1676.ความสบายพระทัยของในหลวงร.9 กับ “ศีล 2 ข้อ” ที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำถวายธรรม

พระราชปุจฉาวิสัชนาธรรม
ระหว่าง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กับ หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ

ครั้งแรกที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปกราบนมัสการหลวงพ่อฤๅษีลิงดำนั้นไม่ปรากฏว่ามีผู้จดบันทึกหรือบันทึกเทปเอาไว้ แต่อาศัยความทรงจำของหลวงพ่อเองที่ท่านได้เขียนบันทึกเอาไว้ในหนังสือเรื่อง “พระเมตตา” จึงทำให้เรามีโอกาสได้รับรู้ถึงบทสนทนาธรรมที่มีเนื้อหาน่าสนใจยิ่ง ดังที่ได้กล่าวไว้จากตอนก่อนหน้านี้
ซึ่งใจความตอนหนึ่งนั้น มีเนื้อหาเกี่ยวกับศีล 2 ข้อ ที่หลวงพ่อปานเคยสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำไว้ ว่าจำเป็นและสำคัญ อันจะนำมาซึ่งความสงบสุขของบ้านเมือง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว : บรรดาประชาชนทั้งหลายทุกคน ถ้าต่างคนต่างรักษาศีล ๕ ครบถ้วน บ้านเมืองจะมีความสุข เรื่องศีล ๕ นี่เป็นของยาก คนเขาไม่ค่อยจะเห็นคุณเห็นโทษ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง…พระ พระนี่เมื่อมีความผิดแล้วก็มีอาบัติเป็นเครื่องปรับ แต่คนเขาขาดศีล ๕ ไม่มีอาบัติเป็นเครื่องปรับ เป็นของยากที่จะให้คนเห็นโทษเห็นคุณในการรักษาศีล ๕

หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ : หลวงพ่อปานท่านไม่ต้องการให้คนละศีล ๕ หลวงพ่อปานต้องการอย่างเดียวคือ ให้คนละศีล ๒

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว : (ทรงแย้มพระโอษฐ์แล้วตรัสถาม) ศีล ๒ มีอะไรบ้างขอรับ ?

หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ : ศีล ๒ ที่หลวงพ่อปานต้องการ นั่นก็คือ

๑. อทินนาทาน ต้องการให้คนไม่ลัก ไม่ขโมย ไม่คดโกงซึ่งกันและกัน ยอมรับนับถือในสิทธิสมบัติซึ่งกันและกัน
๒. หลวงพ่อปานต้องการให้คนละการดื่มสุราและเมรัย

ศีล ๒ ของหลวงพ่อปานนี้ มีความสำคัญมาก เพราะในอันดับแรก ถ้าทุกคนไม่คดโกงซึ่งกันและกันแล้ว สุขมันก็จะมีมากขึ้นมามาก ทุกคนต่างยอมรับนับถือในสิทธิ์ในสมบัติซึ่งกันและกัน แล้วอีกประการหนึ่ง ถ้าคนทั้งหลายไม่เสพสุราเมรัย จิตใจก็ทรงสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ ความเร่าร้อนของประเทศชาติก็จะลดน้อยลงไป ประเทศชาติจะมีแต่ความเยือกเย็น และเมื่อ ๒ ศีล ครบถ้วนบริบูรณ์แล้ว ในไม่ช้า อีก ๓ ศีล ก็ครบถ้วนบริบูรณ์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว :(ทรงแย้มพระโอษฐ์อีก แล้วค่อยตรัสว่า) เมื่อก่อนนี้มันยุ่งเหลือเกินขอรับ มันติดอยู่ในวัตถุ ยุ่งมาก แต่เวลานี้สบายใจมากแล้ว เพราะไม่ติดในวัตถุ … วันนี้ผมมีความสุขใจมาก ผมมีความสบายใจมาก

ขอบคุณที่มา
https://www.partiharn.com/contents/13805 / palungjit.org

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: