1630.พระเครื่องที่พุทธคุณ ยิงไม่ออกฟันไม่เข้า

พระเครื่องที่พุทธคุณ ยิงไม่เข้าฟันไม่ออก

พระดังในอดีตที่ขึ้นชื่อลือเลื่องในพุทธคุณด้านแคล้ว คลาดยิงไม่เข้าฟันไม่ออก คงกระพันชาตรี ประเภทแรกต้องยกให้ “พระเครื่องตระกูลยอดขุนพล” ไม่ว่าจะเป็น พระร่วงหลังรางปืน พระหูยาน พระท่ากระดาน พระพุทธชินราชใบเสมา พระมเหศวร และ พระยอดขุนพลกรุต่างๆ ล้วนแล้วแต่มีชื่อเสียงในเรื่องความ “เหนียว” ทั้งสิ้น

สังเกตให้ดีพระตระกูลนี้จะเป็นพระประเภทเนื้อ “ชิน” ซึ่งมีความหมายถึง “ชินะ หรือชนะ” บวกกับการผสมแร่โลหะอันมีคุณวิเศษต่างๆ ยิ่งทำให้เป็นที่เสาะแสวงหา พระเครื่องบางประเภทยังถูกผูกเข้ากับตำนานวีรบุรุษ เช่น ความแคล้วคลาดขององค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ถูกพระมหาอุปราชาจ้วงฟันด้วยพระแสงของ้าว แต่ด้วยพุทธคุณขององค์พระที่ได้รับการอัญเชิญให้ประดิษฐานบนพระมาลาทำให้เพียงถูกขอบ จนเรียกพระมาลาเบี่ยงมาแต่นั้น ทำให้เกิดความเชื่อว่าเกี่ยวพันกับองค์พระประเภทยอดขุนพล เช่น พระร่วงหลังรางปืน พระหูยาน หรือพระพิจิตร ส่วน “พระมาลาเบี่ยง” ประดิษฐานที่พระที่นั่งจักรพรรดิพิมานนั้น พระพุทธรูปที่ประดิษฐานรายรอบพระมาลาเบี่ยงเป็นพระพุทธศิลปะเขมรแบบบายน ราวพุทธศตวรรษที่ 18 เป็นพระพุทธรูปทองคำรายล้อม 21 องค์ แบ่งเป็นพระพุทธรูปประทับยืน และพระพุทธรูปประทับนั่ง

นอกจากนี้พระเครื่องที่ขึ้นชื่ออีกตระกูลหนึ่งคือพระสมเด็จทุกวัด ของสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี ไม่ว่าจะเป็นวัดระฆังโฆษิตาราม วัดบางขุนพรหม (วัดใหม่อมตรส) วัดไชโยวรวิหารหรือเกศไชโย นอกจากมีพุทธคุณครอบจักรวาลในฐานะจักรพรรดิแห่งพระเครื่องแล้ว ยังได้รับการร่ำลือถึงความแคล้วคลาดปลอดภัย เช่น เรื่องของ “ลุงพุฒิ” อันเป็นเจ้าของพระสมเด็จองค์งามที่เดิมเป็นของคุณฉลี ยงสุนทร ปัจจุบันอยู่กับ “รังใหญ่” คุณไชยทัศน์ เตชะไพบูลย์ (โป๊ยเสี่ย) กล่าวกันว่าลุงพุฒิแกขี้เมาพกพระสมเด็จฯ เดินไปเดินมา คนก็จ้องจะดักตีเอาพระ แต่ไม่เคยดักตีแกได้เลยไม่ว่าแกจะเมาขนาดไหน

อีกทั้งยังมีเรื่องจริงไม่อิงนิยายที่คุณนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ รอดจากการถูกรุมสกรัมตอนม็อบบุกมาได้ ทั้งเนื้อทั้งตัวแขวนพระสมเด็จวัดระฆังฯ อยู่องค์เดียว

ไม่นับการยิงอดีตส.ส.ประชา ประสพดี ที่แขวนพระสมเด็จวัดบางขุนพรหม ซึ่งถูกลั่นกระสุนใส่ขณะกำลังเอี้ยวตัวเก็บพระสมเด็จวัดบางขุนพรหมให้เข้าไปในอกเสื้อพอดีทำให้กระสุนถูกที่ไม่สำคัญ

พระเครื่องอีกประเภทหนึ่งที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงเรื่องเหนียว ได้แก่ พระ 25 พุทธศตวรรษ ทั้งเนื้อชินและเนื้อดิน มีเรื่องเล่าว่า ฯพณฯ จอมพล ป.พิบูลสงคราม พกพาติดตัวเป็นประจำทำให้รอดพ้นจากการลอบสังหารด้วยยาพิษ และอาวุธต่างๆ อย่างน่ามหัศจรรย์ และเป็นที่กล่าวขวัญในวงการนักเลงโดยเฉพาะเนื้อดินว่าสมัยก่อนคนจะทัดไว้กับใบหู มีนักโทษแหกเรือนจำแย่งปืนจากผู้คุมแล้วรัวยิงปรากฏว่ากระสุนไม่ระคายผิวผู้คุมดังกล่าวแม้แต่นัดเดียว เรียกว่าเป็นของดีราคาถูก

ส่วนพระที่ทุกคนรู้จักกันดีในทางแคล้วคลาดได้แก่พระของพระครูวิมลคุณากร หรือหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านทำไว้แจกชาวบ้านให้อยู่รอดปลอดภัย เรียกว่าใครแขวนหลวงปู่ศุขไว้ไม่มีอันตรายใดๆ มาแผ้วพาน ได้รับความนิยมทั้งสองริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาจากปากคลองมะขามเฒ่าจนถึงกรุงเทพฯ

เช่นเดียวกับพระเครื่ององค์สำคัญ พระวัดรังสี (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งคณะเหลืองรังสี วัดบวรนิเวศวิหาร กทม.) ถึงขนาดสมเด็จกรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ทรงนิพนธ์ไว้ในของดีกรุงรัตนโกสินทร์ว่า “ผู้ใดมีพระวัดรังสี ผู้นั้นชีวีไม่วางวาย” นอกจากนี้ยังมีพระประเภทหนึ่งสมัยก่อนเขาฝนให้วัวกินแข่งขวิดกันเรียกว่าอีกตัวขวิดไม่เข้า ได้แก่ พระผงสุพรรณ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สุพรรณบุรี ที่ได้รับการยกย่องเป็นสุดยอดพระเครื่องในเบญจภาคีนั่นเอง

ช่วงนี้อยู่ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง ใครใคร่อาราธนาพระเหนียวๆ เอาไว้ป้อง กันตัวก็เลือกกันเอาเองแล้วกันครับผม

คอลัมน์ พันธุ์แท้พระเครื่อง
โดย ราม วัชรประดิษฐ์
http://www.itti-patihan.com/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%…

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: