1262. กันงูได้ชะงัดนัก!! เปิดตำนาน “แหวนพรหม ๔ หน้า หลวงพ่อมี”

ท่านพระครูเกษมคณาภิบาล หรือหลวงพ่อมี เขมธัมโม มีชื่อเดิมเต็มๆ ว่า “บุญมี” ถือกำเนิดในตระกูล “ธนสนธิ์” ชื่อของท่านโยมบิดามารดาสมมตินามขึ้นเพื่อเรียกขาน อันมีความหมายถึง “การมีกุศลแห่งความสุข ที่ร่ำรวยมีอันจะกินมิได้ขาด” มาปัจจุบัน ลูกศิษย์ลูกหาต่างเรียกนามองค์ท่านแบบสั้นๆ ว่า “หลวงพ่อมี” จนติดปากกันมาจวบปัจจุบัน ถือเป็นมงคลนามอย่างใหญ่หลวง เมื่อองค์ท่านเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ บำเพ็ญบารมีธรรมตามรอยพระบาทองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จนนามกระเดื่องประกาศกิตติคุณให้สานุศิษย์และชนชาวไทยทั่วแคว้นได้ประจักษ์โดยถ้วนทั่วกัน

สำหรับเครื่องรางของขลังของหลวงพ่อมี วัดมารวิชัยนั้นเป็นที่เลื่องลือนั่นก็คือ แหวนพรหม ๔ หน้า มีความศักดิ์สิทธิ์นัก ในสมัยท่านมีชีวิตอยู่ ท่านจะทำพิธีเป่ายันต์พรหม ๔ หน้า ท่านว่า ยันต์เกราะเพชร เป่าไปคนรักษายาก เหล้ายา กับ ชาวบ้านมันของคู่กัน (ยันต์เกราะเพชร ห้ามกินเหล้า) ท่านบอกว่า วิชา พรหม ๔ หน้า รักษาง่ายกว่า แถมคุณวิเศษก็ไม่ได้เป็นรอง ยันต์เกราะเพชร ทั้งอยู่ยงคงทน เมตตา มหานิยม หนุนดวง เรื่องกันสัตว์มีพิษ ก็ไม่เป็นรองยันต์เกราะเพชร

สมัยก่อนที่วัดมารวิชัย มีงูเห่าเผือกอยู่คู่หนึ่งอาศัยอยู่บริเวณอุโบสถ เมื่อหลวงพ่อมี ลงโบสถ์เพื่อทำวัตรสวดมนต์ คราวใด งูเห่าเผือกทั้ง ๒ จะเข้าไปอยู่ด้วย เพราะในสมัยนั้นโบสถ์ยังชำรุดผุพัง งูจึงเลื้อยเข้าออกได้อย่างสบาย พอหลวงพ่อมีออกจากโบสถ์ งูแสนรู้ทั้ง ๒ จะเลื้อยคู่กันเหมือนกันตามออกมาส่งเป็นดังนี้มานานหลายสิบปี บางครั้งถ้ามันเห็นหลวงพ่อมี เดินมาพร้อมลูกศิษย์หรือชาวบ้าน มันจะเลื้อยเข้ามาหาเสมือนเป็นการต้อนรับโดยไม่เกรงกลัวใครและไม่เคยทำร้ายผู้ใดเลยแม้แต่น้อย ซึ่งหลวงพ่อมีก็ห้ามศิษย์ และชาวบ้านทุกคนทำร้ายงูเห่าเผือกที่แสนเชื่องทั้ง ๒ ตัว อย่างเด็ดขาด

จนคราวที่ หลวงพ่อมี ท่านได้สร้างแหวนพรหม ๔ หน้า ขึ้นปลุกเสกทางด้านป้องกันงูและเขี้ยวงาโดยเฉพาะ ทำให้ชาวบ้านหัวใสคนหนึ่งเห็นว่าใส่แหวนพรหม ๔ หน้า แล้วกันงูได้ชะงัดนัก

ชาวบ้านคนนั้น จึงใส่แหวนไปจับงูขายเป็นอาชีพ แล้วบังเกิดความฮึกเหิมเห็นว่างูเห่าเผือกหายากและมีราคาสูงลืมคำสั่งห้ามของหลวงพ่อมี แอบขโมยจับไปขาย ๑ ตัว เมื่อหลวงพ่อมีทราบเรื่องและเห็นว่าไหนๆ งูก็ถูกขายไปแล้ว ท่านก็ได้แต่ดุและว่ากล่าวตักเตือนตามลักษณะพระนักเลงของท่านว่า

“ให้คนผู้นั้นเลิกอาชีพจับงูขายและห้ามนำแหวนพรหม ๔ หน้า ใส่จับงูขายอีกอย่างเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นเกิดเรื่องแน่”

และก็เป็นจริงตามคำพูดของหลวงพ่อมีทุกประการ ชาวบ้านผู้นั้นอ้างความยากจนมีความจำเป็นต้องจับงูขายเลี้ยงชีพต่อไปอีก หาได้เชื่อฟังคำเตือนของหลวงพ่อแม้แต่น้อย กรรมตามทันเร็วจริงๆ อีก ๓ วันต่อมา ชายผู้นั้นลืมนำแหวนใส่นิ้วไปจับงูเหมือนเช่นเคย จึงถูกงูกัดตายในที่สุด ปัจจุบัน งูเห่าเผือกยังมีชีวิตเหลืออยู่อีกหนึ่งตัว แต่แก่มากแล้วและตั้งแต่คู่ของมันซึ่งเข้าใจว่าจะเป็นงูตัวเมียถูกจับไปขาย ก็ไม่เคยโผล่ออกมาให้ผู้ใดพบเห็นมันอีกเลย

ตะกรุดของหลวงพ่อมี นอกจากจะใช้กันงูดีแล้ว เรื่องสุนัขกัดก็เหมือนกัน เคยมีประสบการณ์มาแล้วนักต่อนักที่ชาวบ้านพกตะกรุดหลวงพ่อมีถูกสุนัขกัดไม่เข้า เรียกว่าสุนัขเฝ้านาเฝ้าบ้านที่ว่าดุๆ ยังไม่เคยได้กินเลือดเลยแม้แต่รายเดียว ชาวบ้านทั้งหลายจึงนิยมนำตะกรุดของหลวงพ่อมีผูกเอวเด็ก เพื่อสำหรับป้องกันงูและสุนัขกัดอีกด้วย ขนาดเคยมีเด็กถูกสุนัขรุมฟัดลงไปนอนกับพื้น ยังไม่มีรอยเขี้ยวปรากฏให้เห็นจนเป็นที่เลื่องลือชา

ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจ พระเกจิอยุธยา

ขอบคุณภาพจาก : เว็บ-พระ

pramontien.com

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: