1340. “เจ้าคุณนรฯ” อรหันต์กลางกรุงผู้สามารถหยั่งรู้วาระสุดท้ายของชีวิต ที่หลวงตามหาบัว ยังกล่าวยกย่องว่าเป็นพระที่สันโดษ

ในบั้นปลายชีวิต ท่านเจ้าคุณนรรัตนฯ อาพาธด้วยโรคมะเร็งที่ลำคอแผลมะเร็งมีขนาดใหญ่มากแต่ท่านก็มิได้แสดงความเจ็บปวดให้ญาติโยมเห็นยังคงลงโบสถ์ทำวัตรเช้าเย็นและสนทนากับญาติโยมเป็นปกติ การสวดมนต์ทำวัตรในโบสถ์เช้าเย็นนั้น ท่านเจ้าคุณนรฯ จะเป็นผู้นำสวดทุกวันทั้งๆที่ท่านเป็นแผลมะเร็งที่คอขนาดใหญ่มากแต่เวลาสวดมนต์เสียงสวดมนต์ของท่านจะดังมาก…เป็นที่น่าอัศจรรย์

คุณหมอไพบูลย์บุษปธำรงเป็นหมอคนเดียวที่ท่านเจ้าคุณนรฯ อนุญาตให้ชำระแผลมะเร็งให้ท่านตั้งแต่เริ่มแรกที่แผลแตกประมาณกลางปี พ.ศ. ๒๕๑๓ หลังจากชำระแผลเสร็จแล้วท่านจะสวดให้พรแด่ทุกๆคนด้วย “ชินบัญชรคาถา” และ “สัพพะสิทธิคาถา” เพื่อเป็นสิริมงคล

ภาพ “พระพ่อแม่ธรณีปฐวีธาตุ”

เมื่อเรื่องอาการอาพาธของท่านเจ้าคุณนรฯ ทราบถึงพระกรรณสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ จึงได้เสด็จพระราชดำเนินมาเยี่ยมอาการที่พระอุโบสถวัดเทพศิรินทราวาสถึงสองครั้ง และในการเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมอาการในครั้งที่สองเมื่อวันศุกร์ที่ ๑๑ ธันวาคมพ.ศ. ๒๕๑๓ ท่านเจ้าคุณนรฯ ได้กราบบังคมทูลว่า “อาตมาเห็นจะต้องขอลาแล้ว”

หนึ่งสัปดาห์ก่อนท่านเจ้าคุณนรฯ มรณภาพท่านได้เสกก้อนกรวดศักดิ์สิทธิ์เรียกว่า “พระพ่อแม่ธรณีปฐวีธาตุ” ซึ่งมีอานุภาพมาก

เช้าวันที่ท่านละสังขารท่านบอกกับหลานของท่านซึ่งไปส่งอาหารเป็นประจำว่า “ให้เอาอาหารกลับไปวันนี้ไม่ฉันและให้ไปบอกพระด้วยว่าวันนี้ไม่ลงโบสถ์ทำวัตรสวดมนต์”
การที่ท่านไม่ลงโบสถ์ทำวัตรสวดมนต์นับว่าเป็นเรื่องใหญ่มากเพราะท่านเคยพูดเสมอว่า “หากอาตมาขาดทำวัตรเมื่อใด…นั่นก็หมายความว่าอาตมาจะต้องมรณภาพแล้ว”!!

ท่านเจ้าคุณนรฯ ได้ละสังขารไปเมื่อวันที่ ๘ มกราคมพ.ศ. ๒๕๑๔ สิริอายุได้ ๗๔ ปี หลวงตามหาบัวญาณสัมปันโนได้เคยพูดถึงท่านเจ้าคุณนรฯ ว่า ท่านเป็น “พระอรหันต์กลางกรุง” และเป็นพระที่สันโดษมาก

สาธุ : พระอรหันต์กลางกรุง
ท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต วัดเทพศิรินทร์

ที่มาและภาพประกอบ : http://thaprajan.blogspot.com/2010/11/blog-post_15.html
จากหนังสือ “ตามรอยธมฺมวิตกฺโก พระอรหันต์กลางกรุง” และ “พระกรรมฐานกลางกรุง”

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: