1334. ผีร้ายเข้าสิงคน ร้อนถึง “หลวงปู่ศรี” ต้องมาสยบ

ที่อำเภอวาปีปทุม ที่แห่งนี้มีผีดุ ผีเข็ดขวาง(ใครลบหลู่จะต้องได้รับความหายนะ) ประเภทความดุของผีถ้าเทียบกันแล้ว ผีที่อยู่แถบภูเขาไม่ร้ายแรงเท่ากับผีที่อยู่ตามทุ่งนา เพราะหลวงปู่ศรีเคยสัมผัสมาแล้ว และที่เจอหนักที่สุดที่ทุ่งนาบ้านหนองใต้ ต้องสู้กันอยู่ถึงสิบห้านาทีผีมันถึงยอม คำว่ายอม คือ ยอมธรรมของหลวงปู่ศรีที่มีเมตตาธรรมอันอ่อนนิ่มภายในจิตใจของท่าน เป็นต้น

ยามเมื่อมีคนโดนผีเข้า ก็กำหนดไปที่คนนั้นว่า “เจ็บที่ไหน” เขาบอก “เจ็บที่ท้อง” ถามว่า “เจ็บอยู่ที่ไหน” เขาบอก “เจ็บที่ขา” ก็จะกำหนดเพ่งเข้าๆ ตรงที่เจ็บ จนกระทั่งล้มลงนอนไม่รู้สึกตัว พอรู้สึกตัวขึ้นมาก็ให้น้ำมนต์ ตอนที่หลวงปู่ศรีไปปราบผีที่ทุ่งนา ทุกสายตาจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ป่าบอนหนาๆ หมุนติ๋วเลย” เป็นที่มหัศจรรย์ที่เหมือนกับพลัง เป็นที่ร่ำลือกันหนักหนา

แต่ที่หนองใต้นี้แรงมาก เขาสร้างหอผีหอเมียให้คนไปกราบไหว้บูชา ในบริเวณนั้นมีจอมปลวกใกล้ต้นมะขามใหญ่ บางทีผีมันเอาคนไปซ่อนไว้ ชาวบ้านก็ช่วยกันหาทั่วบ้านทั่วเมืองก็ไม่เจอ แล้วหลวงปู่ศรีก็ชี้ให้ชาวบ้านดูว่า “นั่นไง อยู่จอมปลวกใต้ต้นมะขามนั่นไง” ชาวบ้านก็ไปเห็นขาชี้อยู่ ชาวบ้านก็ช่วยกันดึง ในบริเวณนั้น ใครเข้าไปเอาไม้แห้งมาทำฟืนหุงต้มก็ไม่ได้ มะขามสุกที่หล่นจะเก็บมากินก็ไม่ได้ต้องโดนผีเข้าทันที

หลวงปู่ศรีไปเดินดูทั่วบริเวณ ๑๒ ไร่ บริเวณศาลอันเป็นหอผี ผัวเมียนั้น มีสิ่วด้ามหนึ่งตกอยู่ หลวงปู่ศรีเห็นว่า “สิ่วนี้น่าจะเป็นประโยชน์” เพราะขณะนี้กำลังสร้างศาลาพักหลังเล็กๆ (วัดหนองใต้) หลวงปู่ศรีจึงหยิบแล้วเดินมา จึงพิจารณาค้นหาว่า

“เอ!… ผีตัวนี้มันอยู่ไหนมันหนีไปอยู่ไหน”

ขณะที่เดินไปใกล้คลองน้ำ ปรากฏว่าผีตนนั้นมันก็กระโดดเกาะร่างหลวงปู่ศรีไว้ ท่านจึงกำหนดจิตเดินจงกรม เดินจงกรมก็ไม่ออก หลวงปู่ศรีก็เริ่มหายใจไม่ออก เข้าไปในกลด ไปนั่งสมาธิเป็นชั่วโมง แล้วเขาก็กระโดดออกไปเอง พอตกกลางคืนผีที่เป็นนายอำเภอ (ยศตำแหน่งผี) เข้าไปสั่งผู้ใหญ่บ้านทางผีที่เป็นเสี่ยว(เพื่อน) ของตนว่า “เสี่ยว…เฮาจะไปแล้วนะ อยู่ไม่ได้ เจ้าของเขามาแล้ว ให้ดูแลวัดด้วยเด้อ” แล้ววิญญาณเขาก็แห่ช้างแห่ควายพร้อมด้วยบริวารย้ายถิ่นฐานหนีไปเลย ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ไม่มีผีสางนางไม้ไปรบกวนคนอีกเลย ชนทั้งหลายจึงขนานนามหลวงปู่ศรีว่า “หลวงปู่ศรี ผีย่าน” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ก่อนหน้านั้นผีตัวเดิมที่กระโดดเกาะขาหลวงปู่ศรี เหมือนที่หลวงปู่ศรีท่านเมตตาเล่าด้วยความขบขันต่อไปว่า “อย่าว่าแต่คนเลย ผีก็เล่นหวยเหมือนกัน คือผีตัวเดิมนี่แหละ”

ผีที่เป็นกำนันนี้ มาบอกเลขเสี่ยวที่เป็นผู้ใหญ่บ้าน งวดแรกก็ถูก งวดที่สองก็ถูก พองวดที่สามต่างก็พากันทุ่มเต็มที่ ผลปรากฏว่าผิดไปตัวเดียว ผู้ใหญ่บ้านหมดตัว ถึงกับโมโหไปเตะหอผี ใช้ค้อนทุบหอผี ด่าว่า “ทำไมมึงมาหลอกกู บักห่า บักเสี่ยว” ผีมันบอกว่า

“เฮาก็ไม่รู้ เพราะเฮาก็เสียช้างไป ๓ เชือกเหมือนกัน (ช้างผี)”
ผู้ใหญ่บ้านที่เป็นเพื่อนผีก็ถามว่า “ทำไมเสีย”
“ก็เสียเพราะกูก็แทงหวยผิดเหมือนกันกับมึงนั่นแหละ”
“แล้วพวกมึงเป็นผีไปได้หวยมาได้อย่างไร?”

ผีตอบว่า “ไปได้หวยมาจากผีที่ภูเขาควาย เวียงจันทร์ประเทศลาว ผีที่นั่นคุยกันนักคุยกันหนาว่าให้หวยแม่น เราก็ทุ่มเทหมดเนื้อหมดตัวเหมือนกัน นึกว่ามันจะแน่ ที่ไหนได้ ผีห่วยแตกหลอกแม้กระทั่งผีด้วยกัน”

หลวงปู่ศรี มหาวีโร
ที่มา FB : เพจเกร็ดธรรมะ ประวัติ พระอรหันต์@Ayuthay

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: