1366. อารมณ์ขัน ของ หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง
เรื่องที่ 1
” บ้านนี้อยู่แล้วรวย “
มีคนเอาป้าย ” บ้านนี้อยู่แล้วรวย ” มาให้หลวงพ่อปลุกเสก ท่านก็ปลุกเสกให้ หลังจากที่ปลุกเสกแล้ว ท่านก็นั่งดูอยู่สักครู่หนึ่ง แล้วพูดกับโยมที่นั่งอยู่ ณ ที่นั้นว่า
หลวงพ่อ : เอ…ถ้าได้ไปแล้วมันไปนอนอยู่เฉย ๆ ไม่ลุกขึ้นมาทำมาหากินแล้วมันจะรวยได้ไหมฮึ
ญาติโยม : ?????????
เรื่องที่ 2
” ไม่ซื้อให้ก็ร้อง ซื้อให้ก็ร้อง “
หลวงพ่อ : ” เด็กสมัยนี้อยากได้รถเครื่อง ร้องอ้อนวอนให้พ่อแม่ซื้อรถเครื่องให้ ไม่ซื้อให้ก็จะไม่เรียนหนังสือ ไม่ซื้อให้ก็จะไม่ทำงาน พ่อแม่ทนรำคาญไม่ได้ก็ซื้อให้
หลวงพ่อ : ” เป็นอย่างไง ซื้อรถเครื่องให้มันแล้ว ”
โยม : ” ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล ขาหักทั้งสองข้าง มันอยากได้รถเครื่องร้องไห้ฉันซื้อให้ ตอนนี้ต้องมานั่งเฝ้ามันทุกวัน ยังไม่รู้ว่า มันจะนอนร้องครวญครางอีกกี่วันก็ไม่รู้ ”
หลวงพ่อ : ” หลวงพ่อก็ไม่รู้ ต้องถามหมอ เด็กสมัยนี้ไม่ซื้อให้มันก็ร้อง ซื้อให้แล้ว มันก็ร้อง ”
เรื่องที่ 3
” เรื่องปกติหลวงพ่อหลิว ”
หลวงพ่อหลิว เป็นพระที่ไม่ต้องการลาภ ยศ ไม่สะสมเงินทอง มีเท่าไหร่ใช้หมด เวลามีเงินใครมาขอก็ให้ บางวัดไม่ขอก็นำไปให้ ให้เงินแล้วไม่ต้องการอะไรตอบแทน โล่และใบประกาศเกียรติคุณ บางที่ก็ไม่ต้องการ ถ้ารู้ว่าเงินที่ให้ไปใช้ตามวัตถุประสงค์ของหลวงพ่อ
มีอยู่ครั้งหนึ่ง โรงเรียนแห่งหนึ่งขอวัตถุมงคลของหลวงพ่อไปจำหน่ายได้เงินมาจำนวนหนึ่งไปต่อเติมอาคารเรียน ( หลวงพ่อรู้แล้วว่าเงินใช้ไปตามวัตถุประสงค์ ) โรงเรียนทำเสร็จก็รายงานตามลำดับขั้นถึงอธิบดีจนได้โล่และประกาศเกียรติคุณ ทางโรงเรียนก็จัดงานเพื่อมอบโล่และประกาศเกียรติคุณบัตร เชิญอธิบดีและนิมนต์หลวงพ่อไปรับมอบ งานเริ่ม เวลา 13.00 น. คนสนิท (หลานชายหลวงพ่อ ) พาไปตั้งแต่ 12.00 น. หลวงพ่อกระสับกระส่าย คนใกล้ชิดก็อึดอัดรออธิบดีคนเดียว ครั้นเวลา 15.00 น. อธิบดีก็มา
หลวงพ่อ : ( พออธิบดีมาถึงก็มีคนแนะนำให้รู้จักหลวงพ่อ )
“เป็นอธิบดีทำไมไม่ดี ”
อธิบดี : “(งงเพราะไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ) ” ไม่ดีอย่างไร ”
หลวงพ่อ : ” ไม่ดีตรงไม่รู้เวลา ให้หลวงพ่อรอตั้ง 3 ชั่วโมง ทำอย่างนี้ได้อย่างไร ”
เรื่องที่ 4
” เหรียญพญาเต่าเรือน รุ่นบูรณะพระราชวังสนามจันทร์ “
นายณัฏฐ์ ศรีวิหค ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นบุคคลที่หลวงพ่อหลิวรักและเกรงใจมาก เมื่อท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม มีโครงการบูรณะและปรับปรุงพระราชวังสนามจันทร์ ซึ่งจะต้องใช้งบประมาณ 10 ล้านบาท ท่านผู้ว่าราชการนครปฐมและคณะไปกราบหลวงพ่อ แล้วเล่าวัตถุประสงค์ของโครงการให้หลวงพ่อฟัง หลวงพ่อเลยจัดการสร้างเหรียญพญาเต่าเรือนรุ่นบูรณะพระราชวังสนามจันทร์ รุ่นพิเศษและรุ่นไตรมาส ให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด นำไปให้ศิษยานุศิษย์เช่าไว้บูชา ขณะนี้ ( มีนาคม 2539 ) มีเงินอยู่แล้วประมาณ 13 ล้านบาท ซึ่งก็เริ่มโครงการบูรณะพระราชวังสนามจันทร์แล้ว ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ก็ได้ใช้ให้นายปัญจะ จงมีสุข ศึกษาธืการอำเภอกำแพงแสนไปรายงานความคืบหน้าให้หลวงพ่อทราบ
ศึกษาธิการอำเภอ : หลวงพ่อครับขณะนี้ได้เงินบูรณะพระราชวังสนามจันทร์แล้ว 13 ล้าน
หลวงพ่อ : เออดี
ศึกษาธิการอำเภอ : ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดก็เริ่มบูรณะแล้ว
หลวงพ่อ : เออดี
ศึกษาธิการอำเภอ : ถ้ามีเงินเหลือจะจัดตั้งกองทุนเพื่อนำดอกเบี้ยมาดูแลรักษา
หลวงพ่อ : เออดี
ศึกษาธิการอำเภอ : ถ้าหลวงพ่อมีกิจนิมนต์ผ่านไปทางนครปฐมแวะไปดูด้วยซิ
หลวงพ่อ : เออดี
ศึกษาธิการอำเภอ : งั้นผมรายงานแค่นี้
หลวงพ่อ : เออดี
ศึกษาธิการอำเภอ : ????????????
เรื่องที่ 5
” เหรียญพญาเต่าเรือนรุ่นสร้างห้องสมุดพระเทพฯ “
อำเภอกำแพงแสนมีห้องสมุดมานานแล้ว โดยอาศัยที่ว่าการอำเภอสโมสรข้าราชการ เช่าอาคารพาณิชย์อยู่บ้าง จนกระทั่งจังหวัดนครปฐม ขอสร้างห้องสมุดเฉลิมราชกุมารี ลำดับที่ 141 คณะทำงานประกอบด้วย นายยิ่ง กีรติบูรณะ ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดนครปฐมนายปัญจะ จงมีสุข ศึกษาธิการอำเภอกำแพงแสน นางชมพูนุท จารีบูรณกาน หัวหน้าศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียน อำเภอกำแพงแสน นำเรื่องไปกราบเรียนให้หลวงพ่อทราบ หลวงพ่อได้มอบเงินจำนวน 1 ล้านบาทให้สมทบทุนสร้างห้องสมุดพระเทพฯ
ญาติโยม : หลวงพ่อทูลเกล้าถวายเงิน 1 ล้านบาทให้พระเทพฯ เพื่อสร้างห้องสมุดเฉลิมราชกุมารี อำเภอกำแพงแสนใช่ไหม
หลวงพ่อ : อือ
ญาติโยม : ทูลเกล้า 1 ล้านจะพอหรือ
หลวงพ่อ : เงินนะเท่าไหร่ก็ไม่พอ พอสร้างเสร็จก็ซื้ออุปกรณ์พอซื้ออุปกรณ์หมดแล้ว ก็ตั้งกองทุนมูลนิธิเงินใช้เท่าไหร่ก็ไม่พอ
ญาติโยม : ?????????
เรื่องที่ 6
” สงสัย “
ลูกศิษย์ : ” ผมเห็นสัญลักษณ์หลวงพ่อขี่เต่า อยากถามว่าหลวงพ่อทำไมหลวงพ่อต้องขี่เต่าด้วย ”
หลวงพ่อ : ” หลวงพ่อขี่เต่า ถึงมีรูปออกมาให้เห็น ถ้าเต่าขี่หลวงพ่อซิ จะไม่มีรูปหล่อให้เห็นหรอก
ลูกศิษย์ : “………”?
เรื่องที่ 7
” ไม่รู้เหมือนกัน ”
มีโยมแก่ๆคนหนึ่งไปกราบหลวงพ่อ หลวงพ่อก็อวยพรให้มีอายุมั่นขวัญยืน ความเจ็บอย่าให้ได้ ความไข้อย่าให้มี
หลวงพ่อ : ( อวยพร ) ให้โยมมีอายุมั่นขวัญยืนนะ
โยม : ( ตอบรับ ) จ้ะ
หลวงพ่อ : แล้วโยมตอนนี้อายุเท่าไหร่แล้วหล่ะ
โยม : อายุ 72 หรือ 74 ก็ไม่รู้จ๊ะ
หลวงพ่อ : หลวงพ่อก็ไม่รู้เหมือนกันว่าโยมอายุเท่าไหร่
โยม : ?????????
เรื่องที่ 8
” หล่อไหม “
ญาติโยม : หลวงพ่อครับผมอุตส่าห์ มาจากชลบุรี ได้ยินกิตติศัพท์ของหลวงพ่อมานานแล้ว เห็นแต่รูปที่โฆษณา เพิ่งจะได้มาเห็นองค์จริงก็วันนี้ ดีใจมากครับ
หลวงพ่อ : เป็นอย่างไรหล่อไหม
( หลวงพ่อชี้ไปที่ตัวท่านเอง ) แล้วบอกว่าองค์นี้ยังหล่อไม่เสร็จ
( หลวงพ่อชี้ไปที่ตู้จำหน่ายวัตถุมงคล ) อยู่ในตู้นั้นหล่อเสร็จแล้ว
ญาติโยม : รูปเหมือนหลวงพ่อนี่
หลวงพ่อ : นั่นแหละ เช่าไปเถอะจะได้ช่วยหลวงพ่อสร้างวัด
ญาติโยม : ครับ
เรื่องที่ 9
” ลาวไม่ใช่แขก “
หลังจากที่หลวงพ่อไปคุยกับญาติโยมที่มากราบแล้วลากลับไป แขกชุดใหม่ก็เข้ามา
ญาติโยม : เมื่อตะกี้นี้แขกมาจากไหน
หลวงพ่อ : อือ ( ยิ้ม ๆ ) แล้วถามว่า ” อะไรนะ ”
ญาติโยม : แขกมาจากไหน
หลวงพ่อ : แขกเขิกอะไรที่ไหน ลาวราชบุรี ต่างหาก
เรื่องที่ 10
” เหรียญพญาเต่าเรือน รุ่นเจ้าสัว “
หลังจากที่หลวงพ่อได้สร้างตึกผู่ป่วยใน ให้โรงพยาบาลกำแพงแสน ท่านก็ได้ไปจำพรรษาที่วัดไทรทองพัฒนา อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี หลวงพ่อก็อนุญาตให้สถานีอนามัยไทรทองพัฒนาได้สร้างเหรียญพญาเต่าเรือน รุ่นเจ้าสัว เพื่อนำรายได้ไปสร้างสถานีอนามัยไทรทองพัฒนาและหอประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อญาติโยมรู้ว่า หลวงพ่อสร้างรุ่นนี้ก็พากันไปกราบหลวงพ่อ
ญาติโยม : เหรียญรุ่นเจ้าสัวกับรุ่นปลดหนี้ มันเป็นอย่างไร
( ต้องการทราบว่ารุ่นไหนมีประสบการณ์และอภินิหาริย์อย่างไร )
หลวงพ่อ : มันก็เป็นเต่าเหมือนกันนั่นแหละ
เรื่องที่ 11
” ผมไม่ใช่หลวงพ่อ “
ครั้งหนึ่งหลวงพ่อหลิวไปวัดไร่เกาะต้นสำโรง หลวงพ่อพูดกับพระที่มาคาราวะหลวงพ่อว่า
หลวงพ่อ : ” หลวงพ่อแช่มก็ตายไปแล้ว ”
หลวงพ่อเต้าก็ตายไปแล้ว
ผมหน่ะไม่ตายหรอก ”
พระ : ( อุทาน ) หลวงพ่อไม่ตายหรือ !
หลวงพ่อ : ” ใครบอกว่าหลวงพ่อไม่ตาย ”
พระ : ( อุทานอีก ) อ้าว ! หลวงพ่อพูดเมื่อกี้ยังไง
หลวงพ่อ : หลวงพ่อพูดอย่างนั้นหรือ ?
พระ : ครับ
หลวงพ่อ : ” ผม ” ไม่ใช่ ” หลวงพ่อ ”
เรื่องที่ 12
” ไม่น่าสงสัย “
ลูกศิษย์ : ” หลวงพ่อ ทำไมมีคนมาถวายอาหารหลวงพ่อมากมายอย่างนี้ ”
หลวงพ่อ : ” เขารักหลวงพ่อมั้ง ”
ลูกศิษย์ : ” หลวงพ่อจะฉันหมดหรือ ” ( ถามประสาซื่อ )
หลวงพ่อ : ” ใครจะมาถวายแค่ไหน หลวงพ่อก็อิ่มเดียวเท่านั้น ขืนฉันหมดก็อดฉันซิ ”
ลูกศิษย์ : ” จะอดอย่างไรครับ ”
หลวงพ่อ : ” อดมื้อต่อไป ” เพราะเห็นว่า ” กินมากเลี้ยงไม่ไหว ”
เรื่องที่ 13
” มันแปลกนะ “
วันหนึ่งลูกศิษย์ได้เข้าไปถามหลวงพ่อหลิวเกี่ยวกับหลวงพ่อเต้าซึ่งมรณะภาพไปแล้ว
ลูกศิษย์ : ” หลวงพ่อรู้จักหลวงพ่อเต้าวัดเกาะวังไทรไหม? ”
หลวงพ่อ : ” เพื่อนกัน ให้เขาไปก่อน ”
ลูกศิษย์ : ” ความตายนี่มันแปลกนะ เวลาตายลูกอาจจะตายก่อนพ่อแม่ ตายทีหลังพ่อแม่ หรือตายพร้อมกับพ่อแม่ก็ได้ แต่เวลาเกิด ลูกต้องเกิดทีหลังพ่อแม่ ”
หลวงพ่อ : ” อือ ”
ลูกศิษย์ : ” มันแปลกนะ ”
หลวงพ่อ : ” ไม่เห็นแปลกเลย มันเป็นไปตามกรรม ”
เรื่องที่ 14
” อนุญาตแล้ว “
หลวงพ่อหลิวพร้อมด้วยนายประสพ ชั้นอินทร์งาม ศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม นายยิ่ง กีรติบูรณะ ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดนครปฐม นายปัญจะ จงมีสุข ศึกษาธิการอำเภอกำแพงแสน ได้เดินทางไปยังวัดไร่ขิง เพื่อขออนุญาตสร้างหลวงพ่อวัดไร่ขิงไว้ที่วัดไทรทองพัฒนา อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี
หลวงพ่อหลิวกราบหลวงพ่อวัดไร่ขิงซึ่งเป็นพระประธานในโบสถ์ แล้วพูดให้ได้ยินสองหูว่า
หลวงพ่อ : ” ผมขออนุญาตสร้างรูปหล่อของท่าน เพื่อเอาไปไว้ที่วัดไทรทองพัฒนา เพื่อให้คนได้กราบไหว้บูชา ถ้าหลวงพ่อขัดข้องก็ขอให้บอกมา ถ้าหลวงพ่อนิ่งอยู่แสดงว่าอนุญาต ”
หลวงพ่อหลิวรออยู่ประมาณ 2 – 3 นาที ก็หันมาบอกกับคณะที่ไปด้วยว่า
หลวงพ่อ : ” กลับเถอะ หลวงพ่อวัดไร่ขิงท่านอนุญาตแล้ว ”
เรื่องที่ 15
” เช้าๆหน่อยนะ “
หลวงพ่อหลิวรับนิมนต์ว่า จะไปฉันเช้าที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม แต่ศึกษาธิการอำเภอกำแพงแสนกลัวหลวงพ่อจะไปไม่ทัน จึงได้เข้าไปวัดไทรทองพัฒนา อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อย้ำกับหลวงพ่อหลิวอีกครั้ง
ศึกษาฯ : ” หลวงพ่อต้องไปเช้าๆหน่อยนะ ”
เพราะถนนจากวัดไปด่านมะขามเตี้ยไม่ดีต้องใช้เวลานานกว่าปกติ
หลวงพ่อ : ” ไม่ได้หรอก ”
ศึกษาฯ : ” ทำไมหล่ะ ? ”
หลวงพ่อ : ” จะต้องไปฉันเช้าก่อน ”
เรื่องที่ 16
” ไม่ซื้อไม่เอานะ “
ศิษย์ : ” หลวงพ่อครับ ผมเอามะม่วงเขียวเสวยมาฝาก ”
หลวงพ่อ : ” ซื้อเขามากิโลเท่าไหร่หล่ะ ”
ศิษย์ : ” ไม่แพงหรอกครับหลวงพ่อ ”
หลวงพ่อ : ” คราวหลังไม่ต้องเอามาหรอกนะ ของมันแพงที่ซื้อมาน่ะ ”
วันต่อมา
ศิษย์ : ” หลวงพ่อครับ ผมเอามะม่วงมาถวายครับ ”
หลวงพ่อ : ” ซื้อมาหรือเปล่า ”
ศิษย์ : ” ไม่ได้ซื้อมาครับ ของที่สวนผมเอง ”
หลวงพ่อ : ” ของไม่ซื้อไม่เอานะ ”
ศิษย์ : “??.?.?.?………….”
เรื่องที่ 17
” หลวงพ่อ…ใครไม่รู้จัก “
หลังจากที่มีลูกศิษย์ ส่งธนาณัติค่าจองพระในนามของหลวงพ่อมาให้ที่วัด หลวงพ่อก็ไปไปรษณีย์เพื่อขอรับเงิน ก่อนที่หลวงพ่อจะเซ็นต์ชื่อรับเงิน เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ก็ขอดูใบสุทธิเพื่อตรวจสอบว่า ใช่หลวงพ่อหลิวหรือเปล่า
ไปรษณีย์ : ” ขอดูใบสุทธิด้วยครับ ”
หลวงพ่อ : ” ไม่มีหรอก ”
ไปรษณีย์ : ” หลวงพ่อไม่มีหลักฐานผมก็จ่ายเงินให้ไม่ได้ ”
หลวงพ่อ : ” ถ้าไม่รู้จักหลวงพ่อ หลวงพ่อก็กลับ ”
ไปรษณีย์ : ( งง )
หลวงพ่อ : ” หลวงพ่อหลิวใครบ้างที่ไม่รู้จัก นอกจากไปรษณีย์ที่นี่ ”
เรื่องที่ 18
” สบายมาก “
เจ้าหน้าที่ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนอำเภอกำแพงแสนรับปากกับหลวงพ่อว่าจะไปช่วยงานทอดกฐินของวัดไทรทองพัฒนา อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี โดยจะมาค้างที่วัดเพื่อเตรียมงานล่วงหน้า
หลวงพ่อ : ” มาเลยสบายมากที่นอนมีเยอะ ”
เจ้าหน้าที่ : ” แล้วที่กินล่ะคะ หลวงพ่อ ”
หลวงพ่อ : ” ที่นอนมีให้ ที่กินก็มีให้ มาช่วยงานหลวงพ่อแล้ว 5 ห่วง ทนหายห่วง ”
เจ้าหน้าที่ : “………….”
เรื่องที่ 19
” เก่ง “
หลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า มีพระในกรุงเทพฯ มาเล่าให้หลวงพ่อฟังว่า เขาเก่งนะสามารถยกมือให้รถที่กำลังวิ่ง ๆ หยุดได้
หลวงพ่อ : ” หลวงพ่ออยู่เฉย ๆ ไม่ต้องยกไม้ยกมือรถก็หยุด ”
ญาติโยม : ” หลวงพ่อใช้สมาธิจิตใช่ไหมครับ ”
หลวงพ่อ : ” เปล่า ”
ญาติโยม : ” งง !!! ถามหลวงพ่อว่า ทำไมรถถึงหยุด ”
หลวงพ่อ : ” ก็มันรถแท็กซี่มันจะเอาตังค์หลวงพ่อ ไปหรือไม่ไปมันก็หยุดทั้งนั้น ”
เรื่องที่ 20
” พิธีมอบโล่ “
ในพิธีมอบโล่และประกาศเกียรติคุณบัตร ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง โรงเรียนจัดพิธีใหญ่โต เชิญแขกผู้มีเกียรติมาจำนวนมากเพราะงานนี้หลวงพ่อหลิวมาเอง หลวงพ่อหลิวเป็นพระที่ทำอะไรแล้วไม่ต้องการผลตอบแทนใด ๆ ทั้งสิ้น
พิธีกร : ” เนื่องจากหลวงพ่อหลิว ได้มอบเงินให้โรงเรียนจำนวน 100,000 บาท ( หนึ่งแสนบาทถ้วน ) เพื่อต่อเติมอาคารเรียน ซึ่งโรงเรียนได้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของหลวงพ่อแล้ว บัดนี้ กรมได้ทำโล่และประกาศเกียรติคุณบัตรมาให้แล้ว จึงขอเรียนเชิญท่านผู้อำนวยการโรงเรียนได้มอบโล่ให้กับหลวงพ่อหลิวต่อไป ”
หลวงพ่อ : ” ( รับโล่และประกาศเกียรติคุณบัตร ) แล้วกระซิบว่าหลวงพ่อไม่เอาหรอก หลวงพ่อมอบคืน ”
( เมื่องานเสร็จหลวงพ่อก็กลับ พอรถยนต์หลวงพ่อหลิวออกไป พิธีกรก็รีบถือโล่และประกาศเกียรติคุณบัตรไปให้คนขับรถยนต์ของหลวงพ่อ )
คนขับรถยนต์หลานหลวงพ่อ : ” ขอบคุณครับ ”
หลวงพ่อ : ” เขาให้อะไรมา ”
คนขับรถยนต์หลานหลวงพ่อ : ” โล่และประกาศเกียรติคุณบัตร ”
หลวงพ่อ : ” มึงเอามาทำไม กูไม่เอา เอาคืนไป ”
คนขับรถยนต์หลานหลวงพ่อ : ” ครับ ”
เรื่องที่ 21
” ลิเกมันว่าไว้ “
หลังจากหลวงพ่อได้สนทนากับศึกษาธิการอำเภอและภรรยา เกี่ยวกับประวัติและเหตุการณ์ในอดีตให้ศึกษาธิการอำเภอฟังมีอยู่ตอนหนึ่งหลวงพ่อกล่าวว่า
หลวงพ่อ : ลิเกมันพูดไว้ หลวงพ่อเอามาคิดดู มันก็จริงอย่างที่มันพูดไว้
ศึกษาธิการอำเภอ : มันพูดไว้อย่างไร
หลวงพ่อ : มันพูดว่า ” ปัญญาอยู่ที่ฝรั่ง ” ฝรั่งมันช่างคิด คิดโน้น คิดนี่ มันก็พูดไว้ถูก
ศึกษาธิการอำเภอ : อะไรอีกหลวงพ่อ
หลวงพ่อ : มันพูดว่า ” ช่างอยู่ที่ไทย ” หลวงพ่อว่า คนไทยนี่เก่ง เป็นช่างได้ทุกชนิด
ศึกษาธิการอำเภอ : อะไรอีกหลวงพ่อ
หลวงพ่อ : มันพูดไว้ ” จัญไรอยู่ที่มอญ ” หลวงพ่อว่า มันก็พูดไว้จริง ( ยังไม่ทันพูดต่อศึกษาธิการอำเภอสะกิด )
หลวงพ่อ : ศึกษา ฯ ว่าไงละ
ศึกษาธิการอำเภอ : เมียผมก็มีเชื้อมอญนะหลวงพ่อ
หลวงพ่อยิ้ม : ลิเกมันว่าไว้ หลวงพ่อไม่ได้ว่าหรอก แม่หลวงพ่อก็มีเชื้อมอญ
เรื่องที่ 22
” คิดอย่างหลวงพ่อ “
หลวงพ่อมีลูกศิษย์ที่ท่านรักอยู่ไม่กี่คน ท่านรักใครก็จะพูดถึงอยู่เสมอ ไปเยี่ยมเยียนเมื่อมีโอกาส วันนี้ก็เช่นกัน ขณะที่นั่งอยู่บนรถตู้ กำลังกลับวัด ในรถตู้มีลูกศิษย์คนหนึ่ง และหลานชายคนขับรถของหลวงพ่อ หลวงพ่อได้ชวนคณะที่นั่งในรถไปเยี่ยมลูกศิษย์ที่ท่านรัก
ลูกศิษย์ : ” วันนี้ทำไมหลวงพ่อถึงแวะเยี่ยม….ตอนนี้ ( ลูกศิษย์คุยกับหลาน )
หลาน : ” ก็ท่านบอกว่ายุ่ง จะรีบกลับวัด ไปเยี่ยม…คงนาน ญาติโยมที่วัดก็มาก ไม่รู้ท่านคิดอย่างไร
ลูกศิษย์ : ถ้าเป็นผม ผมไม่แวะหรอก ไม่รู้ท่านคิดอย่างไร
หลวงพ่อ : ( ได้ยินที่พูดกันก็พูดขึ้นว่า ) ก็กูคิดแบบกูไม่ได้คิดแบบมึง
ลูกศิษย์กับหลาน : ?????????????
เรื่องที่ 23
” เสือฝ้าย “
หลวงพ่อหลิวเล่าให้ฟังว่า เสือฝ้ายเป็นเสือที่ดุมากถ้าเสือฝ้ายสั่งให้ทุกคนทำอะไรแล้วทุกคนต้องทำตาม อยู่มาวันหนึ่ง เสือฝ้ายจัดงานวันเกิดและสั่งไว้ว่างานวันนี้เป็นงานเลี้ยงฟรี ทุกคนที่รู้ข่าวต้องมาร่วมงานและห้ามเอาสิ่งของมาร่วมงานทั้งสิ้น นายแดงคนในหมู่บ้านได้ข่าวก็รีบมาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย ครั้นจะมามือเปล่าก็เกรงใจคนอื่นจะตำหนิเอา เลยตัดสินใจถือกล้วยน้ำว้ามาด้วยหวีหนึ่ง พอมาถึงก็ส่งให้เสือฝ้าย เสือฝ้ายโกรธมากที่นายแดงขัดคำสั่ง จึงสั่งให้ลูกน้องจับนายแดงแก้ผ้านอนลงแล้วเอากล้วยยัดตูดทีละลูกจนหมดหวี เหลือลูกสุดท้ายจะหมดหวีนั่นเองนายแดงกลับนอนยิ้ม
เสือฝ้าย : มึงยิ้มอะไรวะ
นายแดง : เดี๋ยวเถอะมึง ไอ้ดำมันจะเอาทุเรียนมา แล้วมันจะรู้สึก
เสือฝ้าย : ?????????
คัดลอกมาจากหนังสืออารมณ์ขัน หลวงพ่อหลิว