3627. อภินิหารหนุมานคลุกฝุ่น (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

ไพฑูรย์เล่าว่าในชีวิตของอาชญากรได้เผชิญกับสิ่งเลวร้ายมาแล้วทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นคาถาอาคม มนตราทั่วไปจนถึงมนต์ดำต่างๆทั้งปลัดขิก อีเป๋อ อิ้น ที่ล้วนแต่ทำให้ผู้มีคาถาอาคมถึงกับเสื่อม ไพฑูรย์บอกว่าคำว่าเสื่อมในที่นี้หมายถึงการไม่อาจทำให้คาถาอาคมเกิดความสัมฤทธิ์ผลไปชั่วระยะหนึ่ง

หากท่านผู้อ่านเคยอ่านเรื่องที่ไพฑูรย์เขียนเกี่ยวกับผู้สักปลัดขิกไว้ที่โคนขาเมื่อร่วมเพศกับสตรีแล้วจะเอาผ้าเช็ดหน้าสีขาวมาซับของเหลวที่เกิดขึ้นเอามือลูบของเหลวไปทาที่รอยสักกับผ้าเช็ดหน้าทุกครั้งจนผ้าเช็ดหน้าเป็นรอยด่างดำไปทั้งผืน

พอจะสู้กับใครก็เอาผ้าสกปรกนั้นโบกข้ามศีรษะคู่ต่อสู้หรือสะบัดให้ถูกหน้าอำนาจแห่งอาคมที่อยู่ในตัวจะเกิดความชะงักไปชั่วขณะที่เคยคงกระพันชาตรีก็ยุ่ยเหมือนหยวกกล้วยถูกคนสักปลัดขิกเล่นงานถึงตาย

การฆ่ากันในคุกศาลสั่งจำคุกเพิ่มไม่เห็นเป็นไรในเมื่อคดีเก่าก็โทษหนักอยู่แล้วคนพวกนี้จึงไม่เคยยี่หระแต่พวกนี้พอมาเจอกับไพฑูรย์แทนที่ไพฑูรย์จะใช้คาถาอาคมกลับกินว่านแทนเพราะว่านเป็นของดีตามธรรมชาติ ยางว่านออกฤทธิ์ทำให้คงกระพันแม้จะเอาผ้าสกปรกมาฟาดก็ไม่ทำให้อำนาจของว่านเสื่อมลงได้

เพราะว่านจะเสื่อมฤทธิ์หลังจากปัสสาวะครั้งหนึ่งต้องกินว่านใหม่เรียกกันว่า ”ว่านอยู่แค่ 1 ช่วงเบา”

หมายความว่ากินว่านเข้าไปแล้วว่านจะออกฤทธิ์ได้จนกว่าผู้กินว่านจะไปปัสสาวะจึงต้องกินใหม่ ปลัดขิก อีเป๋อ อิ้น เป็นศาสตร์คล้ายกันไพฑูรย์เคยพบมาแล้วจึงได้นำประสบการณ์มาเขียนถ่ายทอดให้คนรุ่นหลังได้จดจำดังที่ได้เคยลงให้อ่านผู้อ่านไปหลายตอน

สำหรับตอนนี้จะขอพูดถึงเรื่องวิชาหนุมานคลุกฝุ่น

นักโทษชายเหลืองเป็นนักโทษจากมหาสารคามศาลตัดสินจำคุก 20 ปีในความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อนแต่รับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีทั้งชั้นพนักงานสอบสวนไปจนถึงอัยการแผ่นดิน ดังที่ไพฑูรย์ได้ย้ำเสมอว่าในคุกมีขาใหญ่ที่มีอิทธิพลคอยควบคุมนักโทษในแดนเดียวกันให้ยอมศิโรราบ

นักโทษคนไหนหน้าตาดีผิวขาวก็เอาไปทำน้อง(เมียที่เป็นผู้ชายด้วยกัน) เรื่องน้องในคุกไพฑูรย์เล่าว่ามีอยู่ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันก็ยังมี เพราะว่าตัณหาในตัวมนุษย์มีอยู่ทุกคนยิ่งมาอยู่ในคุกมีแต่ผู้ชายล้วนเกิดอารมณ์ให้ขึ้นมาก็ระบายออกกับนักโทษชายด้วยกันเพียงเพื่อให้ราคะได้รับการบำบัด

นักโทษชายจำรัสเกิดมาติดเนื้อต้องใจนักโทษชายเหลืองพยายามที่จะโน้มน้าวให้มาเป็นน้องแต่นักโทษชายเหลืองไม่เล่นด้วยเขาเป็นชายทั้งแท่งไม่เคยคิดจะเป็นน้องแม่สื่อที่มาติดต่อโดนแม่ไม้มวยไทยโคราชฝีมือนักโทษชายเหลืองคางเหลืองไปหลายราย

ในที่สุดนักโทษชายจำรัสต้องลงมือเองโดยใช้การวางยาที่เรียกว่า”กล่อมนางนอน” มีดอกลำโพง ลูกลำโพงบดผสมกับกระท่อมเจือด้วยฝิ่นหรือกัญชา บังเอิญไพฑูรย์สังเกตเห็นความผิดปกติของนักโทษชายเหลืองจึงช่วยเหลือถอนพิษกล่อมนางนอนรอดไปได้หวุดหวิดนักโทษชายจำรัสถึงกับมาหาไพฑูรย์เพื่อต่อว่า

”อาจารย์ปกติเป็นสิงโตหินไม่ยุ่งกับใครแต่คราวนี้อาจารย์ไปช่วยไอ้เหลืองให้พ้นจากการเป็นน้องของผมมันเป็นการละเมิดกฎที่ถือกันมาอย่างรุนแรงผมต้องมาพูดกับอาจารย์ให้รู้เรื่องกันไปไม่งั้นมันคาใจ”

”นายจำรัสที่เราช่วยนายเหลืองก็เพราะว่าเราคิดว่านายเหลืองผิดสำแดงอาหารจึงถอนให้ต่อมาจึงพบว่าเป็นยากล่อมนางนอนเราไม่ยุ่งเรื่องของใครอยู่แล้วนายก็รู้นี่นา”

”ถึงกระนั้นก็ยังถือว่าเป็นการทำไม่ถูกแต่เห็นกลับว่าอาจารย์เป็นผู้ที่นักโทษชายส่วนใหญ่นับถือจึงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นแต่คราวหน้าหากเกิดเรื่องเช่นนี้อีกผมจะไม่เกรงใจอาจารย์อีกเลย”

ไพฑูรย์เล่าว่าโดนไม้นี้ต่อหน้านักโทษชายด้วยกันถือเป็นการสบประมาท หากไม่สำแดงอะไรออกไปสิงโตเห็นจะเหลือแต่เพียงชื่อและตำนานจึงต้องส่งเสียงคำรามเสียบ้าง

”นายจำรัสพูดอย่างนี้ก็ไม่ถูกคนเราจะเกรงใจหรือไม่มันอยู่ที่ใจจะมาข่มขู่สิงโตหินไม่ได้หากยังขืนยุ่งกับเราล่ะก็ เราก็ไม่เกรงใจนายเหมือนกัน”

เรื่องจบลงไปอีกหลายวันต่อมานายเหลืองมาพบไพฑูรย์
มาถึงก็ยกมือไหว้ขอบคุณที่ช่วยให้พ้นจากเงื้อมมือของนายจำรัสทั้งยังปรึกษากับไพฑูรย์ว่า

”อาจารย์หากผมจะท้าสู้กับเจ้าจำรัสจะเป็นไรไหมอาจารย์หากมันชนะผม ผมก็ยอมเป็นน้องแต่ถ้ามันแพ้ผม ผมจะเอามันทำน้องอาจารย์ว่ามันจะยอมหรือไม่”

” เราคิดว่ามันคงไม่ยอมเพราะมันเป็นขาใหญ่หากมันเกิดพลาดมันก็เสียหน้าเสียความเป็นขาใหญ่เอาเพียงว่าถ้ามันแพ้ก็อย่ามายุ่งกับนายอีกอย่างนี้มีหวังจะช่วยเจรจาให้เองไม่ต้องห่วง”

”ตกลงครับอาจารย์”

ไพฑูรย์ส่งจดหมายท้ารบให้กับจำรัสด้วยตัวเองแทนที่จะไหว้วานให้คนอื่นเป็นคนส่งจดหมายท้ารบจำรัสถึงกับออกปากว่า

”อาจารย์นี่แน่มากทำให้แมวเป็นเสือ”

ไอ้เหลืองมันกำแหงมากเอาล่ะผมจะสั่งสอนมันเองและจะได้มันมาเป็นน้อง ต้อดำล่ำบึกอย่างนี้ผมชอบมันดีนักแล

วันประลองเป็นวันอาทิตย์ที่แดนเกษตรไพฑูรย์ถามนายเหลืองว่ามีอะไรดีจึงกล้าลองดีกับนายจำรัส นายเหลืองจึงถอดเสื้อให้ดูด้านหลังที่สักเป็นรูปหนุมานหาวเป็นดาวเป็นเดือนมีอักขระกำกับไว้
โดยนายเหลืองบอกว่า

”หนุมานครับอาจารย์บุ่งบ้านคล้าแดงเป็นคนสักให้ผม ผมรอดมาได้ทุกครั้งก็ด้วยหนุมานที่ผมสักไว้นี่แหละครับ”

” เจ้าจำรัสเป็นครูสอนกระบี่กระบองที่สู้ได้ด้วยอาวุธหลายรูปแบบนายรับมือวันไหวหรือ”

”อาจารย์คอยดูก็แล้วกันผมจะไม่ทำให้อาจารย์ผิดหวังเป็นเด็ดขาด”

วันนัดมาถึงนายจำรัสถูกสมุนแบกใส่บ่าโฮ่ร้องข่มขวัญทั้งสองคนเผชิญหน้ากันไพฑูรย์เป็นกรรมการคนกลาง

”ต่อสู้กันแค่แพ้ชนะไม่เอากันถึงตาย”

นายเหลืองเลือกไม้ตะพดสวนนายจำรัสใช้คมแฝกก่อนไพฑูรย์ให้สัญญานายเหลืองก้มตัวลงเอามือซ้ายกอบฝุ่นที่พื้นมายืนภาวนาเอามาทาหน้าทาตัวตั้งท่ารับ

นายจำรัสตีคมแฝกรุกไล่นายเหลืองแบบไม่ให้ตั้งตัว แต่นายเหลืองรับไว้ได้การรุกขบวนแรกทำให้นายจำรัสหอบนายเหลืองก็หอบเหมือนกัน

ยกที่ 2 นายจำรัสตีไม้คมแฝกเป็นเพลงพิสดารแม้แต่ไพฑูรย์ยังคิดในใจว่า

”เสร็จมันทวารบาลแน่ไอ้เหลืองเอ๋ย”

ไพฑูรย์เล่าว่า เหมือนที่คิดไว้นายเหลืองรับพลาดไม้คมแฝกไม้หนึ่งรอดตะพดลงไปกลางกบาลนายเหลืองเต็มที่ลูกน้องนายจำรัสแหกปากเชียร์ดังสนั่นหวั่นไหวแม้ไม่แตกแต่นายเหลืองก็มือตกตาค้างทำท่าจะหลับกลางอากาศ

แต่นายจำรัสตามด้วยไม้ 2 ตีเข้าทัดดอกไม้แต่ยั้งมือเอาเพียงให้หลับคามือ

ไพฑูรย์เล่าต่อว่าเกิดเรื่องประหลาดต่อหน้าต่อตาเมื่อไม้สองกระทบทัดดอกไม้ดวงตาที่ค้างกลับเป็นปกติอาการที่กำลังสะลึมสะลือเปลี่ยนไปกลายเป็นคนใหม่ใช้ตะพดรุกไล่นายจำรัสจนถอยร่นไม่เป็นกระบวนเหมือนมีมหากำลังช้างสารยิ่งรุกไล่ยิ่งเหมือนมีแรงเพิ่มขึ้นนายจำรัสหอบยกคมแฝกรับช้าลง

ในที่สุดจุดจบเดินทางมาถึงปลายตะพดตวัดเข้ากระโดงคางแบบตีงัดขึ้น นายจำรัสตาค้างมือตกไม่ต้องตีซ้ำก็เข่าทรุดลงกับพื้นหงายหลังโคมหลังฟาดพื้นหลับสนิท

เสียงผู้คุมเป่านกหวีดดังมาแต่ไกลทุกคนรีบทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นตะพดกับคมแฝกถูกนำไปซ่อนส่วนนายจำรัสสมุนประคองปีกรีบนำตัวออกไปนักโทษทุกคนทำทีเป็นคุยกันตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นผู้คุมวิ่งมาเหนื่อยเปล่า

เรื่องผ่านไปนับแต่นั้นมานายจำรัสไม่มายุ่งกับนายเหลืองอีกนายเหลืองจึงเป็นอิสระไม่ต้องเป็นน้องนายจำรัสไพฑูรย์ถามนายเหลืองว่าวิชานี้เรียกว่าอะไรนายเหลืองอธิบายว่า

”เป็นวิชาที่เรียกว่าหนุมานคลุกฝุ่นสักเป็นรูปหนุมานหาวเป็นดาวเป็นเดือนซ่อนอักขระหัวใจไว้รอบตัวหนุมานมีอยู่ 9 ตัวดังนี้ ”หะ นุ มา นะ คลุก คลี ตี มะ อะ” ก่อนจะเข้าต่อสู้ให้ใช้มือหยิบฝุ่นบนพื้นดินมาเสกด้วยคาถาหนุมานคลุกฝุ่นว่า หะ นุ มา นะ คลุก คลี ตี มะ อะ สามจบจึงเอาฝุ่นทาตัว”

เมื่อถูกศัตรูตีครั้งแรกจะหมดเรี่ยวแรงแน่นอนคนเราได้ทีต้องตีไม่เลี้ยงจึงตีซ้ำไม้ 2 จะฟื้นคืนแรงเหมือนหนุมานถูกลมพัดกลับฟื้นคืนชีพขึ้นมา ตีเท่าไหร่ก็ไม่ล้มมีแรงเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่า

นายเหลืองหรือนักโทษชายเหลืองจดใส่กระดาษมอบให้ไพฑูรย์และกำชับว่าจะสักหนุมานหรือไม่ ไม่สำคัญใช้ได้หมดทุกคนเพียงแต่ว่าก่อนใช้ให้ใส่บาตรอุทิศกุศลให้อาจารย์บุ่งบ้านคล้าแดงเท่านั้นแล้วใช้ได้เลย

เคล็ดลับก็คือต้องปิดปากให้สนิทอย่าเที่ยวได้ไปคุยว่ากูแน่ตีไม้แรกสลบตีไหมสองฟื้นเพราะหากศัตรูรู้แกวจะตีไม้เดียวหนุมานจะนอนหลับเงียบไม่ลุกขึ้นมาอีกเลยถึงตอนนั้นตัวใครตัวมัน ไพฑูรย์เล่าแล้วก็หัวเราะอย่างอารมณ์ตีจนหน้าหงายเหมือนสิงโตหินเอียงคออย่างไรอย่างนั้น

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว
ขอขอบคุณรูปภาพสวยๆจาก : ภาพยนตร์เรื่องหนุมานคลุกฝุ่น
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: