1570.หลวงพ่อพระอุปัชฌาย์​นุ่ม วัดนางใน พระเถราจารย์ชื่อ​ดังเมืองวิเศษชัยชาญ​

หลวงพ่อพระอุปัชฌาย์​นุ่ม วัดนางใน พระเถราจารย์ชื่อ​ดังเมืองวิเศษชัยชาญ​
ถิ่นรุ่งเรืองเฟื่องฟุ้งคุ้งวิเศษฯ
แดนพระเวทย์ยืนยงมีมนต์ขลัง
วัดนางใน ถิ่นกำเนิดอาจารย์ดัง
พระผู้สร้างผู้เสกอเนกประการ
ธัมมาราโมนั้นลือเลื่อง
นามกระเดื่องมุทิตามาประสาน
ก่อกำเนิดเกิดหอบูรพาจารย์
ศิษย์กราบกรานรำลึกนึกถึงพระคุณ

ฉบับนี้ผู้เขียนจะขอกล่าวถึงต้นกำเนิดของการสร้างหอบุรพาจารย์ของวัดนางในธัมมิการาม อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง ว่ามีความเป็นมาอย่างไร ซึ่งหอบูรพาจารนี้ถือเป็นสถานที่อันเป็นที่รวมแห่งความเป็นสิริมงคลทั้งของที่วัดนางใน และ วัดต่างๆในจังหวัดอ่างทอง เมืองแห่งครูบาอาจารย์ที่ทรงคุณอย่างยิ่ง จริงๆแล้วสถานที่ตั้งหอบูรพาจารย์นี้ ดั้งเดิมนั้นเป็นกุฏิหลังเก่าทรงปั้นหยา ซึ่งหลวงพ่อนุ่ม และหลวงพ่อชม อดีตเจ้าอาวาสองค์สำคัญของวัดนางใน ท่านใช้จำพรรษามาหลายสิบปี

เมื่อกาลเวลาผ่านไป สิ่งของต่างๆก็ทรุดโทรม จนกุฏิหลังเก่าที่ครูบาอาจารย์ท่านเคยจำพรรษา ไม่สามารถจะบูรณะซ่อมแซมให้เป็นดังเดิมได้อีก ทางท่านเจ้าอาวาส คือ พระมหาวีระ วีรญาโณ ได้ปรึกษากับญาติโยม ว่าจะสร้างถาวรวัตถุอะไรสักอย่างเพื่อเป็นที่ระลึกถึงครูบาอาจารย์ทั้งสอง แทนกุฏิหลังเก่าที่ทรุดโทรมลงจนยากจะแก้ไข สุดท้ายก็ลงความเห็นกันว่าให้สร้างหอบูรพาจารย์นี้ขึ้น

เพื่อเชิดชูบารมีครูบาอาจารย์ผู้ทรงพระคุณ อันมีหลวงพ่อนุ่ม ธัมมาราโม และหลวงพ่อชม ธัมมธีโร เป็นที่สุด ซึ่งท่านเจ้าอาวาสตั้งโจทย์ว่าขอให้หอบูรพาจารย์หลังนี้ เป็นทรงปั้นหยา ตามสถาปัตยกรรมของกุฏิหลังเดิมที่รื้อถอนออกไป วัตถุประสงค์สำหรับการจัดสร้างหอบูรพาจารย์นี้เพื่อ ไว้เป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อ หลวงพ่อนุ่ม ขนาดเท่าองค์จริงที่หล่อสมัยท่านยังทรงสังขารอยู่เมื่อปี 2475 อัฐิธาตุ และฟันขององค์หลวงพ่อ (มีเรื่องเล่ามากมายครับเกี่ยวกับท่านเอาไวไปติดตามในภาคประวัติแบบเต็มสูตรในฉบับหน้านะครับ)

และประดิษฐาน รูปหล่อหลวงพ่อชม ขนาดเท่าองค์จริง กระนั้นยังไม่พอ ยังจะให้มีการจัดแสดงเครื่องอัฐบริขาร ของหลวงพ่อนุ่ม และหลวงพ่อชม จัดทำประวัติปฏิปทา และประวัติการสร้างวัตถุมงคลที่เลื่องลือสมัยท่านยังทรงสังขารอย่างครบถ้วนกระบวนความ ถ้าจะกล่าวถึงหลวงพ่อนุ่มวัดนางในนั้น ท่านเป็นที่เคารพสักการะ ของศิษยานุศิษย์ อย่างแน่นแฟ้น หลวงพ่อท่านเป็นนักพัฒนา นักก่อสร้าง ศีลาจารวัตรงดงามสมกับสมณะสารูป ท่านสร้างเสนาสนะต่างๆเช่น กุฏิ ศาลา และท่านยังสร้าง โรงเรียน สะพาน ถาวรวัตถุอีกมากมาย

อีกประการหนึ่งท่านยังเป็นผู้ให้การศึกษาแก่พระเณรในสมัยนั้นคือ ให้มีการเรียนพระปริยัติธรรม แผนกบาลี ซึ่งครั้งหนึ่ง สมเด็จพระวันรัต (กิมเฮง) เขมาจารี ท่านได้มอบภาพถ่าย ของท่าน ไว้เป็นที่ระลึก เมื่อครั้งท่านเดินทางมาตรวจการคณะสงฆ์ นอกจากหลวงพ่อนุ่มท่านจะให้การศึกษาแล้ว เวทย์วิทยาคมของหลวงพ่อ ก็มิได้เป็นรองใครในสมัยนั้น ซึ่งท่านได้สืบสายวิชามาจาก หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์เทพเจ้าเมืองสี่แคว( รายละเอียด หลักฐาน ว่าท่านเป็นสหธรรมมิคกัน )

วัตถุมงคลของท่าน ทั้งพระหล่อโบราณ น้ำมนต์ ตระกรุด ผ้ายันต์ เบี้ยแก้ เหรียญรุ่นแรก ล้วนเป็นที่กล่าวขานถึงประสบการณ์อย่างชนิดที่เรียกว่า “ดัง” ในสมัยนั้นเลยทีเดียว ต่อมาขอ กล่าวถึงพระคณาจารย์องค์สำคัญอีกองค์หนึ่งซึ่งท่านเป็นเจ้าอาวาสองค์ต่อมาจากหลวงพ่อนุ่ม พระคณาจารย์ท่านนั้นคือ หลวงพ่อชม ธัมมธีโร หลวงพ่อชมท่านเป็นพระนักปฏิบัติ มีศีลาจารวัตรงดงามมิมีด่างพร้อย ท่านเป็นลูกศิษย์ที่เรียกได้ว่ามือขวาของหลวงพ่อนุ่มก็คงไม่ผิดไปนัก

เพราะอยู่ในยุคที่เรียกว่ายุคบุกเบิกเลยทีเดียว ท่านได้รับการอุปสมบทจากหลวงพ่อพัก วัดโบสถ์ ยอดเกจิเมืองอ่างทองหลังจากอุปสมบทเป็นที่เรียบร้อย หลวงพ่อนุ่มท่านเล็งเห็นว่าหลวงพ่อชมท่านจะได้ช่วยงานพระศาสนาได้ในอนาคต ท่านจึงขอหลวงพ่อชม มาจำพรรษาอยู่กับท่านตั้งแต่นั้นมา หลวงพ่อชมท่านก็ได้รับภาระงานพระศาสนา สืบต่อจากองค์หลวงพ่อนุ่ม มาจนตลอดท่านละสังขาร มูลเหตุการณ์สร้าง หอบูรพาจารย์ ผู้เขียนขอเขียนไว้เป็นที่สังเขปพอเข้าใจเพียงเท่านี้​ (ที่มา: เป็น​ วิเศษ)​
************************************************

ประวัติ หลวงพ่อนุ่ม ธมฺมาราโม วัดนางในธัมมิการาม
หลวงพ่อนุ่มท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของจังหวัด อ่างทอง
พระอุปัชฌาย์นุ่ม ธมฺมาราโม ท่านเกิดเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2426 อ่อนกว่าหลวงพ่อพัก 1 ปี โยมบิดาของท่านชื่อสอน โยมมารดาชื่อแจ่ม นามสกุลศรแก้วดารา หลวงพ่อนุ่มเกิดที่บ้านสามจุ่น ตำบลวังน้ำซับ อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี ตอนที่ท่านอายุได้ 10 ขวบ ได้ศึกษาภาษาไทยและภาษาขอมกับพระอธิการพ่วง ผู้เป็นพระพี่ชายที่วัดสามจุ่น ซึ่งอยู่ใกล้บ้านของท่าน และเมื่ออายุท่านครบ 20 ปี

จึงได้อุปสมบทที่วัดปลายนา ตำบลปลายนา อำเภอศรีประจันต์ สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2446 โดยมีพระครูธรรมสารรักษา (อ้น) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระปลัดดี วัดปู่เจ้า เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการช้าง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ และจำพรรษาอยู่ที่วัดสามจุ่น ศึกษาพระธรรมวินัยและพระปริยัติธรรม พรรษาที่ 8 ท่านได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดหลวง ตำบลศาลเจ้าโรงทอง เพื่อสะดวกในการจัดหาวัสดุอุปกรณ์ไปช่วยก่อสร้างอุโบสถวัดสามจุ่น ประชาชนในท้องที่นั้นเคารพศรัทธาเลื่อมใสช่วยสละปัจจัยในการก่อสร้างพระ อุโบสถวัดสามจุ่นจึงสำเร็จด้วยดี เมื่อสร้างพระอุโบสถเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านก็ได้กลับไปจำพรรษาอยู่ที่วัดสามจุ่นตามเดิม
พอถึงปี พ.ศ. 2459 ท่านก็ย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดหลวงอีก 10 ปี ต่อมาจึงได้ย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดนางในธัมมิการาม ตำบลศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ ในปี พ.ศ. 2469 ในสมัยนั้นวัดนางในชำรุดทรุดโทรมมาก ท่านจึงเริ่มบูรณปฏิสังขรณ์วัดนางใน

จนเป็นวัดที่พร้อมด้วยเสนาสนะอันสวยงาม เจริญรุ่งเรืองมาจนทุกวันนี้ ถึงปี พ.ศ. 2477 ท่านจึงได้รับตราตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ ผลงานต่างๆ ของหลวงพ่อมีมากมายหลายสิ่งหลายอย่าง ทั้งในวัดนางในและนอกวัด หลวงพ่อนุ่มปกครองวัดนางในเป็นเวลา 30 ปี จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2497 ท่านจึงมรณภาพ สิริอายุได้ 71 ปี พรรษาที่ 51 ในงานประจำปีของวัดนางในทุกปี จะจัดงานตรงกับเทศกาลตรุษจีน เป็นงานที่ใหญ่โตทางวัดเปิดโอกาสให้ประชาชนปิดทองรูปหล่อหลวงพ่อนุ่ม มีประชาชนและชาวอ่างทองไปร่วมงานเป็นหมื่นคนทุกปี
*************************
Cr ภาพถ่าย: tom​ seeroy
ที่มา ตำานานเล่าขานพระผู้ทรง​ฌาน​อภิญญา​ครู​บาอาจารย์​ผู้เรืองวิชาอาคม

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: