547. บุพกรรมพญานาคสองผัวเมีย

องค์ท่านหลวงปู่ชอบถามถึงบุพกรรมของเจ้าจอมผาห่มพร้าวกับคู่บารมี กรรมอะไรที่ทำให้ท่านทั้งสองได้มาเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา กรรมอะไรที่ทำให้ท่านทั้งสองได้มาปกปักรักษาสมบัติของพระศาสนาอยู่ที่นี่?

กากะละนาคราชบอกองค์ท่านว่า ชาติที่ข้าพเจ้าเป็นมนุษย์ ข้าพเจ้าเป็นคนนักเลงใจร้อนมุทะลุ เมียข้าพเจ้าจึงชวนเข้าวัดปฏิบัติธรรมถือศีลอุโบสถในวันพระ บุญที่ข้าพเจ้ารักษาศีลห้าและศีลอุโบสถ ประกอบกับบุญที่ข้าพเจ้าอุปัฏฐากพระสงฆ์องค์เณร บุญกุศลนี้จึงส่งผลให้ข้าพเจ้าได้เกิดเป็นเทวะภูมิพญานาคในชาติปัจจุบัน

ตอนเป็นมนุษย์ปฏิบัติอยู่ในวัดวาศาสนา ข้าพเจ้าเผลอพลาดกรรมเพียงครั้งเดียวในการปฏิบัติต่อสมบัติศาสนา ข้าพเจ้ากับเมียยืมจอบเสียมมีดพร้าของวัดเอาไปปลูกผักทำไร่ พอพืชผักออกผลข้าพเจ้ากับเมียก็นำมาทำอาหารถวายพระสงฆ์องค์เณรในวัด มีดพร้าจอบเสียมที่ยืมของสงฆ์ไปชำรุดแตกหักข้าพเจ้าก็ไม่ได้นำมาใช้คืนให้สงฆ์ ปล่อยทิ้งสมบัติของสงฆ์เหล่านี้ไปเพราะชะล่าใจคิดว่ากรรมเล็กน้อยจักไม่เป็น ผลเพราะตนเองไม่มีเจตนายักยอกของสงฆ์

ก่อนตายจิตข้าพเจ้าไปติดยึดกับของสงฆ์ที่ตนเองเคยยืมไปใช้แล้วไม่ส่งคืน เพราะจิตติดยึดในของสงฆ์ที่ตนเองยืมไปใช้ไม่ส่งคืนจึงทำให้ข้าพเจ้าเป็นพญานาคปกปักรักษาสมบัติพระศาสนา ถ้าจิตตนเองไม่ไปติดยึดเรื่องนี้ก่อนตาย ข้าพเจ้าจักได้เกิดเป็นเทพเทวดาในชั้นภูมิที่สูงกว่านี้

ส่วนคู่บารมีข้าพเจ้าเขาปรารถนาเกิดเป็นคู่บารมีกับข้าพเจ้าตลอดไป ความปรารถนาประกอบบุญของเขา จึงทำให้เขาได้มาเกิดเป็นพญานาคคู่บารมีของข้าพเจ้า
หลวงปู่ชอบ: ทำไมเมืองบ้านเมืองพญานาคจึงได้ชื่อว่า “เมืองบาดาล”?

พญานาคเจ้าจอมผาห่มพร้าวบอกท่านว่า

“เมืองบาดาล” คือชื่อที่มนุษย์เรียกกันขึ้นมาเอง พวกข้าพเจ้ามีทิพย์วิมานซ่อนเหลื่อมใกล้กับภูมิมนุษย์ พญานาคบางหมู่เหล่าก็อยู่ในสวรรค์ บางหมู่เหล่าก็อยู่ภูเขา บางหมู่เหล่าก็อยู่ในน้ำ บางหมู่เหล่าก็อยู่ใต้พิภพ พวกข้าพเจ้าจะเรียกชื่อเมืองตามชื่อของพญานาคผู้เป็นใหญ่

หลวงปู่ชอบ: โลกมนุษย์อาศัยแสงสว่างจากไฟ จากพระอาทิตย์ แสงเดือนแสงดาว บ้านเมืองพวกท่านอาศัยแสงสว่างจากอะไรเป็นเครื่องดำรงอยู่?

พญานาคผาห่มพร้าวบอกองค์ท่านว่า แสงสว่างของพระอาทิตย์ แสงเดือนแสงดาวไม่สามารถส่องถึงนาคาพิภพได้ ที่นาคพิภพไม่มีกลางวันกลางคืนเหมือนกับโลกมนุษย์ ที่เมืองนาคพิภพของพวกข้าพเจ้าจะมี “แก้วแสงทิพย์” สว่างไสวอยู่สี่มุมเมือง แสงแก้วทิพย์นี้จะสว่างไสวอยู่ตลอดเวลาไม่มีวันดับ แสงสว่างของแก้วแสงทิพย์เย็นใสไม่ร้อนเหมือนแสงพระอาทิตย์ แก้วทิพย์แสงเมืองนี้เกิดจากบุญฤทธิ์ของพวกข้าพเจ้าพญานาคทุกตนจะมีแก้วทิพย์ประจำตัว แก้วทิพย์บุญฤทธิ์จะเป็นแก้วสารพัดนึกที่พญานาคทุกตนใช้ในการนิรมิต

หลวงปู่ชอบ:พวกมนุษย์กินเนื้อสัตว์ กินพืชผักเป็นอาหาร พวกพญานาคเขาพากันกินอะไรเป็นอาหาร?

เจ้าจอมผาห่มพร้าวตอบองค์ท่านว่า พญานาคเป็นพวกกายทิพย์ไม่มีเวทนาหิวโหยเหมือนมนุษย์ ความเหนื่อยความหิวไม่มีในพญานาค พวกข้าพเจ้า “อิ่มในบุญ” จึงไม่มีเวทนาหิวโหยเหมือนพวกกายหยาบอย่างมนุษย์และเดรัจฉาน

หลวงปู่ชอบ: พญานาคมีฤทธิ์เดชมากแค่ไหน?

เจ้าจอมผาห่มพร้าวบอกองค์ท่านว่า พญานาคมีฤทธิ์มากเกินจะประมาณได้ ถ้าพวกข้าพเจ้าอยากจะทำร้ายผู้ใด เพียงแค่เพ่งฤทธิ์ใส่มนุษย์หรือสัตว์ผู้นั้น มนุษย์และสัตว์ผู้นั้นก็จะแหลกเป็นจุลในทันที พวกพญานาคมีหิริโอตัปปะธรรมสูงกว่ามนุษย์ธรรมดา ถ้าไม่เคยมีกรรมอันหนักต่อกันแล้วพวกพญานาคจะไม่ทำร้ายมนุษย์และสัตว์ให้ถึง แก่ความฉิบหายของชีวิต พญานาคมีฤทธิ์จะจำแลงเป็นอะไรก็ได้ตามที่อยากจะเป็น แต่สุดท้ายต้องกลับคืนสู่อัตภาพภูมิเดิมของตน

หลวงปู่ชอบ: เวลาพวกท่านอยู่บ้านเมืองของตน พวกพญานาคเขามีรูปร่างแบบใด?
พญานาคเจ้าจอมผาห่มพร้าวบอกท่านว่า พวกข้าพเจ้ามีรูปร่างเป็นมนุษย์เหมือนกับพระคุณเจ้านี้แหละ ไม่แตกต่างอะไรกับพวกท่านเลย
หลวงปู่ชอบ: รูปร่างของพญานาคเกิดขึ้นได้อย่างไร? กากะละนาคราชบอกองค์ท่านว่า รูปร่างของพญานาคจะเกิดขึ้นได้ด้วยเหตุหกประการ

1.เวลาแสดงตน
2.เวลาเกิดโทสะ
3.เวลาเดินทาง
4.เวลาเผลอสติ
5.เวลาแสดงฤทธิ์
6.เวลาจิตเกิดปฏิพัทธ์ในกาม

หลวงปู่ชอบ: พญานาคขึ้นมาโลกมนุษย์เพราะเหตุอะไร? เขาบอกท่านว่า พญานาคขึ้นมาโลกมนุษย์ด้วยเหตุหลักสี่ประการ

1.มาเพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นเครื่องหมายของพระศาสนา เช่น พระพุทธรูป สถูปเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารริกธาตุของพระพุทธเจ้า ของพระอรหันต์สาวก
2.มาเพื่อกราบไหว้ฟังธรรมกับท่านผู้ทรงธรรม
3.มาเพื่อบำเพ็ญบุญบารมีให้กับตนเอง
4.มาเพื่อเที่ยวชมโลกมนุษย์ แต่มาเที่ยวโลกมนุษย์จะไม่ขึ้นมาบ่อย เพราะโลกมนุษย์วุ่นวายเต็มไปด้วยกิเลส บ้านเมืองพวกข้าพเจ้าสงบร่มเย็นกว่าโลกมนุษย์..

หลวงปู่ชอบ: พวกมนุษย์มีการทะเลาะเบาะแว้งเข่นฆ่าทำร้ายกัน พวกพญานาคเป็นแบบนี้เหมือนกับพวกมนุษย์หรือไม่?

เขาตอบท่านว่า พวกพญานาคก็มีการวิวาทกันเหมือนกับมนุษย์ พอวิวาทกันพญานาคราชผู้เป็นเจ้าครองเมืองจะเป็นผู้พิพากษาเรื่องให้ การเข่นฆ่ากันในสังคมของพญานาคจะไม่มี เพราะพญานาคมี “เทวะธรรม” ครองใจ

หลวงปู่ชอบท่านถาม กากะละนาคราช เจ้าจอมพญานาคผาห่มพร้าวในทุกแง่ที่องค์ท่านอยากรู้ กากะละนาคราชตอบทุกเรื่องที่องค์ท่านถาม พอถึงกาลสมควรกากะละนาคราชและคู่บารมีพากันลาองค์ท่านกลับไปยังบ้านเมืองของพวกเขา

ท่านว่าเวลาพญานาคทั้งสองกลับ เขาจะกลายร่างเป็นพญานาคจมลงไปในแม่น้ำโขงหน้าถ้ำผาห่มพร้าว เขาไม่ได้เอาหัวมุดลงไปในน้ำเหมือนพฤติกรรมแบบงูทั่วไป ท่านว่ากิริยาแบบนี้เป็นกิริยาในการไปการมาที่เป็นลักษณะเฉพาะของพวกพญานาค ทั้งสี่ตระกูล

ท่านบอก พญานาคจะมีพฤติกรรมแตกต่างจากงูทั่วไปคือ

เวลาพญานาคเดินทางเขาจะลอยตัวไปในอากาศลักษณะพุ่งไปข้างหน้าเหมือนลูกธนูพุ่งออกจากเกาฑัณคันศร หรือลอยไปในลักษณะเหมือนคลื่นน้ำ ต่างจากพวกงู พวกงูเวลาไปจะเลื้อยวกวนออกซ้ายออกขวา

พญานาคจะไม่เอาหัวของตนเองแตะพื้นดินเหมือนกับงู พญานาคเวลาพักจะขดเป็นชั้นวงเอาหัวพาดวางไว้ที่ลำตัว เรื่องนี้องค์ท่านเคยถาม “เทพนาคา” พญานาคผู้พิทักษ์รักษา “พระพุทธบาทสี่รอย” เมืองเชียงใหม่ เพราะอะไรพญานาคจึงต้องแสดงกิริยาที่แตกต่างจากงู เทพนาคาบอกองค์ท่านว่า พญานาคเป็นเทพ มีศักดิ์เหนือกว่าพวกงูที่เป็นเดรัจฉาน พญานาคจึงแสดงศักดินาทิฐิตนเองแบบนี้

หลังพญานาคผาห่มพร้าวสองผัว เมียกลับไปแล้ว องค์ท่านจึงออกจากสมาธิ พ่อแม่ครูจารย์บอกคืนนั้นเราไม่ได้พักขันธ์ห้า (นอน) เลย เราออกจากภาวนาเราก็มานั่งไหว้พระสวดมนต์แผ่เมตตา จนถึงอรุณวันใหม่

[บันทึกโดย: ครูบากล้วย พระวีระศักดิ์ ธีรภัทโท]
หลวงปู่ชอบ ฐานสโม

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : ศิษย์มีครู
ขอขอบคุณรูปภาพสวยๆจาก : เรื่องเล่าผ่านกาลเวลา
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: