1663.บารมีของหลวงปู่ทิม

๏บารมีของหลวงปู่ทิม๏
คัดลอกจากหนังสือที่ระลึก ฉลองหอฉัน และฉลองอายุครบ 8 รอบ พระครูภาวนาภิรัต (ทิม) วัดละหารไร่ ระยอง 10 มิ.ย.2518 จากบันทึกของนายสาย แก้วสว่าง

บิณฑบาตที่จ.ชลบุรี

มีผู้ชายคนหนึ่งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี อ.บางละมุง ซึ่งผมจำชื่อไม่ได้ ได้มาเล่าให้ผมฟังว่า เมื่อวานนี้ผมเห็นหลวงปู่ทิม ไปบิณฑบาตอยู่ที่เมืองชล ผมจำได้เขาบอกว่าเรื่องนี้เป็นความจริง เพราะจำหลวงปู่ทิมได้ ผมก็ได้แต่นึกและก็ไม่กล้าตอบ แต่นึกว่าหลวงปู่ของเราจะเป็นไปได้หรือ ผมจึงเก็บเอาเนื้อความนี้ไว้แต่ในใจและก็คุยกันเรื่องอื่นต่อไป อยู่มาประมาณอีกสัก 10 กว่าวันก็มีคนเมืองชลมาเล่าให้ผมฟังอีก ก็เหมือนกับทีคนแรกเล่าให้ผมฟังทุกประการ ผมจึงลองถามหลวงตาที่เป็นขรัวรองอยู่ที่วัดดูและเล่าเรื่องราวให้ท่านฟัง ท่านตอบว่า อาตมาก็ไม่ทราบและไม่ได้สังเกตเพราะฉันจังหันต่างกัน แต่ก็ปรากฏท่านทีอาหารแปลกปะปนอยู่เสมอ แต่ก็อาจจะเป็นความจริงเพราะท่านเป็นพระที่สำเร็จญาณชั้นสูงอยู่แล้ว

ยิงไม่ถูก
มีชาวบ้านหนองละลอกคนหนึ่งชื่อ นายธง สุขเทศ หรือชาวบ้านละแวกนั้นมักเรียกว่า ปลัดธง บ้านอยู่ไม่ห่างจากบ้านผมเท่าไรนัก หลังจากที่ผมกลับจากทำงานก็อาบน้ำจวนจะทานอาหาร เวลาประมาณ 1 ทุ่ม ปลัดผู้นี้ก็เริ่มจะทานอาหารเหมือนกัน หยิบจานอาหารมาวางและมีลูกสาวอยู่ใกล้ๆ ผมก็กำลังทานอาหารอยู่ที่บ้าน ก็ได้ยินเสียงปืนระเบิดขึ้น 2 จังหวะ 4 นัด แล้ว 3 นัดติดต่อกัน ปรากฏภายหลังว่าผู้ยิงพาดปืนกับขอบสังกะสีรั้วบ้านระยะประมาณ 4 เมตร แต่กระสุนมิได้ถูกนายธงเลย มีกระสุนไปถูกขาตั้งรถจักรยานทำให้สะเก็ดบินไปโดนเด็กลูกสาวที่ขาบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งนี้คงเป็นเพราะอภินิหารเหรีญหลวงปู่ทิมรุ่นแรกซึ่งนายธงแขวนคออยู่เพียงเหรียญเดียว ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าผู้ยิงใช้ปืนคาบิ้น 2 กระบอกเพราะเก็บปลอกกระสุนได้แน่ชัด

๏ ยิงไม่เข้า๏
มีคนเดินทางมาจากเมืองชลเล่าให้ผมฟังว่าเพื่อนของเขาถูกยิงตอนเวลาหลังอาหารด้วววยปืนลูกซองถึง 9 นัด เสื้อขาดทะลุถึงผิวหนังไหม้เกรียมแต่ไม่เข้า ทั้งนี้ก็เพราะเขาได้ปลักขิกหลวงปู่ทิมกับลูกอมมาแขวนไว้เพียงไม่กี่วัน และเรื่องเท่าที่ผมเห็นมาเกี่ยวกับปลักขิกก็คือหลานของผมถูกสุนัขกัดจนเสื้อออกางเกงขาดเป็นริ้วรอย ถึงกับล้มลงนอนร้องไห้ เมื่อผมวิ่งไปช่วยปรากฏว่าไม่มีรอยเขี้ยวสุนัขเลย เด็กคนนั้นมีแต่เพียงปลักขิกของหลวงปู่ทิมแขวนอยู่ที่เอว 1 อันเท่านั้น

๏น้ำมนต์เดือด๏
เมื่อราว พ.ศ.2511 ที่วัดตะพงนอก อ.เมือง จ.ระยอง ได้มีพิธีปลุกเสกพระเครื่องรางของขลังหลวงพ่อจันทร์ เจ้าอาวาสวัดตะพงนอก ในพิธีนี้ได้นิมนต์เกจิอาจารย์มาหลายรูปด้วยกัน และหลวงปู่ทิมก็ได้รับนิมนต์ด้วย หลังจากเริ่มพิธีปลุกเสก หลวงพ่อต่างๆ ก็ได้ทำการปลุกเสก และในพิธีนี้ อาจารย์รัตน์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดได้นำโอ่งใส่น้ำมนต์มาตั้งไว้ และนิมนต์หลวงปู่ทิมทำการปลุกเสกน้ำมนต์องค์เดียวท่ามกลางพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ปรากฏว่าน้ำมนต์ที่อยู่ในโอ่งใหญ่ครึ่งโอ่งพอหลวงปู่ลงมือปลุกเสกน้ำได้เดือดและค่อยๆ ทวีความสูงขึ้นท่ามกลางความอัศสสจรรย์ของผู้ที่ได้พบเห็นเป็นอ่างมาก ปรากฏว่าหลวงจากพิธีแล้ว น้ำมนต์ได้ถูกชาวบ้านแย่งเอาไปจนหมดสิ้น

๏ แคล้วคลาด๏
นายจำลองแห่งร้านทวีทรัพย์ ได้ชวนนายเพียรวิทย์ จารุสถิติ นายนิวัฒน์ ร้านรุ่งเรืองมิตร ได้ไปหาหลวงปู่ทิมเพื่อนมัสการท่าน ขากลับได้บูชาเหรียญ รูปถ่ายและปลักขิก กลับมาได้ครึ่งทางนายนิวัฒน์จึงชวนนายจำลองเพื่อขอลองของ ทั้ง 3 ก็ได้ทำการทดลองโดยทั้ง 3 นำเอาเครื่องรางดังกล่าวอาราธนาแล้วแขวนกิ่งต้นไม้ นายจำลองได้ใช้ปืน .22 ยิงในระยะห่างกันประมาณ 1 คืบ ปรากฏว่ายิงไม่ถูก นายนิวัฒน์จึงขอยิงบ้าง จ่อยิงปรากฏว่าไม่ถูกอีกเช่นกัน ทั้งคู่บอกว่าถ้าระยะนี้ยิงไม่ถูกก็ไม่ต้องใช้ปืนแล้ว เพราะทั้งคู่เป็นผู้ที่สนใจปืนอยู่แล้ว

๏ถ่ายรูปหลวงปู่ไม่ติดถ้าไม่ขออนุญาต๏
เมื่อคราวปลุกเสกของที่วัดพลา จังหวัดระยอง หลวงปู่ได้รับนิมนต์ไปนั่งปลุกเสกด้วย มีช่าวภาพหนังสือพิมพ์ไปถ่ายรูปโดยไม่ขออนุญาตจากหลวงปู่ก่อนปรากฏว่า กดชัตเตอร์เท่าไรๆ ชัตเตอร์ก็ไม่ทำงาน แต่พอนึกได้เข้าไปขออนุญาตก็ติดและได้ภาพที่ชัดเจนดี

เสกตะกรุดใต้น้ำ
คุณป้าอยู่ งามศรี บ้านอยู่ใกล้ๆ วัดละหารไร่และเป็นหลานของหลวงปู่ทิมได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อสมัยหลวงปู่ทิมอายุประมาณ 60-70 ปี เวลาท่านทำตะกรุดท่านจะลงไปทำใต้น้ำโดยถือตะกรุดแล้วเดินลุยน้ำลงไปจากศาลาหน้าวัด มีผู้เห็นกันหลายคน เมื่อหลวงปู่ทิมทำตะกรุดเสร็จเดินลุยน้ำขึ้นมาทุกคนประหลาดใจ เพราะเนื้อตัวและจีวรของหลวงปู่ทิมหาได้เปียกน้ำไม่

๏ เสกตะกรุดลอย๏
ท่านอาจารย์รัตน์ เจ้าอาวาสวัดหนองกระบอก อ.บ้านค่าย จ.ระยองเล่าให้ฟังว่า หลวงปู่ทิมเป็นพระที่มีพลังจิตกล้าแข็งมากสามารถเสกจนตะกรุดลอยได้ ท่านเล่าว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งได้นิมมนต์พระอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดระยองมา 4 รูปด้วยกัน มีหลวงพ่อหอม หลวงพ่ออ่ำ หลวงพ่อชื่น และหลวงปู่ทิม ให้หลวงพ่อที่มาทั้ง 4 รูปนำตะกรุดสาริกามาด้วย แล้วนำลงใส่บาตรให้หลวงพ่อทั้ง 4 องค์นั่งล้อมรอบบาตร และขอให้ท่านทุกองค์เรียกตะกรุดให้ลอยขึ้นจากบาตร หลวงพ่อหอม เป็นผู้เรียกก่อนโดยนั่งบริกรรมอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่ปรากฏว่าตะกรุดลอยขึ้นมา จากนั้นหลวงพ่ออ่ำ และหลวงพ่อชื่อก็ได้นั่งบริกรรมทำนองเดียวกัน ตะกรุดก็ไม่ยอมลอยขึ้น จนถึงองค์สุดท้ายคือหลวงปู่ทิม ท่านนั่งบริกรรมอยู่สักครู่ก็ปรากฏว่าตะกรุดลอยขึ้นมาจากก้นบาตร หลวงพ่อหอมและเจ้าอาวาสวัดหนองกระบอกเห็นเช่นนั้นก็ตกใจแลบอกว่า ขอให้ช่วยทำให้วิ่งรอบบาตรด้วย หลวงปู่ทิมก็นั่งหลับตาภาวนา ตะกรุดก็วิ่งอยู่รอบๆ บาตรท่ามกลางความตื่นตะลึงของพระสงฆ์ทุกองค์ และเรื่องนี้ได้เป็นที่โจษขานกันทั่วไปในจังหวัดระยอง

อำนาจจิตอันกล้าแข็งของหลวงปู่ทิม
แม้แต่เครื่องปั่นไฟท่านก็สามารถบังคับให้หยุดได้โดยไม่ทราบสาเหตุ คือ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่วัดละหารไร่มีลิเกมาเล่น พอลิเกกำลังจะออกแขกก็ปรากฏว่าไฟฟ้าดับพรึบลง พอแขกเข้าโรงไฟฟ้าก็สว่างขึ้นเป็นอย่างนี้ถึง 3ครั้ง จนต้องมีคนเตือนคณะลิเกให้ไปขออนุญาตหลวงปู่ทิมเสียก่อน เมื่อไปขออนุญาตแล้วก็ปรากฏว่าไฟฟ้าที่เคยติดๆ ดับๆ ก็ติดสว่างตลอดทั้งคืน

ขอบคุณที่มาดีๆจาก ตำนานเล่าขานพระผู้ทรงฌานอภิญญา ครูบาอาจารย์ผู้เรืองวิชาอาคม

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: