1745.บุญหมด…

บุญหมด

หลวงพ่อสุรศักดิ์ท่านเคยกล่าวกับผมไว้ว่า เมื่อตอนที่ฉันอายุ 33 ปี ฉันได้ก่อสร้างโบสถ์วัดประดู่อารามหลวง แต่ไม่แล้วเสร็จ ฉันเป็นหนี้ค่าก่อสร้างอยู่ประมาณ 1 ล้านบาทเศษ ฉันเลยปรึกษากับกรรมการวัด มีมติกันว่า น่าจะออกเหรียญเพื่อให้ญาติโยมเช่าบูชา ฉันจึงนำเหรียญของอาจารย์ของฉัน คือหลวงพ่อหยอดวัดแก้วเจริญ ฉันได้นำเหรียญหลวงพ่อหยอดวัดแก้วเจริญ ไปให้โรงงานทำการผลิตจำ นวน10,000 เหรียญ เจ้าของโรงงานกล่าวว่า เหรียญจำนวน 10,000 เหรียญนี้ผมทำให้ฟรี แต่ผมขอแลกกับเหรียญหลวงพ่อหยอดที่เป็นต้นแบบ ฉันได้กล่าวตกลง เมื่อเดินทางกลับมาถึงวัด ก็ได้แจ้งกับกรรมการวัดรวมทั้งญาติโยม กรรมการวัดแจ้งว่า สร้างน้อยไป ถึงจำหน่ายหมด ก็ไม่พอใช้หนี้ค่าก่อสร้าง

จึงอยากให้ฉันสร้างเพิ่มอีก 10,000 เหรียญ จึงไปบอกโรงงานให้โรงงานสร้างเพิ่มอีก 10,000 เหรียญ โรงงานคิดฉันเหรียญละ 2 บาท รวมเป็นเงิน 20,000 บาท ตอนนี้ฉันมีหนี้เพิ่มอีก 20,000 บาท จากนั้นก็กลับมาบอกกรรมการและญาติโยม กรรมการกับญาติโยมบอกกับฉันว่า ไหนๆจะสร้างแล้ว ก็สร้างเหรียญเงิน เหรียญนวะ เหรียญทองคำด้วย ฉันจึงไปบอกโรงงานให้สร้างตามที่กรรมการและญาติโยมบอกไว้ เบ็ดเสร็จแล้วฉันเป็นหนี้โรงงานรวมเป็นเงิน 330,000 บาท และวิธีใดเล่าที่จะจำหน่ายเหรียญทั้งหมด กรรมการวัดจึงตกลงว่า ให้มีการจัดงานฉลองวันสงกรานต์ 7 วัน 7 คืน การฉลองสงกรานต์ 7 วัน 7 คืน ฉันก็ต้องไปจ้างมโหรสพ วันหนึ่งมีค่าใช้จ่ายวันละประมาณ 3-4 หมื่นบาท นั่นหมายความว่าฉันเป็นหนี้เพิ่มขึ้นมาอีกประมาณ 2 แสนกว่าบาท รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆอีก คิดตัวเลขกลมๆประมาณ 300,000 บาท

รวมทั้งเป็นหนี้เหรียญอีก 330,000 บาท และค่าก่อสร้างโบสถ์ 1ล้านกว่าบาท รวมแล้ว เป็นหนี้เกือบ2ล้านบาทแต่โยมรู้ไหม ฉันได้เงินจากการจำหน่ายเหรียญและเก็บค่ามโหรสพเพียง82,000 บาท สรุปแล้ว โบสถ์ก็สร้างไม่เสร็จ และเป็นหนี้ใหม่เพิ่มมาอีกหลายแสนบาท ในขณะนั้น มีกำนันท่านหนึ่ง ก็มาช่วยฉันโดยจ้าง คริสติน่า อากีล่าร์มาแสดงที่วัด กำนันบอกกับฉันว่า เก็บตังค์ได้เท่าไหร่หลวงพ่อเอาไปให้หมด ส่วนค่าจ้างผมออกเอง โดยจ้างคริสติน่าอากีล่าร์เป็นเงิน 200,000 บาท ปรากฏว่าทางวัดเก็บเงินค่าการแสดง เพียง 100,000 เศษ ขาดทุนอีก แต่ ฉันไม่ได้ออกตังค์นะ กำนันเป็นคนออกตังค์

ตอนนั้นฉันรู้สึกว่า บุญของฉัน หมดแล้ว เพราะว่ายิ่งพยายามที่จะแก้ไขปัญหา มีแต่มีปัญหาเพิ่มขึ้น ราวกับว่า ยิ่งดิ้นรนเท่าไร เชือกยิ่งรัดแน่นเท่านั้น ฉันรู้ว่าเทวดาอารักษ์ที่อยู่ที่วัด อดีตเจ้าอาวาสทุกรูป ครูบาอาจารย์ของฉันที่ฉันเคารพนับถือ พยายามจะช่วยฉัน แต่ช่วยฉันไม่ได้ เพราะฉันได้ใช้บุญนั้น ไปหมดแล้ว ฉันจึงตั้งจิตอธิษฐานว่า เมื่อบุญของฉันหมด ฉันจะสร้างบุญ สะสมบุญของฉันขึ้นมาใหม่ ฉันจึงถวายสังฆทาน โดยนิมนต์พระในวัดของฉันนี่แหละ นิมนต์ครั้งละ5รูป แต่ถวายสังฆทานเพียงรูปเดียว

ดังนั้น…การถวายสังฆทาน ก็คือการสร้างบุญสร้างกุศลที่ยิ่งใหญ่ เมื่อฉันบุญหมด ฉันก็ต้องสร้างบุญของฉันขึ้นมาใหม่ ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ฉันถวายสังฆทานทุกเดือนไม่เคยขาด จนทำให้วัดประดู่ฯแห่งนี้ เจริญรุ่งเรืองจนมาถึงทุกวันนี้

ดังนั้นถ้าโยมรู้สึกว่าโยมบุญหมด มีปัญหา แต่แก้ไม่ได้ เหมือนเรื่องของฉัน จงไปถวายสังฆทาน อย่างน้อยเดือนละครั้งก็ยังดี แล้วผลบุญที่โยมสร้างขึ้นมาใหม่ สะสมมาใหม่ เมื่อถึงเวลา บุญกุศลที่โยมสร้างมา จะมาช่วยโยมเอง

การที่ผมนำเรื่องนี้มาบอกเพื่อนๆได้อ่านกัน ผมได้ขออนุญาตหลวงพ่อ หลวงพ่อก็อนุญาต ดังนั้นเพื่อนๆท่านใด อ่านแล้ว จงช่วยกันแชร์ เป็นการนำเพื่อนเข้าวัด ทำบุญ ทำกุศลกันครับ

ขอบคุณที่มา เรื่องเล่าขานตำนานพระเกจิฆราวาส-วัตถุมงคลเครื่องราง” ประชาสัมพันธ์งานบุญ”

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: