1560.หลวงปู่วัน จันทวังโส “หลวงปู่เขี้ยวเสือ” วัดโนนไทย

ประวัติ หลวงปู่วัน เทวดาขมังเวทย์แห่งเมืองขุน

หลวงปู่วัน จันทวํโส (เทวดาขมังเวทย์แห่งเมืองขุน)
เดิม ชื่อนายวัน ทาประจิตร เกิดเมื่อ ไม่ทราบวันเกิดที่แน่นอน แต่เกิดปี พ.ศ.๒๔๗๐ เป็นบุตรของ นายจันทร์ และ นางทองดี ทาประจิตร มีพี่น้อง ๑๒ คน นายวันเป็นคนที่ ๒ มีอาชีพทำไร่ทำนา แต่ เด็กชายวันมีนิสัยที่ไม่เหมือนใคร ในหมู่พี่น้อง เป็นคนเรียบร้อยไม่ค่อยพูด ชอบไปเล่นที่วัด จนต้องขอพ่อกับแม่ บวชเป็นสามเณร หลังจากบวชก็ตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัย จนสอบได้นักธรรมชั้นเอก หลังจากจบจึงได้ออกเดินทางศึกษาต่อ โดยได้ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง ด้วยความตั้งใจใฝ่ศึกษาหาความรู้ของสามเณร วัน หลวงปู่ชาจึงได้ถ่ายทอดวิชา เมตตาและค้าขายให้ หลังจากอยู่ศึกษากับหลวงปู่ชา ได้ ๑ ปี จึงได้อำลาหลวงปู่ชาเพื่อไปศึกษาหาความรู้ที่ใหม่อีก

จึงได้มาพบกับอาจารย์ กระมัล ซึ่งอาจารย์กระมัลจึงถ่ายทอดวิชาปราบเสือให่แก่สามเณรวัน พอเรียนจบ สามเณรวัน จึงขอกราบลาอาจารย์กระมัล เพื่อออกเดินธุดงค์ ในป่าเพื่อแสวงหาความรู้ และศึกษาพระธรรมวินัยจากธรรมชาติ ท่านได้เดินธุดงค์ไปตามป่าเขาจนได้มาพบกับอาจารย์น้อย วัดถ้ำผาเสด็จ จึงได้ขอศึกษาเล่าเรียนกับอาจารย์น้อย ด้วยความตั้งใจใฝ่รู้ของสามเณรวัน

อาจารย์น้อยจึงได้ถ่ายทอดวิชา คงกระพัน เพื่อใช้ป้องกันตัวให้แก่สามเณรวัน หลังศึกษาวิชาจบแล้วจึงได้กราบลาอาจารย์น้อยออกเดินธุดงค์ต่อไปโดยเดินธุดงค์ตามป่าเขาเขตแนวชายแดนกัมพูชา ระหว่างนั้นเดินธุดงค์ถึงน้ำตกแห่งหนึ่งใกล้ชายแดนกัมพูชา สามเณรวัน ได้พบกับชีผ้าขาวท่านหนึ่งจึงได้ขอเรียนวิชากับชีผ้าขาวท่านนั้น

ได้ศึกษาวิชากับชีผ้าขาวอยู่ ๓ เดือนก็สำเร็จวิชาที่ชีผ้าขาวถ่ายทอดให้ และจึงได้เดินธุดงค์ต่อเข้าไปที่ประเทศกัมพูชา และได้ศึกษาวิชาอาคมกับเกจิอาจารย์ที่กัมพูชาอีกหลายองค์ เมื่อสำเร็จวิชาจากอาจารย์ทางฝั่งกัมพูชา ท่านจึงเดินธุดงค์ต่อไปทางฝั่งประเทศลาวใกล้กับช่องเม็ก จึงได้พบกับนายพลลาวท่านหนึ่ง ได้สนทนากับนายพลลาวจนนายพลลาวเลื่อมใสในกิจวัตรและความใฝ่ศึกษาเรียนรู้

นายพลลาวจึงสอนวิชาปราบผีให้ สามเณรวัน ศึกษาไม่นานก็สำเร็จ หลังจากนั้น อายุท่านครบเกณฑ์ทหาร จึงลาสิกขาเพื่อรับการเป็นทหาร ขณะที่เป็นทหารท่านได้รับคำสั่งจากกองร้อยให้ไปปราบคอมมิวนิสต์ ที่อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม ช่วงนั้นท่านก็ได้ทำตะกรุดแจกเพื่อนทหารที่ไปด้วยกัน และในขณะที่กำลังหุงหาอาหารในกองร้อย ก็เกิดมีลูกปืนใหญ่ถูกยิงมาตกจุดที่หุงหาอาหารพอดี

แต่ลูกปืนใหญ่ไม่แตกและไม่มีผู้ใดได้รับอันตรายจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น จนพลทหารวัน ได้รับการแต่งตั้งเลื่อนขั้นเป็นสิบตรี ท่านได้ใช้ชิวิตเป็นทหารและเป็นพลเรือนอยู่ระยะหนึ่ง แล้วเมื่อปีพ.ศ.๒๕๓๓ท่านจึงได้ลาครอบครัว เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้ง ตามความมุ่งหวังตั้งแต่

สมัยเป็นสามเณร ท่านได้บวชที่วัดบ้านนานวลและมาจำพรรษาที่วัดบ้านน้ำเกลี้ยง อำเภอสำโรง จังหวัดอุบลราชธานีหลังจากจำพรรษาได้ระยะหนึ่งท่านก็เกิดร้อนอยากออกเดินธุดงค์เพื่อศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ท่านจึงได้พบกับหลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน เมื่อท่านได้สนทนาธรรมกับหลวงปู่สรวง หลวงปู่สรวงจึงได้ถ่ายทอดวิชา วิชารักษาคนป่วย ถอดคุณไสย์ และอีกหลายวิชา เมื่อเรียนสำเร็จ แล้ว หลวงปู่สรวงจึงได้ปรารภกับหลวงปู่วันว่า “เอ็งจงกลับไป แล้วไปรักษาคนป่วย ช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ เพราะแต่ก่อนเอ็งเคยเป็นเทวดา ให้กลับไปนะ”

หลังจากนั้นหลวงปู่วัน จึงได้กลับไปเมืองขุนหาญ มาจำพรรษาที่วัดบ้านหนองจิก ตำบลภูฝ้าย อำเภอขุนหาญ ก่อนในครั้งแรก ระหว่างจำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านหนองจิกท่านเห็นว่าบ้านโนนไทยเจริญห่างออกไปประมาณ ๒ ก.ม. ยังไม่มีวัดท่านจึงได้รวบรวมปัจจัยซื้อที่ดินสร้างวัดใหม่ที่บ้านโนนไทยเจริญ(ชื่อวัดภูไทยสามัคคี) ตำบลภูฝ้าย อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ ท่านจึงได้มาจำพรรษาที่วัดภูไทยสามัคคี ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นวัดโนนไทยเจริญจนปัจจุบัน

หลวงปู่วัน ท่านเป็นพระอริยะที่มีแต่ความสงบร่มเย็นในจิตใจ ท่านไม่เป็นผู้ที่โอ้อวดว่ามีวิชาอาคมขลัง ท่านจะไม่แสดงออก นอกจากว่าจะมีลูกหลานหรือญาติโยมผู้มาขอความช่วยเหลือเมื่อเจ็บป่วยและเดือดร้อนท่านก็ทำให้หายได้

แต่เมื่อคนหายป่วยกลับไปไปพูดก็ไม่ค่อยมีคนเชื่อ ท่านก็ได้แต่บอกว่าไม่ต้องพูดอะไรมาก แล้วแต่บุญใครบุญมัน เมื่อบุญเขามีเขาก็จะเข้าถึงเอง หลวงปู่วันท่าน สมถะมีจริยวัตรที่งดงาม ใครนิมนต์ไปที่ใดท่านไม่เคยปฏิเสธเลย ลูกศิษย์ลูกหาขอให้ท่านทำกิจอันใดท่านก็จะไม่บอกว่าทำไม่ได้หรือทำไม่เป็น ท่านจะทำทุกอย่างที่ลูกศิษย์ขอ ท่านจึงเริ่มเป็นที่รู้จักของพุทธสานิกชนมากขึ้น

เมื่อบิ๊กเฒ่า ร้านแฮปปี้คาร์ศรีสะเกษ ได้ไปกราบสักการะหลวงปู่วัน และได้มีประสบการณ์กับตัวเองจึงได้มาเล่าสู่ญาติมิตรและเพื่อนๆฟัง ต่างก็เลื่อมใสศรัทธาหลวงปู่วัน เป็นยิ่งนัก แต่ถึงกระนั้นหลวงปู่วันท่านก็ไม่ได้อวดโอ้ว่ามีวิชาอาคมขลังแต่อย่างใด มีแต่ลูกศิษย์ลูกหาที่ประสบพบเหตุการณ์กับตัวเองที่พูดปากต่อปากถึงพุทธคุณ วิชาอาคมขลังของหลวงปู่วัน ท่านจึงเป็นพระที่น่าเคารพนับถืออีกองค์หนึ่ง ในกาลปัจจุบันนี้

แอพเกจิ

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: