1248. “หลวงพ่อเตียง วัดเขารูปช้าง” ศิษย์หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง

หลวงพ่อเตียง วัดเขารูปช้าง พิจิตร

ชาวจังหวัดพิจิตรถือว่าเป็นเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงองค์หนึ่ง ถ้าศึกษาตามประวัติแล้ว จะทราบว่าหลวงพ่อได้เคยไปศึกษาทางวัตถุมงคล และทางไสยศาสตร์กับเจ้าอธิการปุ่น วัดดงกลาง ซึ่งเป็นอาจารย์สำคัญองค์หนึ่ง นอกจากหลวงพ่อเตียงจะไปศึกษาจากอธิการปุ่นแล้วหลวงพ่อยังได้ไปศึกษาทางวิปัสสนาธุระและวัตถุมงคลจากหลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตรอีกด้วย โดยเฉพาะหลวงพ่อพิธก็เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน อำเภอโพทะเล

ตะกรุดอภินิหาร

ในการทำพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล ของหลวงพ่อเตียง ที่วัดเขารูปช้างครั้งหนึ่ง หลังจากทำพิธีเสร็จแล้วก็มีการจำหน่ายวัตถุมงคลของหลวงพ่อ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่เคารพบูชาในตัวของหลวงพ่อได้มีของดีไปใช้ประจำตัว ในครั้งนี้ ได้มีนายชาญ รอดเกิด เป็นผู้หนึ่งที่มีความเลื่อมใสศรัทธาจึงมาเช่าตะกรุดของหลวงพ่อ ๑ ดอก เมื่อได้ตะกรุดแล้วก็เดินเข้าไปในตลาดเขารูปช้าง ในขณะนั้นเองนายชาญ ก็ถูกยิงหลายสิบนัดกระสุนไม่ถูกนายชาญแม้แต่ลูกเดียว ซึ่งเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อ ว่านายชาญจะรอดตายมาได้ ทั้งนี้เพราะอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโดยแท้

ยิงไก่ไม่ดัง

เมื่อหลวงพ่อทำตะกรุดและสังวาล ออกจำหน่ายครั้งแรกๆ ประชาชนยังไม่ค่อยเลื่อมใสจึงนำไปผูกคอไก่แล้วยิงด้วยปืนลูกซองปรากฏว่าไม่ดัง ข่าวการลองของไม่ดัง ปากต่อปากเล่าลือกันมากต่างก็พากันมาเช่าของหลวงพ่อไปใช้ประจำตัวเจ้าอธิการเทิ้มเล่าว่าตะกรุดของหลวงพ่อจำหน่ายดีมาก

รอดตายเพราะตะกรุดหลวงพ่อ

วันหนึ่งนายอินทร์ คนดงกลาง ซึ่งเป็นหลานของหลวงพ่อได้ขี่จักรยานออกมาจากบ้านเพื่อจะไปธุระที่บ้านท่าข่อย ต. เมืองเก่า ในขณะที่ขี่จักรยานมานั้นได้ถูกคนร้ายลอบยิงด้วยปืนลูกซอง ถูกท้ายทอยด้านขวาล้มควํ่า แต่กระสุนไม่ระคายผิวหนัง คนร้ายคิดว่าตายแล้วก็หนีไป นายอินทร์ก็ลุกขึ้นกลับบ้าน ต่อมาแผลที่ถูกยิงถอนยวง เมื่อซักถามนายอินทร์ว่ามีอะไรดี นายอินทร์ตอบว่า มีตะกรุดของหลวงพ่อเตียงดอกเดียวเท่านั้น

อภินิหารรูปหล่อ

ได้มีราษฎรคนหนึ่งมีอาชีพขี่มอเตอร์ไซด์รับจ้าง บ้านอยู่ ตำบลบางไผ่ อำเภอบางมูลนากได้มาที่วัดของหลวงพ่อและได้เช่ารูปหล่อไป ๑ องค์ เมื่อเช่าไปแล้วก็พกติดตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะมีอาชีพรับจ้างวันหนึ่งในขณะที่ขี่มอเตอร์ไซด์อยู่นั้น ได้ถูกคนร้ายลอบยิงด้วยปืนยูเอสอาร์มี่ ถูกที่ด้านหลังปรากฏว่าเสื้อขาด แต่ไม่เข้าเพราะอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์โดยแท้

รอดตายเพราะตะกรุดหลวงพ่อ

นายอุดม คำหมู่ ซึ่งเป็นหลานชายของเจ้าอธิการเทิ้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดเขารูปช้างปัจจุบัน เล่าว่า ในขณะที่นายอุดม อยู่บ้านตามลำพัง ได้มีพวกขโมยหลายคนเข้ามาในบ้านแล้วช่วยกันจับนายอุดม เมื่อถูก จับนายอุดมก็ร้องให้คนช่วย พวกขโมยเกิดโมโห ที่ว่านายอุดมร้องเสียงดังจึงควักปืนคอล์ซุปเปอร์ขนาด ๑๑ มม. ยิงนายอุดม หวังจะฆ่าปิดปากเสีย เสียงดังแซะ พวกขโมยก็สับนกปืนอีก ก็ไม่ดัง นายอุดมเมื่อเห็นว่าไม่ดังก็มีกำลังใจฮึดสู้พวกโจร แต่เนื่องจากนายอุดมเป็นคนรูปร่างเล็ก จึงสู้พวกโจรไม่ได้ พวกโจรก็ยิงอีกไม่ดังเช่นเคย เมื่อเห็นว่าไม่ดังแน่จึงช่วยกันปล้นนายอุดมเอาของดี ปรากฏว่าพวกขโมยได้ตะกรุดโทน ๓ ชั้น และเหรียญของหลวงพ่อไป นายอุดมคงเหลือแต่สายติดมืออยู่ พวกขโมยยิงอีกทีไม่ดังเช่นเคย เรื่องนี้เจ้าอธิการเทิ้มเป็นผู้ยืนยันว่าเป็นความจริง นายอุดม รอดตายมาได้ก็เพราะวัตถุมงคลของหลวงพ่อ

แหวนของหลวงพ่อ

จ.ส.ต.รวม เป็นตำรวจสายตรวจประจำหมู่บ้านเขารูปช้าง ได้ขับรถจักรยานยนต์ออกมาจากตลาดพิจิตรเพื่อจะมาเป็นสายตรวจประจำหมู่บ้านเขารูปช้าง ในขณะที่ขี่มอเตอร์ไซด์ใกล้จะถึงเขารูปช้างมีรถยนต์คันหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วสูงชนท้ายรถที่ จ.ส.ต. รวม ขับอยู่ ร่างของ จ.ส.ต. รวมกระเด็นลอยไปในอากาศรถจักรยานยนต์พังยับเยินแต่ตามร่างกายของ จ.ส.ต.รวมไม่มีบาดแผลอะไรเลย ปรากฏว่า จ.ส.ต.รวม ไม่ได้คล้องพระ แต่มีแหวนของหลวงพ่อสวมที่นิ้วเพียงวงเดียว ปัจจุบัน จ.ส.ต.รวมจะไม่ยอมถอดแหวน วงนี้เลยและนับถือหลวงพ่อเตียงอย่างมาก

อภินิหารหลังมรณภาพ

กระดูกอภินิหารเมื่อวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๒๑ ซึ่งเป็นวันประชุมเพลิง หลังจากประชุมเพลิงแล้วได้มี นายเขียว ศรีพิเศษ อยู่บ้านตลาดเขารูปช้าง อยากได้กระดูกของหลวงพ่อไปเป็นของศักดิ์สิทธิ์ จึงได้เอาไม้ไปแหย่ที่เชิงตะกอน เพื่อจะให้กระดูกของหลวงพ่อตกลงมาตนจะได้เก็บไปใช้ปรากฏว่ากระดูกของหลวงพ่อตกลงมานายเขียว ก็ล้มลงไปหยิบ เกิดหมดสติไปโดยไม่ทราบสาเหตุ ทำความตกตะลึงแก่บรรดาประชาชนอย่างมาก จึงได้ช่วยกันปฐมพยาบาล เมื่อฟื้นแล้วนายเขียว ก็บนตัวเองว่าจะบวชเณรให้ หลังจากบนแล้วอาการก็หายเป็นปกติ นายเขียว จึงได้บวชแก้บนให้ ๑๐ กว่าวัน ตั้งแต่บัดนั้นไม่มีใครกล้าไปเกี่ยวข้องกับกองกระดูกของท่านอีกเลย

ฉายหนังต้องบอกก่อน

วันหนึ่งมีพวกหนังเร่เอาหนังไปฉายที่บริเวณวัดเขารูปช้าง เมื่อขออนุญาตเจ้าอาวาสแล้วก็ตั้งจอเตรียมฉายแต่พอถึงเวลาฉาย ฉายไปได้ประมาณสัก ๒๕ นาที เกิดอาการชักตาตั้งทำให้เดือดร้อน ทั้งพวกคนดูและพวกหนัง เมื่อปฐมพยาบาลแล้วก็หาย จึงได้จุดธูปบอกดวงวิญญาณของหลวงพ่อขออนุญาตฉายหนังและจะบวชเณรให้เหตุการณ์ต่างๆ ก็เป็นไปตามปกติ

กินเหล้าในวัด

วันหนึ่งลูกน้องนายช้าง ตลาดพิจิตรซึ่งมีอาชีพฉายภาพยนตร์เร่ไปตามสถานที่ต่างๆ ก็ไปขออนุญาตเจ้าอาวาสฉายภาพยนตร์ในวัดเขารูปช้างหลังจากขึงจอและเตรียมการอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ยังมีเวลาว่างอีกนาน จึงไปซื้อเหล้ามานั่งกินกันในบริเวณวัดในขณะนั้นมีชายคนหนึ่งเกิดอาการชัก จัดการปฐมพยาบาลเท่าไรก็ไม่หาย ต้องเดือดร้อนถึงนายช้างเจ้าของภาพยนตร์ต้องจุดธูปบอกเล่าดวงวิญญาณของหลวงพ่อ ขอขมาลาโทษว่าพวกนี้ทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ พอนายช้างบอกจบอาการชักของลูกน้องก็หายเป็น ปลิดทิ้ง เป็นอันว่าชาวบ้านเขารูปช้างได้ดูภาพยนตร์สมใจนึก

รูปหล่อให้โชคลาภในวันงานฌาปนกิจศพของหลวงพ่อ

เมื่อวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๒๑ มีชาวกรุงเทพฯผู้หนึ่งอยู่บางลำพูได้มาร่วมงานนี้ด้วย ก่อนกลับไปได้ขอบูชารูปหล่อของหลวงพ่อไปด้วยเพื่อเป็นสิริมงคล เมื่อไปถึงบ้านก็จุดธูปเทียนบูชาขอให้มีโชคลาภ ปรากฏว่าถูกลอตเตอรี่ได้เงินเป็นจำนวนมาก จึงได้เดินทางมาที่วัดเขารูปช้างอีก ขอเช่ารูปหล่อของหลวงพ่อไปไว้บูชาอีก นอกจากหลวงพ่อจะอยู่ยงคงกระพันชาตรีแล้ว ยังเป็นเทพแห่งโชคลาภอีกด้วย

ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพ และที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้

http://www.baanjompra.com/

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: