1576.ปาฏิหาริย์ตะกรุด “พระมหาวัฒน์ วัดสว่างหัวนาคำ”คนขับรถหลับใน รถคว่ำ รอดตายทั้งสามีภรรยา มีเพียงแค่ตะกรุด
กล่าวถึงบารมีธรรมของพระมหาวัฒน์ วิวฑฺฒนเมธี พระมหาเปรียญนักปฏิบัติ ผู้คมทั้งปริยัติและปฏิบัติ ศิษย์สายธรรมสำเร็จลุน แห่งนครจำปาศักดิ์ จะไม่พูดถึงเรื่องตะกรุดคงไม่ได้ เพราะตะกรุดที่ท่านสร้างไว้ล้วนบังเกิดประสบการณ์ปาฏิหาริย์ให้ผู้คนได้เห็นอยู่บ่อยครั้ง เคยมีคนไปถามท่านว่า
“พระมหา ทำไมไม่สร้างเป็นแบบเหรียญบ้าง ทำไมจึงสร้างแต่ตะกรุด”
ท่านตอบว่า “พระกะอยากสร้างอยู่ แต่หยังบ่คิดจะสร้างเป็นรูปเจ้าของเด่ะ บ่มีคุณไปฮักษาไผได่ดอก ถ้าจะให้สร้างอิหลี กะสิสร้างเป็นรูปพระพุทธเจ้า พระอรหันตสาวกพุ่น หรือครูบาอาจารย์ผุนหละ แต่ว่าการสร้างพระนั้น..มันหลายขั้นตอน สร้างตะกรุดนั้นง่ายดี ได่เฮ็ดกับมือทุกขั้นทุกตอน มั่นใจดี ” (พระก็อยากจะสร้างอยู่ แต่ตอนนี้ไม่คิดจะสร้างเป็นรูปตัวเองนะ เพราะไม่มีคุณไปรักษาใครได้หรอก หากจะสร้างจริงๆ ก็จะขอสร้างเป็นรูปพระพุทธเจ้า พระอรหันตสาวก หรือ ครูบาอาจารย์ แต่การสร้างพระนั้นหลายขั้นตอน สร้างตะกรุดนั้นง่ายดี ได้ทำเองกับมือ มั่นใจดี)
จะเล่าถึงบารมีตะกรุดพระมหาวัฒน์ รถพลิกข้ามเกาะกลางถนนพังยับ!! แต่คนรอดอย่างปาฏิหาริย์
มีครอบครัวอยู่ครอบครัวหนึ่ง ครอบครัวทำการค้าขาย ได้ยินกิตติศัพท์เรื่องการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบของพระอาจารย์มหาวัฒน์ วัดสว่างหัวนาคำ ทั้งทางด้านน้ำมนต์ขลัง เมตตาค้าขาย จึงพากันเดินทางไปกราบที่วัดสว่างหัวนาคำ พอเจอพระอาจารย์มหาวัฒน์ ท่านนั่งอยู่ ก็รีบเข้าไปกราบ สนทนาเรื่องนั่นเรื่องนี้อยู่นานพอสมควร ก่อนลากลับบ้านเลยขอของดีกลับไปเป็นที่ระลึก พระอาจารย์มหาวัฒน์ ท่านก็พูดขึ้นประโยคหนึ่ง ที่ท่านชอบพูดเสมอๆ เมื่อมีคนไปขอของดี “ของดีมันอยู่ที่ใจ ถ้าใจดี บ่ต้องแขวนของดี มันกะดีคือเก่า”
แล้วท่านพระอาจารย์มหาวัฒน์ก็ลุกขึ้น เดินเข้าไปหยิบเอาตะกรุดในห้องพระที่ท่านได้ทำไว้ ก่อนจะให้ก็แนะนำย้ำเตือนว่า “อย่าประมาทเด้อ มีโอกาสก็ไหว้พระสวดมนต์แผ่เมตตานำเด้อ ขับรถขับเรือก็ให้ค่อยไปค่อยมา”
เมื่อกล่าวบอกเสร็จ ก็มอบตะกรุดลงยันต์ ลงยันต์ ”พระอรหังคุ้มภัย” ให้ไป พ่อแม่ลูกเมื่อได้รับตะกรุด ก็พากันกราบลาเดินทางกลับบ้าน ผ่านไปหลายอาทิตย์ มีอยู่วันหนึ่ง สามีและภรรยาต้องออกจากบ้านไปขายของ ตามปกติอาชีพ ด้วยคนขับเกิดหลับใน เมื่อถึงทางโค้ง รถจึงเกิดอุบัติเหตุ พลิกคว่ำเกาะกลางถนน รถพังยับ แต่สามีภรรยาคู่นั้น. กลับไม่ได้รับปาดเจ็บอะไรเลย เมื่อทางกู้ภัยและตำรวจไปถึง .พอช่วยคนออกมา ตรวจดูอาการ แล้วก็ถามหาว่า “พี่มีของดีอะไรติดตัว?” ทั้งสามีและภรรยาก็รีบเอามือจับที่คอ เพื่อหาตะกรุดที่ได้รับจากพระมหาวัฒน์ไป แล้วพากันยกมือขึ้นท่วมกันหัวเลยทีเดียว
เล่ากันต่อถึงเรื่องอานุภาพตะกรุดพระมหาวัฒน์ ที่มีผู้คนได้ประสบพบเจอประสบการณ์ปาฏิหาริย์ ให้เห็นเป็นความรู้แก่ลูกศิษย์ลูกหาของพระอาจารย์มหาได้ทราบ ว่าอิทธิคุณบุญฤทธิ์เรื่องแบบนี้ มีมาแต่โบราณ พระมหาวัฒน์ เมื่อท่านจะสร้างตะกรุด ท่านต้องทำพิธีอธิษฐานขอครูบาอาจารย์ก่อน แจ้งเจตจำนงวัตถุประสงค์ของการสร้าง จึงทำพิธีเขียน จาร รูปเลขอักขระยันต์ด้วยตัวท่านเองทุกดอก ภาวนาปลุกอักขระยันต์กำกับๆไปด้วย
ตะกรุดพระมหาวัฒน์ เล่ากันถึงอิทธิคุณ โดดเด่นมากในทางเมตตา เล่ากันว่าแม้แต่หมาดุ ยังกระดิกหางให้ มีเรื่องเล่าว่า เคยมีคนใส่ตะกรุดพระมหาวัฒน์ ไปเยี่ยมบ้านเพื่อนที่ต่างจังหวัด แต่ที่บ้านเพื่อนเขานั้น มีหมาตัวหนึ่งที่ดุมาก เที่ยวเห่าและกัดคนเป็นว่าเล่น ใครไปใกล้บ้านเป็นต้องเห่า . วันไหนถ้าเจ้าขอบบ้านไม่อยู่ ต้องผูกไว้กับเสาบ้าน ถ้าวันไหนไม่ผูกเป็นเรื่องทุกที แต่พอชายคนนั้นเดินเข้าไปในบริเวณบ้านเพื่อน หมาตัวนั้นกับไม่เห่าสักแอะ แถบยังกระดิกหาง วิ่งมาเลียแข้งเลี้ยงขา ทำเอาเจ้าของบ้านพอเห็นแล้ว ก็แปลกใจไม่น้อย เลยเอยถามเพื่อนว่ามีของดีอะไร เขาก็เลยเอาตะกรุดที่ติดตัวมาให้เพื่อนดู
พระมหาวัฒน์ วิวฑฺฒนเมธี วัดสว่างหัวนาคำ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เป็นพระเกจิอาจารย์มหาเปรียญนักปฏิบัติ ผู้อ่อนน้อมถ่อมตน ท่านสั่งสอนให้ผู้คนเน้นการไหว้พระสวดมนต์ เจริญภาวนาสวดมนต์
ถือเป็นกิจที่พุทธบริษัททั้งหลายพึงกระทำให้ติดเป็นนิสัย หาใช่จะเป็นเพียงแค่กิจวัตรของพระสงฆ์เท่านั้น ก่อนที่เราจะเที่ยวไปกราบขอพรหลวงปู่ หลวงพ่อ วัดนั้น วัดนี้ ตัวเราเองต้องมีบุญบารมีไปรองรับในพรที่ขอด้วย จะคิดพึงแต่บุญบารมีของผู้อื่น คงอีกนานจึงจะประสบผลสำเร็จ
และการไหว้พระสวดมนต์ นี้แหละท่านทั้งหลาย คือการสั่งสมบุญบารมีให้แก่ตัวเรา เพราะเมื่อคราครั้งใดที่เรากล่าวสวดสาธยายพระพุทธมนต์ พระปริตร เจริญพระรัตนตรัยคุณ แม้แต่เทพเทวดาอารักษ์ท่านก็ลงมาร่วมอนุโมทนายินดีกับตัวเราด้วย ยิ่งคนผู้นั้น รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนาด้วยแล้ว ยิ่งประเสริฐนัก
ฉะนั้น การไหว้พระสวดมนต์ นั่งสมาธิ และทำบุญตักบาตร รักษาศีล จึงถือเป็นการหนุนดวง เสริมบารมีให้แก่ตัวเราเอง อย่างถูกวิธีที่สุด ถูกต้องตามครรลองครองแห่งพระพุทธศาสนา ที่ครูบาอาจารย์โบราณปราชญ์บัณฑิตท่านถือปฏิบัติมา ฯจบ
เรื่อง การเจริญพระวิปัสสนากรรมฐาน
ญาติโยมทั้งหลาย ในบรรดากรรมฐานทั้งหลาย อานาปานสตินี้แหละเป็นกรรมฐานที่อาตมาใช้เจริญอยู่เป็นประจำ เพราะอานาปานสตินั้น แม้พระพุทธเจ้าก็เจริญอยู่เป็นนิตย์ เป็นตถาคตวิหาร (ธรรมเป็นเครื่องอยู่ของพระตถาคต) เป็นกรรมฐานที่มีอานิสงส์มาก พระพุทธเจ้าทรงตรัสบอกเอาไว้ในพระสุตตันตปิฎก เล่มที่๖ มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อานาปานสติอันภิกษุเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก”
ญาติโยมทั้งหลาย การเจริญอานาปานสติกรรมฐานนั้น เจริญได้ง่าย จิตเป็นเอกัคตาสมาธิได้เร็ว เมื่อเจริญแล้ว หรือในขณะเจริญ จิตก็บังเกิดปีติ แช่มชื่นเบิกปานใจฯ
ที่มา พุทธคุณแดนสยาม / ทีนิวส์
