1206. “ในหลวงทรงถาม “พระเครื่องคุ้มภัยได้จริงไหม??”

พระราชปุจฉาวิสัชนาธรรมระหว่าง

“พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” กับ “สมเด็จพระญาณสังวรฯ”

ในหลวง ร.9: หนังสือสอนพระพุทธศาสนายากเกินไปแก่สมองเด็ก … ให้เด็กเล็กๆ จำประวัติมากเกินไป

สมเด็จญาณฯ : กระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้จัดหลักสูตร

ในหลวง ร.9: อย่างสอนอริยสัจแก่เด็กเล็กๆ เหมือนจะให้เด็กเป็นพระอรหันต์ จะทำให้เด็กเข้าใจได้อย่างไร … น่าจะสอนบทธรรมง่ายๆ ที่เป็นประโยชน์ในการอบรมเด็กด้วย เช่น ความเพียร และน่าจะจัดเป็นหลักสูตรสูงขึ้นไปโดยลำดับ แทรกพุทธประวัติ นิทานชาดก บทสอนศาสนาคฤหัสถ์ได้ มีจัดไว้ทำนองนี้ … น่าจะทำแจกหรือมีจำหน่ายถูกๆ ของกระทรวงก็ปล่อยเป็นส่วนของกระทรวง

สมเด็จญาณฯ : จะนำกระแสพระราชดำรินี้ไปจัดทำ แต่การเขียนเรื่องให้เด็กอ่านนั้น…เขียนแล้วคิดว่าง่าย…เด็กเข้าใจ ครั้นไปลองสอนกับเด็ก…คือให้เด็กอ่าน เด็กก็ไม่เข้าใจ

ในหลวง ร.9: ถ้าประสงค์จะทดสอบก็ได้ … เขียนส่งไปให้ทูลกระหม่อม เจ้าฟ้าหญิงอุบลรัตน์ฯ อ่าน ถ้าจะทดสอบอายุน้อยกว่านั้นก็ได้

ในหลวง ร.9: การปฏิบัติตนให้เหมาะเป็นการยาก ต้องทำสองอย่างพร้อมๆ กัน อย่างหนึ่งต้องให้มีภาคภูมิ อีกอย่างต้องให้สุภาพ มิให้เป็นหยิ่งหรือที่เรียกกันว่า “เบ่ง” และในสมัยประชาธิปไตยก็ต้องให้เหมาะสม…เข้ากันได้กับประชาชน

สมเด็จญาณฯ : ตามที่ได้ฟัง…ได้ยินแต่เสียงชื่นชมในพระบารมี

ในหลวง ร.9: ต้องคอยสังเกตเป็นบทเรียนและแก้ไขเรื่อยมา เมื่อคราวเสด็จภาคอีสาน วันหนึ่งเหนื่อยมาก…หน้าบึ้ง กลับที่พักแล้วก็นึกขึ้นได้ว่า ราษฎรได้มีโอกาสเห็นเราเพียงครั้งเดียว ให้เขาเห็นหน้าบึ้งไม่ดี ต่อจากนั้น ถึงจะเหนื่อยมากก็ต้องพยายามไม่ทำหน้าบึ้ง ต้องทำชื่นบาน

————————–

ในหลวง ร.9: เมื่อคราวเสด็จทางภาคใต้ วันหนึ่งไม่สบาย แต่ถ้างด…ไม่ไป…ก็จะเสียหาย … ต้องไป ครั้นไปแล้วกลับมาก็สบายดี … จะเป็นเพราะกำลังใจใช่ไหม?

สมเด็จญาณฯ : (ทูลรับ แล้วทูลว่า) ฝึกบ่อยๆ กำลังใจจะมากยิ่งขึ้น

————————–

ในหลวง ร.9: ทำสมาธิอย่างไร?

สมเด็จญาณฯ : คือทำใจให้ตั้งมั่น แน่วแน่อยู่ในอารมณ์เดียว จะทำอะไรทุกๆ อย่าง ต้องมีใจเป็นสมาธิ ในทางปฏิบัติจึงต้องใช้สมาธิทั้งนั้น แต่มักมีคนเข้าใจว่า…ทำสมาธิต้องนั่งหลับตา

ในหลวง ร.9: นั่งทำพิธี…รู้สึกว่า เวลาปฏิบัติราชกิจต้องสำรวมพระราชหฤทัย เช่น คราวพระราชทานกระบี่นักเรียนนายร้อย เพียงหยิบให้ ถ้าไม่สำรวมใจมีผิด สำรวมใจอยู่ก็ทำไม่ผิด

————————–

ในหลวง ร.9: ทำสมาธิ…มองเห็นภาพต่างๆ เป็นจริงหรือ?

สมเด็จญาณฯ : โดยมากไม่จริง … ภาพที่เห็นมักเป็นนิมิต คือ ภาพที่เกิดจากสัญญา หรือที่เรียกว่า “ภาพอุปาทาน” คือ ได้เคยคิดเคยเห็นมาแล้วเก็บไว้ในใจ ครั้นทำสมาธิ ใจแน่วแน่ สิ่งที่เก็บไว้ในใจนั้นก็ปรากฏขึ้นมา เหมือนอย่างที่เห็นนรก เห็นสวรรค์ เห็นเทวดา ถามว่า เทวดารูปร่างอย่างไร ตามคำตอบก็คล้ายกับเทวดาที่ผนังโบสถ์ แต่ที่เป็นจริงก็มี

ในหลวง ร.9: เหมือนอย่างดูของหาย… มองเห็น… มีพระดูได้?

สมเด็จญาณฯ : ถ้ามองเห็น…ถูกต้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น…ก็ต้องรับว่าเป็นจริง เพราะมีข้อพิสูจน์

ในหลวงร.9 : “หายตัว” เป็นจริง…หรือเป็นการสะกดจิตไม่ให้เห็น?

สมเด็จญาณฯ : อาจเป็นการสะกดจิต … แต่การล่องหนทะลุกำแพงออกไป ถ้าเป็นจริงก็จะต้องทำตัวอย่างไรให้เล็ดลอดออกไปได้

ในหลวง ร.9: มีในพระพุทธศาสนาหรือเปล่า?

สมเด็จญาณฯ : มีแสดงไว้ แต่ไม่ใช่พระพุทธศาสนาโดยตรง … มีแสดงไว้ก่อนในตำรับทางพราหมณ์

ในหลวง ร.9: แต่มีแสดงไว้ในพระพุทธศาสนาด้วย?

สมเด็จญาณฯ : (ทูลรับพระราชดำรัส)

ในหลวง ร.9: อยู่ในที่นี้แล้วสะกดจิตคนที่อยู่ในที่อื่นได้ไหม?

สมเด็จญาณฯ : เคยพบแต่ที่แสดงไว้ว่าอยู่ในที่เดียวกัน

—————————

ในหลวง ร.9: พระเครื่องคุ้มกันได้จริงไหม? … คุ้มกันได้เพราะใจเชื่อมั่นว่ามีพระเครื่องอยู่กับตัวหรืออย่างไร?

สมเด็จญาณฯ : เป็นเครื่องทำให้ใจเชื่อมั่น

ในหลวง ร.9: ถ้าใจเชื่อมั่นแล้วก็ไม่จำเป็นหรือ?

สมเด็จญาณฯ : ไม่จำเป็น … แต่ก็มีเชื่อกันว่า พระเครื่องให้อยู่คงจริง คือ ผู้ที่มีอยู่จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม หรือมิได้คำนึงถึง แต่พระเครื่องก็คงคุ้มกันผู้ที่ไม่เชื่อก็มี

ในหลวง ร.9: ก็เชื่อ … มีคนให้…รับมาไว้ เขาก็ยินดี … แต่วันนี้ไม่ได้ติดมา

ที่มา : บันทึกส่วนพระองค์ ในสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (สุวัฑฒนมหาเถระ) บันทึกเมื่อวันที่ ๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๐๕, หนังสือ “ธรรมหฤทัยในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”, บรรณาธิการโดย รศ.สุเชาว์ พลอยชุม

ขอขอบคุณรูปภาพสวยๆจาก : Tnews
แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: