครน จึงสามารถสร้างศรัทธา และสยบไสยเวทต์มนต์แขกที่มุ่งเล่นงาน จนเป็นที่ยอมรับและศรัทธาของชาวมาเลเซีย และสิงคโปร์

อนึ่งนั้น คนสิงคโปร์และมาเลเซีย ไม่ได้เรียกท่านว่า “หลวงพ่อครน” เหมือนที่คนไทยเรียก แต่จะเรียกท่านว่า “โต๊ะรายา” ซึ่งมีความหมายเทียบเท่าสังฆราชนั่นเอง สาเหตุมาจากคำเล่าลือกันที่ว่า ลูกสาวของสุลต่านคนหนึ่งที่เป็นผู้ปกครองรัฐกลันตัน ถูกกระทำไสยเวทย์หรือมนต์ดำ ทำให้สติวิกลวิปริตไป แม้จะใช้แพทย์แผนปัจจุบัน หรือคนดีมีวิชาที่เป็นชาวมุสลิม ก็ไม่สามารถแก้ไขได้ แต่หลวงพ่อครนท่านสามารถรักษาและแก้ไขได้ จนลูกสาวสุลต่านกลับมาเป็นปกติ ทำให้ท่านได้รับความนับถืออย่างยิ่งจากองค์สุลต่าน และได้ถวายเกียรติคุณให้ท่านว่าโต๊ะรายา แม้ปัจจุบันหากพูดถึงโต๊ะรายาในหมู่ชาวสิงคโปร์และมาเลเซียที่นับถือพุทธ ก็จะหมายถึงหลวงพ่อครนนั่นเอง ซึ่งมีองค์เดียวเท่านั้น

หลวงพ่อครน ถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๐๕ สิริอายุได้๘๘ปี ๖๗ พรรษา

ขอบคุณที่มา ตำนานเล่าขานพระผู้ทรงฌานอภิญญาครูบาอาจารย์ผู้เรืองวิชาอาคม

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: