1028. ประสบการณ์โหดคู่ใจสายแข็ง อภินิหารตะกรุดโทน หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่

สมัยก่อนมีศิษย์ถามหลวงปู่เดินหนเมื่อราวปี พ.ศ. ๒๕๐๐ เศษ ว่าในภาคกลางเวลานั้นมีพระเกจิอาจารย์ใด ที่หลวงปู่เห็นว่าแก่กล้าทางเหนียวคงอย่างเอกอุ ซึ่งศิษย์ทราบดีว่าพระเกจิอาจารย์ใดก็ตาม ที่เก่งขนาดหลวงปู่จะเอ่ยปากชมนั้นมีน้อยมาก โดยมากท่านจะบอกเพียงแค่พอใช้ได้เท่านั้น เมื่อศิษย์อยากทราบถึงยอดเกจิอาจารย์ทางเหนียวคงของภาคกลาง หลวงปู่เดินหนท่านตอบสั้น ๆ ว่าอยู่สุพรรณบุรี ชื่อมีตัวอักษรนำหน้าด้วยตัว **ม** ศิษย์ไปสืบหาจนได้รู้จักหลวงพ่อมุ่ย

ซึ่งเวลานั้นท่านยังไม่โด่งดังเป็นที่รู้จักแพร่หลายมากนัก ภายหลังศิษย์มาถามว่าใช่หลวงพ่อมุ่ยหรือไม่ หลวงปู่ท่านตอบว่า **อืม..ใช่** ภายหลังลูกศิษย์หลวงปู่เดินหนเดินทางไปกราบหลวงพ่อมุ่ยกันพอสมควร เมื่อศิษย์หลวงปู่เดินหนไปกราบหลวงพ่อมุ่ยก็ได้ประจักษ์ในอภินิหารหลายประการ แต่ยังไม่ขอนำมาบอกเล่าในบทความนี้

หากกล่าวถึงประวัติหลวงพ่อมุ่ย ข้าพเจ้ามักนึกถึงสหายผู้หนึ่งคือ คุณกนก ขำสุวรรณ (หนุ่ม สุพรรณ) ผู้เขียนประวัติหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ จนโด่งดังเป็นมาตรฐานมาจนตราบทุกวันนี้ บทความนี้ข้าพเจ้านำข้อเขียนของคุณกนกมาเผยแพร่ ให้ท่านที่ยังไม่เคยได้ทราบอภินิหารของหลวงพ่อมุ่ยว่า ท่านจัดเป็นที่สุดของพระเถราจารย์ของจังหวัดสุพรรณยุคหลังกึ่งพุทธกาลก็ไม่ผิด ทั้งเป็นพระอาจารย์ที่หลวงปู่เดินหนออกปากรับรองว่า **เก่ง** มั่นใจเหลือเกินว่าท่านต้องสุดยอดอย่างไม่ต้องสงสัยใดเลย ประสบการณ์ต่อไปนี้เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งจากประสบการณ์ของศิษย์เท่านั้น

ประสบการณ์ตะกรุดโทนรุ่นโพลาลิส
ตะกรุดรุ่นนี้สร้างแจกผ้าป่า บริษัทน้ำดื่มโพลาลิส จังหวัดนนทบุรี ตะกรุดชุดนี้ อาจารย์ฝ้าย นาสุขแสง ศิษย์หลวงพ่อมุ่ยเป็นผู้ลงยันต์ สมัยนั้นให้บูชาดอกละ ๑๐๐ บ. นับว่าแพงมาก แต่ก็มีผู้สนใจเช่ากันมากมายทำกันไม่ทัน เพราะปรากฏพุทธคุณแก่ผู้ใช้อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะกลุ่มลูกศิษย์จาก บริษัทโพลาลิส ประสบการณ์ที่ดังมากเป็นเรื่องของ คุณเจริญ หรือที่เรียกกันว่า โกจง อดีตพนักงานบริษัทโพลาลิส ครั้งร้ายแรงที่สุดถึงขนาดหลวงพ่อมุ่ยมาเข้าฝัน ในฝันท่านหยิบตะกรุดที่โต๊ะหมู่บูชามาส่งให้แล้วกล่าวว่า **ถ้าไม่คาดตะกรุดมึงตายแน่** แล้วก็จริงดังความฝัน เพราะอีก ๒ วันต่อมา โกจงได้ไปกินเลี้ยงฉลองปีใหม่จนกระทั่งรุ่งเช้า ขณะเดินทางกลับได้เฉี่ยวชนกับรถของทหาร แถวซอยรางน้ำย่านสะพานควาย (อาจเป็นทหารนอกแถวเพราะเป็นช่วงหลังเหตุการณ์ ๑๔ ตุลามาหมาด ๆ ) ตัวโกจงซึ่งกำลังเมาอยู่ท้ายกระบะรถไม่รู้อิโหน่อิเหน่ พอลงมาก็ถูกยิงเป็นชุดตามหน้าอกพรุนไปหมด บริเวณต้นขากระเป๋าสตางค์ใบขับขี่เป็นรูกระสุนทะลุหมดแต่ไม่เข้า

แต่กลายเป็นฝ่ายตรงข้ามที่มีฅนมากกว่าที่ได้รับบาดเจ็บ เพราะทางโกจงได้ตอบโต้กลับจึงได้ล่าถอยไป อีก ๒ วันต่อมา ขณะโกจงไปทำงานที่บริษัทโพลาลิส ตามปกติ เห็นมีรถทหารชุดเก่าขับมาจอดที่หน้าบริษัท พอเห็นโกจงเดินโขยกเขยกออกมาก็เผ่นขึ้นรถกันหมด โกจงบอกว่าคงตกใจที่เห็นแกยังไม่ตาย ได้ถามดูว่าตอนโดยยิงแล้วยืนสู้กับเขา แกมีความรู้สึกเจ็บบ้างหรือเปล่า โกจงตอบว่า **ไม่รู้สึกเจ็บเลย** โดยเฉพาะที่หน้าอกไม่มีรอยฟกช้ำเลย

แกอธิบายต่อไปว่าตอนเกิดเหตุเป็นหน้าหนาว จึงใส่เสื้อ ๒ ชั้น ชั้นในใส่เสื้อไหมพรมถัก ชั้นนอกใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว กระสุนปืนทะลุแต่เสื้อชั้นนอก พอถูกเสื้อชั้นในกระสุนก็หมดแรงจึงไม่รู้สึกเจ็บ แสดงว่านอกจากคงกระพันเป็นเยี่ยมแล้ว ยังมีชาตรีเป็นยอดอีกด้วย ส่วนที่เจ็บก็คือบริเวณขานั่นเอง เคยทราบว่าตะกรุดหลวงพ่อมุ่ยมีเคล็ดอยู่อย่างคือ **ใส่เสื้อชั้นเดียวเป็นคงกระพัน ถ้าใส่เสื้อสองชั้นเป็นชาตรี** จริงไม่จริงไม่รู้ แต่พูดจากประสบการณ์ของโกจงทั้งสิ้น

แสดงอภินิหารในต่างแดน
เคยมีผู้เล่าให้ฟังว่าน้าชายเขาเป็นทหารไปรบที่เวียดนาม ได้ตะกรุดจากหลวงพ่อมุ่ยไป ๑ ดอก ใส่เอวติดตัวตลอดจนกระทั่งสายตะกรุดขาดเพราะว่าคมของขอบตะกรุด บรรดาเพื่อนทหารจึงขอลองเอาสายตะกรุด โดยนำไปห้อยไว้กับกิ่งไม้แล้วยิงด้วยปืนเอ็ม ๑๖ ประจำกาย ปรากฏว่าแม้แต่สายตะกรุดก็ยังยิงไม่ออก ต่อมาพอปลดประจำการ จนไปทำงานในตะวันออกกลางที่เกิดสงครามอ่าวเปอร์เซีย แกก็ยังใช้ตะกรุดดอกเดิมติดตัวอยู่ตลอด แม้ว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับสงครามก็ตาม แต่เคยถูกทหารสัมพันธมิตรเข้าไปกวาดต้อนออกมาจากโรงงาน พอเห็นพวกเพื่อนวิ่งหนีตนเองก็เลยหนีตามเขา แต่ดันไปหนีจนตรอก พอจวนตัวจึงนึกถึงหลวงพ่อมุ่ย

ปรากฏว่าพวกทหารที่ติดตามมาประชิดตัว พอเห็นแกเท่านั้นก็พากันตกใจวิ่งหนีกันไปหมด ฟังเสียงที่ร้องโวยวายพอจับใจความได้ว่า **ไทเกอร์ ไทเกอร์ ไทเกอร์** เข้าใจว่าพวกทหารฝรั่งคงเห็นแกเป็นเสือ หรือะไรในทำนองนั้นก็เป็นได้ แสดงว่าตะกรุดหลวงพ่อมุ่ยดีทุกทาง ด้วยพลังอำนาจจิตที่ท่านประสิทธิ์ไว้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย

คาถาอาราธนาตะกรุดหลวงพ่อมุ่ย
นะโม ๓ จบ
พุทธัง อาราธนานัง ธัมมัง อาราธนานัง สังฆัง อาราธนานัง พระวิญญาณสัมปันโน อิติปิโส นะโมพุทธายะ พุทโธ พุทธัสสะ อิทธิ ริทธิ พุทธนิมิตตัง พุทโธ อะสังวิสุโลปุสะพุภะ ฯ.

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : ฅนขลัง คลังวิชา
รูปภาพสวยๆจาก : พระครูสุวรรณวุฒาจารย์ – หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: